ลุ้น! Vanguard เปิดทาง 50 ล้านคน เทรด ETF ของ XRP แล้ว
Vanguard ยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนที่ขึ้นชื่อเรื่องความอนุรักษ์นิยม กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนให้ตลาดคริปโตครั้งใหญ่ ด้วยการเปลี่ยนนโยบายครั้งสำคัญเพื่อเปิดทางให้ลูกค้ากว่า 50 ล้านรายทั่วโลก สามารถเข้าถึง Spot Crypto ETF ได้แล้ว ซึ่งรวมถึงเหรียญกระแสหลักอย่าง Bitcoin, Ethereum, Solana และที่น่าจับตาคือ XRP การเคลื่อนไหวนี้ไม่เพียงแต่เป็นการเพิ่มความชอบธรรมให้กับสินทรัพย์ดิจิทัลในสายตาสถาบัน แต่ยังอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของตลาดโดยรวม
Vanguard เปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง? เปิดทางสู่ ETF ของ XRP และคริปโตตัวท็อป
Vanguard ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายที่เคยยืนกรานว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์คริปโต โดยล่าสุดได้อนุญาตให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงและซื้อขาย Spot ETF ของบุคคลที่สาม (third-party) ที่ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำได้ ซึ่งประกอบด้วย Bitcoin (BTC), Ether (ETH), XRP และ Solana (SOL) โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะซื้อขายบนตลาดหลักทรัพย์ที่ได้รับการกำกับดูแล เช่นเดียวกับ ETF ที่อ้างอิงกับทองคำ
อย่างไรก็ตาม Vanguard จะยังไม่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ ETF ของตัวเอง แต่จะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางในการให้บริการเท่านั้น ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายที่มีต่อ Gold ETF นอกจากนี้ บริษัทจะยังคงหลีกเลี่ยงการให้บริการผลิตภัณฑ์ที่เชื่อมโยงกับ Meme coin หรือโทเค็นที่ไม่ได้รับการกำกับดูแล โดยให้เหตุผลว่ามีความเสี่ยงจากการเก็งกำไรสูงเกินไปสำหรับแพลตฟอร์มของตน ตามที่ Eric Balchunas นักวิเคราะห์อาวุโสของ Bloomberg อ้างถึง Vanguard ระบุว่า ETF ที่ได้รับเลือกเหล่านี้ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าสามารถทำงานได้ตามที่ออกแบบไว้ แม้จะผ่านช่วงเวลาที่ตลาดผันผวนอย่างรุนแรงก็ตาม
ทำไมการเปลี่ยนนโยบายของ Vanguard จึงสำคัญต่อ XRP และตลาด?
การตัดสินใจครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากขนาดฐานลูกค้าของ Vanguard ซึ่ง ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2025 มีลูกค้ามากกว่า 50 ล้านราย และให้บริการกองทุนกว่า 224 กองทุนในสหรัฐฯ และ 228 กองทุนในตลาดต่างประเทศ การเปิดให้เข้าถึง ETF ของ XRP และคริปโตอื่นๆ บนแพลตฟอร์มขนาดมหึมานี้ เป็นการลดอุปสรรคสำหรับนักลงทุนที่สนใจสินทรัพย์ดิจิทัล และเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าแม้แต่บริษัทการเงินที่อนุรักษ์นิยมที่สุดก็ไม่สามารถเพิกเฉยต่อความต้องการของตลาดได้อีกต่อไป
นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งเมื่อเทียบกับท่าทีในอดีต โดยอดีต CEO อย่าง Tim Buckley เคยวิจารณ์ว่า Bitcoin ETF “ไม่เหมาะกับพอร์ตการลงทุนระยะยาว” และมองว่าเป็น “สินทรัพย์เก็งกำไรที่ผันผวนเกินไป” การเปลี่ยนนโยบายภายใต้ผู้บริหารชุดใหม่จึงสะท้อนถึงการตอบสนองต่อแรงกดดันจากลูกค้า หลังจากที่ได้เห็นคู่แข่งอย่าง BlackRock และ Fidelity ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม โดย iShares Bitcoin Trust ของ BlackRock สามารถระดมทุนแตะ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความต้องการที่แท้จริงในตลาด
จับตาทิศทางตลาด: การเคลื่อนไหวของ Vanguard จะส่งผลต่อ XRP อย่างไร?
การตัดสินใจของ Vanguard สอดคล้องกับเทรนด์ของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ในช่วงปลายปี 2025 โดยก่อนหน้านี้ Bank of America ได้ขยายการเข้าถึงคริปโตสำหรับลูกค้ากลุ่มบริหารความมั่งคั่ง พร้อมคำแนะนำให้จัดสรรพอร์ตการลงทุนในสัดส่วน 1%-4% สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ ขณะที่ Spot Bitcoin ETF ทั้งหมดสามารถดึงดูดเม็ดเงินลงทุนได้หลายหมื่นล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ต้นปี 2024 ซึ่งตอกย้ำถึงความต้องการที่ยั่งยืนจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน
การเคลื่อนไหวของ Vanguard อาจส่งผลให้ตลาดคริปโตมีความคึกคักมากขึ้น เมื่อลูกค้าจำนวนมหาศาลเริ่มสำรวจตัวเลือกการลงทุนใน ETF ใหม่ๆ ซึ่งอาจดึงดูดความสนใจและเม็ดเงินเพิ่มเติมเข้ามายังสินทรัพย์อย่าง XRP และเหรียญอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าลูกค้าส่วนใหญ่ของ Vanguard เป็นนักลงทุนระยะยาวที่เน้นการออมเพื่อการเกษียณและอาจไม่คุ้นเคยกับความผันผวนสูง แต่ถึงกระนั้น การมีทางเลือกที่เข้าถึงง่ายและได้รับการกำกับดูแลก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะเปลี่ยนมุมมองของนักลงทุนที่มีต่อตลาดคริปโตไปตลอดกาล
Bitcoin Hyper: โปรเจกต์ Layer-2 ที่น่าจับตาในปี 2025
ท่ามกลางกระแสการยอมรับจากสถาบันที่เพิ่มขึ้น โปรเจกต์ใหม่ๆ ที่มีศักยภาพก็กำลังได้รับความสนใจเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ Bitcoin Hyper ที่สร้างปรากฏการณ์ด้วยการระดมทุนทะลุ 29 ล้านดอลลาร์ในเวลาไม่ถึง 4 เดือน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั่วโลก และทำให้มันกลายเป็นหนึ่งใน เหรียญ Presale ที่มีโมเมนตัมแรงที่สุดของปี สำหรับนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทน Bitcoin Hyper เสนอโอกาสในการ Staking ด้วย APY สูงถึง 49% ในช่วงแรก ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำคัญในการถือเหรียญระยะยาว นอกจากนี้ เหรียญ HYPER ยังมี Utility ที่ชัดเจน โดยใช้เป็นทั้งค่า Gas ในการทำธุรกรรมและเป็น Governance Token สำหรับกำหนดทิศทางของโปรเจกต์ในอนาคต จุดเด่นทางเทคโนโลยีคือการสร้างบน Solana Virtual Machine (SVM) เพื่อแก้ปัญหาของ Bitcoin เดิม ทำให้เครือข่ายเร็วขึ้นในระดับหลายหมื่น TPS และมีค่าธรรมเนียมเฉลี่ยต่ำกว่า 0.001 ดอลลาร์ การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ทำให้ Bitcoin Hyper เป็น Altcoin ที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาโซลูชันที่ใช้งานได้จริง
เมื่อคุณต้องการหลักฐานสนับสนุนการตัดสินใจเกี่ยวกับ Bitcoin Hyper เราขอเสนอ บทวิเคราะห์ราคา Bitcoin Hyper หรือดูคู่มือวิธีซื้อ Bitcoin Hyper แบบละเอียด เป็นข้อมูลอ้างอิงหลัก
สามารถใช้ เว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper เป็นแหล่งข้อมูลหลัก และอัปเดตความเห็นผู้ใช้ผ่าน X และ ช่อง Telegram
ยอดระดมทุนล่าสุด
ราคาจะถูกปรับขึ้นอีกครั้งภายใน:
ข่าวเด่นห้ามพลาด
in numbers
