วิธีซื้อ Ethereum (ETH) ในปี 2025 อย่างง่ายๆ
ในวันนี้ Ethereum ได้กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยมีราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 5,000 ดอลลาร์ นี่หมายถึงกำไรกว่า 1.6 ล้านเปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
โดยบทความนี้จะอธิบายวิธีการซื้อ Ethereum ในปี 2025 เรายังจะรวบรวมบรรดาแพลตฟอร์มยอดนิยมในการลงทุนใน ETH และสิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจซื้อ
ข้อควรพิจารณาก่อนซื้อ Ethereum
เรียกได้ว่ามีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนหาวิธีลงทุนใน Ethereum เป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่ต้องทำความเข้าใจว่า Ethereum คืออะไร และเหมือนสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด ราคาของ Ethereum มีความผันผวน มูลค่าเงินลงทุนของคุณสามารถขึ้นลงอย่างมาก ดังนั้นนักลงทุนควรเตรียมพร้อมสำหรับเส้นทางที่ไม่ราบรื่น ยกตัวอย่างเช่น หลังจากที่ Ethereum ทำราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่เกือบ 5,000 ดอลลาร์ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ราคาก็ร่วงลงมาถึงต่ำสุดประมาณ 1,000 ดอลลาร์ในหนึ่งปีต่อมา
นี่แสดงถึงการลดลงอย่างรวดเร็วถึง 80% สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าจังหวะการลงทุนสามารถส่งผลกระทบอย่างมากต่อผลตอบแทนจากการลงทุน อย่างไรก็ตาม Ethereum ก็ฟื้นตัวขึ้นไปแตะ 2,700 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสูงสุดในรอบ 52 สัปดาห์ การกระจายการลงทุนใน Ethereum เป็นช่วงๆ สามารถลดความเสี่ยงจากความผันผวนในระยะสั้นได้ นอกจากนี้ ประเทศส่วนใหญ่ยังเก็บภาษีสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Ethereum ด้วย
ยกตัวอย่างเช่น ในสหรัฐอเมริกา สรรพากร (IRS) ถือว่า Ethereum เป็นสินทรัพย์ ดังนั้นจึงต้องเสียภาษีกำไรจากการขาย ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณตัดสินใจ “Stake” Ethereum เพื่อรับผลตอบแทน รายได้ส่วนนั้นจะถูกเก็บภาษีเป็นรายได้ ในแง่ของกฎระเบียบ Ethereum สามารถซื้อขายได้อย่างถูกกฎหมายในประเทศส่วนใหญ่
คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) ยืนยันแล้วว่า Ethereum ไม่ใช่หลักทรัพย์ ดังนั้นโปรเจ็กต์จึงสามารถดำเนินการต่อไปได้โดยไม่มีอุปสรรคด้านกฎระเบียบ ซึ่งต่างจาก XRP ที่ยังคงอยู่ในการฟ้องร้องกับ SEC ท้ายที่สุดแล้ว เป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมและโปรเจ็กต์อยู่เสมอเมื่อลงทุนใน Ethereum ปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดมูลค่าในอนาคตของ Ethereum ดังนั้นจึงเป็นการดีที่จะคอยติดตามข่าวสาร
วิธีการซื้อ Ethereum ง่ายๆ ภายใน 3 ขั้นตอน ผ่าน Best Wallet
ต่อไปคือคู่มือสำหรับมือใหม่ในการซื้อ ETH ในปี 2025
-
- ขั้นตอนที่ 1: สร้างกระเป๋า Ethereum – ขั้นตอนแรกคือการมีกระเป๋า Ethereum ที่ปลอดภัย Best Wallet เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งของเรา มันเป็นกระเป๋าเงินแบบ Self-custody ที่มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ดาวน์โหลดแอป Best Wallet สำหรับ iOS หรือ Android ตั้งค่า PIN หรือระบบไบโอเมตริกซ์และจดวลีสำรองไว้
- ขั้นตอนที่ 2: เปิดบัญชี Crypto Exchange – ต่อมา นักลงทุน Ethereum ต้องมีบัญชีกับ Crypto Exchange ซึ่ง Best Wallet เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเนื่องจากช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการสินทรัพย์ Crypto ภายในแอปพลิเคชันรวมถึงซื้อ เก็บรักษาและแลกเปลี่ยน Crypto ได้ด้วยการแตะปุ่มเพียงเล็กน้อย
- ขั้นตอนที่ 3: เทรด ETH ผ่าน Best DEX – เชื่อมต่อกระเป๋าเงินของคุณกับ Best DEX และเริ่มเทรด ETH และโทเค็นบน BNB smart chain ได้ในไม่กี่วินาที นอกจากนี้ Best DEX กำลังพัฒนาอย่างเต็มที่เพื่อนำการอัปเดตตลาดแบบเรียลไทม์ การสร้างกราฟขั้นสูงผ่าน Trading View รวมถึงการวิเคราะห์โทเค็น
Best Wallet – กระเป๋าเงินที่เราแนะนำ
เราได้จัด Best Wallet เป็นหนึ่งใน กระเป๋าเงิน Crypto แบบกระจายศูนย์ที่ดีที่สุด โดยมันเป็นแอปกระเป๋าเงินแบบ Self-custody สำหรับสมาร์ทโฟน iOS และ Android ส่วนขยายเบราว์เซอร์สำหรับอุปกรณ์เดสก์ท็อปกำลังถูกพัฒนา – คาดว่าจะพร้อมใช้งานในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า Best Wallet มอบการเก็บรักษา ETH อย่างปลอดภัยจากเซิร์ฟเวอร์แบบรวมศูนย์ มีเพียงผู้ใช้เท่านั้นที่สามารถเข้าถึง Private Keys ของตน
ยิ่งไปกว่านั้น แอป Best Wallet มาพร้อมกับคุณสมบัติด้านความปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการยืนยันตัวตนสองปัจจัยและไบโอเมตริกซ์ Best Wallet ยังได้รับการปกป้องด้วยวลีสำรองสำหรับการกู้คืนบัญชี Best Wallet ไม่เพียงแต่รองรับ ETH แต่ยังรองรับโทเค็น ERC-20 ทั้งหมด นอกจากนี้ยังสนับสนุนโทเค็นที่กำหนดเองจาก BNB Chain และ Polygon Bitcoin จะถูกเพิ่มในระยะการพัฒนาถัดไป
ในแง่ของการซื้อ Ethereum Best Wallet มี Fiat on-ramp ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการดำเนินการกระบวนการ KYC จากนั้นนักลงทุนสามารถเลือกใช้บัตรเดบิต/เครดิตหรือ e-wallet เหรียญ ETH จะถูกเพิ่มเข้าไปใน Best Wallet ทันทีเมื่อเสร็จสิ้น Best Wallet จะเปิดตัว Fiat off-ramp ในเร็วๆ นี้ ซึ่งหมายความว่าสามารถแลก ETH เป็นสกุลเงินที่คุณต้องการได้ Best Wallet มีคู่มือที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับ วิธีซื้อ Ethereum ด้วย Best Wallet หากคุณต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอน
ข้อดี:
- ซื้อ Ethereum โดยไม่ต้องเปิดบัญชี
- เชื่อมต่อกระเป๋าเงินแล้วเทรดได้ทันที โดยไม่ระบุตัวตน
- รองรับโทเค็น ERC20 และ BEP20 ทั้งหมด
- ไม่มีการเก็บเพิ่มส่วนต่างในอัตราแลกเปลี่ยน
- หน้าการเทรดที่ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่
ข้อด้อย:
- แม้จะรองรับช่องทางฝากสกุลเงินเฟียต แต่ก็ต้องยืนยันตัวตนด้วย
- ยังไม่มีเครื่องมือสำหรับ Staking Ethereum
| แพลตฟอร์มซื้อขาย | ค่าธรรมเนียมการฝาก | ค่าคอมมิชชันในการซื้อ Ethereum |
| Best Wallet | ไม่มีค่าธรรมเนียมการฝากสกุลเงินดิจิทัล ค่าธรรมเนียมช่องทางฝากสกุลเงินเฟียตขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการการชำระเงิน | ไม่มี – อัตราแลกเปลี่ยนขึ้นอยู่กับสภาพคล่อง ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเครือข่าย |
การซื้อ Ethereum ด้วย Best Wallet
สำหรับการซื้อ Ethereum ผ่าน Best Wallet ผู้ใช้งานจะพบกับกระบวนการที่เป็นมิตรและเข้าใจง่าย โดยแอปพลิเคชันมีระบบ Fiat OnRamp ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแปลงเงินสกุลปกติเป็นคริปโตได้อย่างสะดวก ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีในการยืนยันตัวตนผ่านกระบวนการ KYC หลังจากนั้น นักลงทุนสามารถเลือกชำระเงินผ่านบัตรเดบิต/เครดิต หรือ ewallet ได้ตามความสะดวก เมื่อการทำธุรกรรมเสร็จสิ้น Ethereum จะถูกเพิ่มเข้าไปในกระเป๋าเงิน Best Wallet ของผู้ใช้งานทันที
นอกจากนี้ ทีมพัฒนาของ Best Wallet กำลังเตรียมเปิดตัวระบบ Fiat OffRamp ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถแปลง Ethereum กลับเป็นสกุลเงินปกติได้ง่ายขึ้น หากคุณต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกระบวนการซื้อ Ethereum ผ่าน Best Wallet แอปพลิเคชันนี้ยังมีคำแนะนำที่ครอบคลุมในหัวข้อ “How to Buy Ethereum With Best Wallet” ที่พร้อมให้คุณศึกษาเพิ่มเติม
แพลตฟอร์มกระเป๋าเงินอื่นๆ ที่ควรพิจารณา ในการซื้อ Ethereum
อย่างไรก็ตาม หากคุณกำลังมองหาแพลตฟอร์มตัวเลือกอื่นๆในการซื้อ Ether ในปี 2025 เราได้ทำการคัดตัวเลือกอื่นๆที่น่าสนใจมา 2 แพลตฟอร์ม ได้แก่:
1. MEXC – ซื้อและขาย Ethereum ด้วยค่าคอมมิชชันต่ำ
MEXC เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตชื่อดังที่รองรับหลายเหรียญคริปโตน่าลงทุนรวมถึง Ethereum เปิดบัญชีที่ผ่านการยืนยันได้ภายในไม่กี่นาที หลังจากนั้น คุณสามารถซื้อ Ethereum ได้ทันทีด้วยสกุลเงินเฟียต ตัวเลือกการชำระเงินรวมถึง Visa, Mastercard, การโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ และ e-wallet บางประเภท
การซื้อ Ethereum ขั้นต่ำคือเพียง 30 ดอลลาร์เท่านั้น จากนั้นเหรียญ ETH จะถูกเพิ่มเข้าไปในบัญชี MEXC ของคุณทันที หมายความว่าคุณไม่ต้องกังวลเรื่องการส่งคำสั่งซื้อแบบ Market ค่าธรรมเนียม MEXC จะแตกต่างกันไปตามหลายปัจจัย เช่น ใช้ช่องทางการชำระเงินของบุคคลที่สามหรือไม่ รวมถึงสกุลเงินหรือวิธีการชำระเงินที่เลือก
อย่างไรก็ตาม ค่าคอมมิชชันการเทรดกำหนดไว้ที่เพียง 0.1% เท่านั้น นั่นหมายความว่าคุณจะจ่ายค่าคอมมิชชัน 0.10 ดอลลาร์ สำหรับการเทรดทุกๆ 100 ดอลลาร์ MEXC ทำหน้าที่เป็นบัญชีออมทรัพย์ Ethereum ได้ด้วย โดยให้ผลตอบแทน (APY) ที่ได้ถึง 4.8% ในปัจจุบัน ไม่มีค่าธรรมเนียมการถอน หมายความว่าคุณสามารถถอนเงินได้ทุกเมื่อ
ข้อดี:
- ในมุมมองของเรา MEXC คือแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในการซื้อ Ethereum ในปี 2025
- รับการโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ บัตรเดบิต/เครดิต และ e-wallet
- จ่ายค่าคอมมิชชันเพียง 0.10 ดอลลาร์ ต่อการเทรดทุกๆ 100 ดอลลาร์
- รองรับเหรียญ altcoin อีกหลายร้อยสกุล
- มีสภาพคล่องสูงมาก ทำให้มั่นใจได้ในราคาที่แข่งขันได้
ข้อด้อย:
- ไม่รับลูกค้าจากสหรัฐฯ แคนาดา และสิงคโปร์
- ค่าธรรมเนียมการชำระเงินด้วยสกุลเงินเฟียตอาจสูงได้หากใช้ช่องทางของบุคคลที่สาม
| แพลตฟอร์มซื้อขาย | ค่าธรรมเนียมการฝาก | ค่าคอมมิชชันในการซื้อ Ethereum |
| MEXC | แสดงเมื่อทำการฝากเงินด้วยบัตรเดบิต/เครดิต ขึ้นอยู่กับวิธีการชำระเงิน สกุลเงิน และประเทศที่พำนัก | 0.10% |
2. Binance – ตัวเลือกยอดเยี่ยมสำหรับการซื้อและสะสม Ethereum
Binance เป็นกระดานซื้อขายคริปโตขนาดใหญ่ที่ไม่เพียงแต่รองรับการซื้อขาย Ethereum เท่านั้น แต่ยังมีเครื่องมือสร้างผลตอบแทนอีกด้วย นั่นหมายความว่าคุณสามารถซื้อ ETH และรับผลตอบแทนในแพลตฟอร์มเดียวกัน Binance รับฝากเงินด้วยบัตรเดบิต/เครดิต และการโอนเงินผ่านธนาคารในประเทศ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกประเทศที่รองรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินเฟียต คุณจึงต้องยืนยันก่อนดำเนินการต่อ
ถึงอย่างนั้น Binance คิดค่าคอมมิชชันสูงสุด 0.10% ซึ่งจะลดลงเมื่อเทรดจำนวนมากขึ้น ค่าธรรมเนียมยังลดลงได้ด้วยเมื่อถือ BNB ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลประจำของ Binance นอกจากนี้มันยังรองรับการ Stake Ethereum 2.0 โดยมีอัตราผลตอบแทน (APY) ปัจจุบันที่ 2.86% นอกจากนี้ ยังมีบัญชี Ethereum แบบยืดหยุ่น แต่ให้ผลตอบแทนเพียง 0.83%
สำหรับนักลงทุนที่ชอบความเสี่ยง อาจพิจารณาการลงทุน Dual Investment ใน Ethereum ซึ่งให้อัตราผลตอบแทน (APR) สูงกว่า 123% Binance ยังเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับนักเทรดเชิงเทคนิค มีเครื่องมือในการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น ตัวบ่งชี้และเครื่องมือวาดกราฟ รวมถึงการเทรด Futures และสัญญา Options แม้จะเปิดรับชาวอเมริกัน แต่ Binance มีแพลตฟอร์มแยกต่างหากสำหรับลูกค้าในสหรัฐฯ
ข้อดี:
- เทรด Ethereum ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง
- มีตัวเลือก Staking, บัญชีแบบยืดหยุ่น และการลงทุน Dual Investment สำหรับ ETH
- ซื้อ Ethereum ด้วยค่าคอมมิชชันเพียง 0.1%
- แอปมือถือสำหรับ iOS และ Android
- ลูกค้าสหรัฐฯ สามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มเฉพาะ
ข้อด้อย:
- ไม่ได้รองรับการชำระเงินด้วยสกุลเงินเฟียตในทุกประเทศ
- หน้าจอการเทรดอาจดูน่ากลัวสำหรับมือใหม่
| แพลตฟอร์มซื้อขาย | ค่าธรรมเนียมการฝาก | ค่าคอมมิชชันในการซื้อ Ethereum |
| Binance | ขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มซื้อขาย (สหรัฐฯหรือต่างประเทศ), วิธีชำระเงิน และสกุลเงิน การโอนผ่านธนาคารบางประเภทไม่มีค่าธรรมเนียม บัตรเดบิต/เครดิตเฉลี่ย 2% | 0.10% |
วิธีต่างๆ ในการซื้อ Ethereum
โดยปกติแล้ว มีสองวิธีทั่วไปในการซื้อ Ethereum ใน 2025 ซึ่งแต่ละวิธีนั้นมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป
ในขณะที่นักลงทุนบางคนชอบซื้อ Ethereum ผ่านกระเป๋าเงิน เหรียญ ETH จะถูกเพิ่มเข้าไปในกระเป๋าเงินทันที ทำให้มีความสะดวกมากขึ้น อย่างไรก็ตาม กระเป๋าเงิน Ethereum ใช้เกตเวย์บุคคลที่สามเมื่อรับเงินแบบ Fiat ซึ่งหมายความว่ามีค่าธรรมเนียมที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีวิธีอื่นๆอีกมากมาย ที่ช่วยให้คุณสามารถครอบครอง Ethereum ได้ โดยต่อไปนี้จะเป็นตัวอย่างของการซื้อ Ethereum ด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้:
1. การซื้อผ่านตู้ ATM สกุลเงินดิจิทัล
ตู้ ATM สกุลเงินดิจิทัลช่วยให้คุณซื้อ Ethereum ในโลกแห่งความเป็นจริงได้ ใช้งานคล้ายตู้ ATM ทั่วไป แต่ในทางกลับกัน คือคุณใส่เงินเข้าไปในตู้และแลกกลับมาเป็น Ethereum
เนื่องจากแพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ทำให้การซื้อ Ethereum เป็นเรื่องง่ายดาย ความสนใจในตู้ ATM สกุลเงินดิจิทัลจึงลดลง อีกทั้งยังมีปัญหาเรื่องค่าธรรมเนียมที่สูงด้วย
ตามรายงานของธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขา Kansas City ค่าธรรมเนียมของตู้ ATM สกุลเงินดิจิทัลอยู่ที่ 16% สำหรับการขายสกุลเงินดิจิทัลผ่านตู้ ATM เฉลี่ยอยู่ที่ 15% ในขณะที่การทำธุรกรรมแบบเดียวกันบน MEXC จะมีค่าใช้จ่ายเพียง 0.1%
2. การซื้อผ่านแพลตฟอร์มแบบ Peer-to-Peer (P2P)
แพลตฟอร์ม Peer-to-Peer (P2P) เชื่อมต่อผู้ซื้อกับผู้ขายสกุลเงินดิจิทัลในตลาด ขั้นแรก ผู้ซื้อจะเลือกวิธีชำระเงินที่ต้องการและจำนวนเงินลงทุน จากนั้นระบบจะแสดงรายชื่อผู้ขาย เรียงตามอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีที่สุด
หลังจากตกลงซื้อขาย ผู้ขายต้องโอนเหรียญ ETH ไปยังบัญชี Escrow ของ P2P ซึ่งเป็นการรับประกันว่าผู้ซื้อจะได้รับเหรียญหลังจากชำระเงิน จากนั้นผู้ซื้อจะดำเนินการชำระเงินและได้รับเหรียญของตน
ในอดีต แพลตฟอร์ม P2P เคยได้รับความนิยมในหมู่นักเทรดสกุลเงินดิจิทัล แต่ปริมาณการซื้อขายลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หนึ่งในสาเหตุคือข้อกำหนด KYC ที่เข้มงวดขึ้น ผู้ขาย P2P ส่วนใหญ่จะขอเอกสารยืนยันตัวตนจากผู้ซื้อ เพื่อให้มั่นใจว่าปฏิบัติตามกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน หากไม่ทำเช่นนั้น อาจมีความผิดทางอาญา ด้วยเหตุนี้ แพลตฟอร์ม P2P จึงดึงดูดผู้ที่ต้องการซื้อ Ethereum แบบไม่ระบุตัวตนได้น้อยลง
3. ผ่านแพลตฟอร์มผู้ให้บริการชำระเงินที่รองรับ
ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มชำระเงินด้วยสกุลเงินเฟียตจำนวนมากขึ้นเข้าสู่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้ให้บริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดบางรายได้แก่
- Moonpay
- Simplex
- Banxa
- Mercuryo
- Onramper
ผู้ให้บริการเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลกับเงินสกุลจริง ตัวอย่างเช่น กระเป๋าเงิน Ethereum จำนวนมากจะร่วมมือกับช่องทางชำระเงิน ทำให้ผู้ใช้สามารถซื้อและขาย Ethereum ในอินเทอร์เฟซของกระเป๋าเงินได้โดยตรง ไม่จำเป็นต้องผ่านแพลตฟอร์มซื้อขาย
ช่องทางชำระเงินเหล่านี้ยังถูกนำมาใช้โดยแพลตฟอร์มซื้อขายด้วย หากไม่ได้รับอนุญาตให้จัดการเงินสกุลจริง อย่างไรก็ตาม การใช้ช่องทางชำระเงินอาจมีค่าใช้จ่ายสูง เราพบว่าผู้ให้บริการบางรายคิดค่าธรรมเนียมสูงถึง 5% หรือมากกว่านั้น
4. แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล
แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตส่วนใหญ่มีแอปพลิเคชันสำหรับ Android และ iOS ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อ Ethereum ได้ทุกที่ แอปมักจะเชื่อมต่อกับเว็บไซต์บนเดสก์ท็อป หมายความว่าผู้ใช้สามารถสลับไปมาระหว่างสองแพลตฟอร์มได้ตลอดเวลา
ยิ่งไปกว่านั้น แอปสกุลเงินดิจิทัลมักจะมีฟังก์ชันเป็นกระเป๋าเงิน Ethereum ด้วย
วิธีเก็บ Ethereum อย่างปลอดภัย
การซื้อ Ethereum เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการลงทุน ขั้นตอนต่อไปคือการพิจารณาการจัดเก็บ เพราะสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Ethereum เป็นที่ต้องการอย่างมากโดยแฮกเกอร์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะต้องเก็บเหรียญคริปโตให้ปลอดภัย
ลองมาดูว่า Crypto Wallet ที่ดีที่สุด ในรูปแบบต่างๆทำงานอย่างไรในการจัดเก็บ Ethereum
1. แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโต
เมื่อคุณซื้อ Ethereum บนแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เหรียญ ETH จะอยู่ในบัญชีของคุณ เหรียญจะถูกเก็บไว้ในกระเป๋าเงินที่ควบคุมโดย Exchanges หมายความว่าคุณจะไม่สามารถเข้าถึง Private Key ของตัวเองได้ ซึ่งมีความเสี่ยงบางประการ
อย่างแรกเลย คุณจะโอน ETH ไปกระเป๋าเงินอื่นได้ก็ต่อเมื่อธุรกรรมได้รับการอนุมัติจาก Exchanges ซึ่งขัดกับหลักการกระจายศูนย์ของบล็อกเชน Ethereum
ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งคือ หากแพลตฟอร์มซื้อขายถูกแฮ็ก ซึ่งอาจทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงเหรียญ ETH ของคุณได้ ส่งผลให้เงินทุนสูญหาย อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางคนเก็บ ETH ไว้ในแพลตฟอร์มซื้อขายเพื่อความสะดวก แต่เราไม่แนะนำให้ทำเช่นนั้น
2. Cold Wallet
หากคุณกำลังมองหาวิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการเก็บ Ethereum ให้พิจารณากระเป๋าเงิน Cold Wallet ผู้ให้บริการชั้นนำในด้านนี้คือ Ledger Nano และ Trezor ทั้งสองมี Cold Wallet แบบผ่านอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์
ข้อดีหลักของกระเป๋า Cold Wallet คือไม่เคยเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ทำให้การแฮ็กระยะไกลแทบเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้ คุณยังต้องใส่ PIN บนอุปกรณ์เพื่ออนุมัติการโอน Ethereum อีกด้วย
กระเป๋าเงินคริปโตที่ดีที่สุดจะรักษาความปลอดภัยด้วย Backup Passphrase ซึ่งมักเป็นรหัสคำ 12 คำแบบสุ่ม คุณจะต้องใช้รหัสนี้หากอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สูญหาย เสียหาย หรือถูกขโมย โดยสรุปแล้ว หากคุณลงทุนจำนวนมากใน Ethereum ควรเลือกใช้กระเป๋าเงินแบบ Cold Wallet
3. Paper Wallet
หากคุณไม่มีงบซื้อ Hardware Wallet ให้พิจารณา Paper Wallet ทั้งสองอย่างบรรลุเป้าหมายเดียวกัน นั่นคือเสนอที่เก็บแบบ Cold Wallet ความแตกต่างหลักคือ Paper Wallet ไม่สะดวกเท่า และคุณจะสามารถเก็บได้เฉพาะ Ethereum และโทเค็น ERC-20 เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม Paper Wallet มีความปลอดภัยสูงมาก
- อย่างแรก คุณต้องสร้างที่อยู่กระเป๋าเงิน Ethereum ใหม่พร้อม Private Key ซึ่งทำได้จากซอฟต์แวร์กระเป๋าเงินส่วนใหญ่ เช่น Trust Wallet
- จากนั้นโอนเหรียญ ETH ไปที่ที่อยู่กระเป๋าเงิน
- ต่อไป จดที่อยู่กระเป๋าเงินและ Private Key ลงบนกระดาษ
- สุดท้าย ลบซอฟต์แวร์กระเป๋าเงินออกจากอุปกรณ์
ในขั้นตอนนี้ Paper Wallet จะเป็นที่เดียวที่เก็บ Private Key ของคุณ หากต้องการโอนเหรียญ ETH คุณจะต้องติดตั้งซอฟต์แวร์กระเป๋าเงินใหม่และนำเข้า Private Key เข้าไป
4. Hot Wallet
Hot Wallet จะเชื่อมต่ออยู่กับอินเทอร์เน็ตตลอดเวลาและมีความสะดวกมาก ช่วยให้คุณส่งและรับเหรียญ ETH ได้อย่างง่ายดาย Hot Wallet บางประเภทมาในรูปแบบส่วนขยาย (Extension) ของเบราว์เซอร์ นั่นหมายความว่าคุณสามารถเข้าถึงกระเป๋าเงินจากอุปกรณ์เดสก์ท็อปได้
อย่างไรก็ตาม เราชอบ Hot Wallet บนมือถือมากกว่า เพราะมีความสะดวกแต่มีความปลอดภัยเพิ่มเติม ตัวอย่างเช่น Hot Wallet ที่ดีที่สุดมาพร้อมการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า หรือลายนิ้วมือ อย่างไรก็ตาม Hot Wallet มีความเสี่ยงที่จะถูกแฮ็กอยู่เสมอ
การคลิกลิงก์ที่ไม่รู้จักเพียงครั้งเดียวก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ หากแฮกเกอร์ได้ Private Key ของคุณ พวกเขาจะสามารถเข้าถึง Hot Wallet จากระยะไกลได้ ในทางกลับกัน Cold Wallet ไม่เคยสัมผัสกับเซิร์ฟเวอร์ที่ทำงานอยู่เลย
วิธีต่างๆ ในการถอน Ethereum อย่างง่ายๆ
Ethereum เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด ดังนั้นการขายเหรียญ ETH จึงเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว หากคุณมีบัญชีที่ผ่านการยืนยันกับแพลตฟอร์มซื้อขายอยู่แล้วนี่คือตัวเลือกที่ดีที่สุด คุณสามารถโอนเหรียญ ETH ไปยังแพลตฟอร์มและขายเป็นเงินสกุลจริงได้ Binance เป็นตัวเลือกที่ดีในกรณีนี้ เนื่องจากรองรับการถอนเงินผ่านการโอนธนาคารในหลายประเทศ
แม้ว่า MEXC จะรองรับการฝากเงินด้วยสกุลเงินเฟียต แต่ไม่ได้รองรับการถอนโดยตรง อย่างไรก็ตาม คุณสามารถใช้แพลตฟอร์มซื้อขายแบบ P2P ของ MEXC ได้ ซึ่งช่วยให้คุณขายเหรียญ ETH ให้กับผู้ขายในพื้นที่ ผู้ขายจะโอนเงินสกุลจริงไปยังช่องทางการชำระเงินที่คุณต้องการ เช่น บัญชีธนาคารหรือ e-wallet
นอกจากนี้ ตามข้อมูลของ CoinATMRadar เผยว่าในปัจจุบันมีตู้ ATM สกุลเงินดิจิทัลหลายร้อยตู้ที่ให้คุณขาย Ethereum ได้แล้ว โดยคุณจะต้องโอนเหรียญ ETH ไปยังที่อยู่กระเป๋าเงินของตู้ ATM จากนั้นตู้ ATM จะจ่ายเงินสดให้คุณ อย่างไรก็ตาม อย่างที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ ค่าธรรมเนียมเฉลี่ยในการขายสกุลเงินดิจิทัลที่ตู้ ATM อยู่ที่ 15%
Best Wallet – อีกทางเลือกสำหรับการขายเหรียญบนแพลตฟอร์มแบบกระจายศูนย์
อย่างไรก็ตาม อีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการขาย Ethereum นั่นคือการแลกเปลี่ยนเหรียญ ETH กับสกุลเงินดิจิทัลอื่น ซึ่งสามารถทำได้บนแพลตฟอร์มซื้อขายแบบกระจายศูนย์อย่าง Best Wallet โดยไม่ต้องเปิดบัญชีหรือยืนยันตัวตน นอกจากนี้ Best Wallet ให้คุณแลกเปลี่ยน ETH กับสกุลเงินดิจิทัลอีกนับพันสกุล เช่น Tether, Uniswap และ Shiba Inu
การใช้งาน Ethereum ในปี 2025
สงสัยไหมว่าในปี 2025 คุณจะสามารถใช้งาน Ethereum กับอะไรได้บ้าง?
เรียกได้ว่าในปัจจุบัน มีร้านจำนวนไม่น้อยที่รับการชำระเงินด้วย Ethereum ยกตัวอย่างเช่น Newegg, CheapAir, Overstock, Twitch และ Chipotle หากคุณพบร้านค้าที่ร่วมมือกับ BitPay คุณก็จะสามารถใช้ Ethereum ได้ด้วยเช่นกัน
Staking Ethereum เพื่อรับผลตอบแทนแบบ Passive
นอกจากนี้ หากคุณเชื่อมั่นในอนาคตของ Ethereum คุณอาจพิจารณา Staking เหรียญ ETH ของคุณ ซึ่งหมายถึงการล็อกเหรียญเอาไว้ชั่วคราวในสัญญา Staking ของ Ethereum โดยการทำเช่นนี้ คุณจะช่วยรักษาความปลอดภัยของเครือข่ายและได้รับผลตอบแทนแบบ Passive โดยที่จะได้รับผลตอบแทนเป็น ETH ที่เพิ่มขึ้น ในพอร์ตการลงทุนได้โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
อนาคตของ Ethereum เป็นอย่างไรต่อไป?
Ethereum เปิดตัวในปี 2015 ซึ่งยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น ถึงกระนั้น ก็มีมูลค่าตลาดมหาศาลกว่า 280,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าบริษัทชั้นนำส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม Ethereum ยังคงซื้อขายต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลที่เกือบ 5,000 ดอลลาร์ ถึง 50% ในระยะสั้นนักลงทุนจะมุ่งไปที่การกลับไปยังระดับสูงสุดเดิม
ในระยะยาว ศักยภาพในการเติบโตนั้นไม่อาจคาดเดาได้ ตามที่ Cathie Wood ซีอีโอของ ARK Invest กล่าวไว้ Ethereum อาจแตะ 180,000 ดอลลาร์ภายในปี 2030 จากราคาปัจจุบัน จะต้องเพิ่มขึ้นกว่า 7,700% ซึ่งจะทำให้ Ethereum มีมูลค่าตลาดหลายล้านล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม อนาคตของ Ethereum ยังขึ้นอยู่กับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้วย ในขณะที่ Ethereum เคยเป็นระบบนิเวศแบบ Proof-of-Work แต่ปัจจุบันได้อัปเกรดเป็น Proof-of-Stake แล้ว ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของ Ethereum ลงกว่า 99% การอัปเกรด Proof-of-Stake ยังหมายความว่านักลงทุนสามารถ Stake เหรียญ ETH เพื่อรับผลตอบแทนแบบ Passive ได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม Ethereum ยังคงเป็นระบบนิเวศที่ค่อนข้างช้า ปัจจุบันยังสามารถรองรับธุรกรรมได้เพียงประมาณ 30 รายการต่อวินาที ในทางตรงกันข้าม บล็อกเชน Samart contract อื่นๆ สามารถรองรับธุรกรรมได้หลายพันรายการในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียม GAS ของ Ethereum ก็ยังคงเป็นปัญหาอยู่ ในช่วงเวลาที่วุ่นวายค่าธรรมเนียมอาจสูงเกิน 10 ดอลลาร์
มีแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์นับพันที่ทำงานบนบล็อกเชน Ethereum แต่ละระบบนิเวศต้องการธุรกรรม ซึ่งอาจเป็นการเพิ่มภาระให้กับเครือข่าย Ethereum มากขึ้นไปอีก ดังนั้น เพื่อให้ Ethereum บรรลุศักยภาพสูงสุด จึงต้องเพิ่มความสามารถในการขยายขนาดและลดค่าธรรมเนียม มิฉะนั้น คู่แข่งอย่าง Solana อาจแย่งส่วนแบ่งการตลาดของ Ethereum ไปได้
สรุป
โดยสรุป Ethereum ยังคงเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองรองจาก Bitcoin มีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก แม้ว่าจะต้องปรับปรุงเรื่องความสามารถในการขยายขนาดเพื่อสู้กับคู่แข่งจากบล็อกเชนอื่นๆ
เนื่องจากปัจจุบันซื้อขายต่ำกว่าจุดสูงสุดตลอดกาลกว่า 50% ตอนนี้จึงอาจเป็นช่วงเวลาที่ดีในการซื้อ Ethereum MEXC เป็นแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยในการลงทุน และคิดค่าคอมมิชชันเพียง 0.1% MEXC ยังมีบัญชีออมทรัพย์ Ethereum ที่ให้ผลตอบแทน (APY) 4.8% อีกด้วย
แหล่งที่มา
-
ความเป็นมาของอีเธอเรียม (Ethereum): จากไอเดียสู่แพลตฟอร์มใหญ่
-
ตู้ ATM สำหรับซื้อขาย Bitcoin: ทางเลือกใหม่ที่มากับข้อถกเถียง
-
การลดการใช้พลังงานของ Ethereum: ความสำเร็จและข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อม
คำถามที่พบบ่อย (FAQs) เกี่ยวกับการซื้อ Ethereum
ซื้อ Ethereum ได้ยังไง?
คุณสามารถซื้อ Ethereum บน MEXC ด้วยค่าคอมมิชชันเพียง 0.1% เปิดบัญชี อัปโหลดเอกสารยืนยันตัวตน แล้วซื้อ Ethereum ได้ทันทีด้วยบัตรเดบิต/เครดิต แพลตฟอร์มซื้อขายอีกหลายร้อยแห่งก็มี Ethereum ให้ซื้อขายเช่นกัน
สามารถซื้อ Ethereum มูลค่า 100 บาทได้ไหม?
คำตอบคือได้ เพราะ Ethereum สามารถซื้อไม่เต็มเหรียญเป็นหน่วยเล็กๆ ได้ ดังนั้นจึงสามารถลงทุน 100 บาทได้ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมตรวจสอบจำนวนฝากขั้นต่ำของแพลตฟอร์มซื้อขายที่เลือกด้วย
Ethereum ดีกว่า Bitcoin หรือไม่?
Ethereum และ Bitcoin มีกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ในขณะที่ Bitcoin ถือเป็นสินทรัพย์ที่สะสมมูลค่าได้ Ethereum เป็นระบบนิเวศ Samart contract ที่รองรับแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์
สามารถขาย Ethereum เป็นเงินสดได้ไหม?
คำตอบคือได้ คุณสามารถขาย Ethereum เป็นเงินสด คุณต้องใช้แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่รองรับการถอนเงินด้วยสกุลเงินจริง โปรดพิจารณาค่าธรรมเนียม ความปลอดภัย และจำนวนถอนขั้นต่ำก่อนดำเนินการ
in numbers
