เจาะลึกเหรียญ AI: รวมเหรียญยอดนิยมและเหรียญใหม่ที่ต้องจับตามอง
นับได้ว่าโครงการที่เป็นเหรียญ AI ตอนนี้ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก ทำให้หลาย ๆ โปรเจกต์สามารถระดมทุนได้อย่างสูงต่อเนื่องกันหลายโครงการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่ออกแบบมาเพื่อการทำนายราคาหรืออำนวยความสะดวกให้กับนักลงทุน
บทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักและสำรวจโครงการเอไอในตลาดคริปโตที่น่าสนใจ มาดูกันว่าพวกเขาเป็นโครงการอย่างไร และทำไมจึงได้รับความนิยมจากนักลงทุน และตอนนี้กำลังพัฒนาไปในทิศทางใด
พร้อมกับข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการซื้อขายคริปโตที่ควรรู้ อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกอย่างล้วนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรตรวจสอบข้อมูลและตัดสินใจอย่างรอบคอบก่อนการลงทุนใด ๆ
เทรนด์เหรียญ AI ทำไมเหรียญ AI ถึงน่าสนใจ
เหรียญ AI ไม่ได้เป็นเพียงเทรนด์ที่น่าสนใจในช่วงสั้นๆ แต่ยังเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างเทคโนโลยี AI และบล็อกเชนซึ่งช่วยขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งความปลอดภัยของบล็อกเชนนั้นมีประโยชน์อย่างมากต่ออุตสาหกรรมการเงิน

อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีเฉพาะธุรกิจการเงินเท่านั้นที่ได้รับผลประโยชน์ บล็อกเชนยังสามารถพัฒนาและต่อยอดไปได้อีกมากมาย บวกกับความก้าวหน้าของ AI ทำให้เหรียญ AI ได้รับความนิยมมากขึ้นด้วยเหตุผลต่าง ๆ ดังนี้
ความสำคัญของ AI ในบล็อกเชน
AI และบล็อกเชนเป็นสองเทคโนโลยีที่สามารถเสริมศักยภาพซึ่งกันและกันได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งส่วนมากจะขับเคลื่อนด้วยการใช้เหรียญ AI โทเค็น
ในการทำงานร่วมกันนั้น AI สามารถช่วยในการประมวลผลข้อมูลที่ซับซ้อนบนเครือข่ายบล็อกเชน เช่น การวิเคราะห์ธุรกรรม การคาดการณ์ราคา และการพัฒนาสัญาอัจฉริยะ ที่มีความยืดหยุ่นและปลอดภัยมากขึ้น
ในขณะเดียวกัน บล็อกเชนช่วยสร้างโครงสร้างข้อมูลที่โปร่งใสและป้องกันการปลอมแปลง ซึ่งเหมาะกับการใช้งาน AI ในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data ซึ่งเหรียญ AI หลายโครงการที่จัดการข้อมูลดังกล่าวและนำมาจัดทำการตลาด หรือประมวลผลแบบทำนายราคาของคริปโต เป็นต้น
การเติบโตของตลาด AI
ตลาด AI และ ai coin ทั่วโลกมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าถึงหลายล้านล้านดอลลาร์ในทศวรรษหน้า ความต้องการในเทคโนโลยี AI ที่เพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การเงิน การแพทย์ และโลจิสติกส์ ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพที่ไร้ขีดจำกัดของเหรียญ AI
โดยเฉพาะเหรียญที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์ม AI เช่น Render และ Virtual ซึ่งกำลังได้รับความนิยมในฐานะเครื่องมือที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการทำงาน
ทำไมนักลงทุนควรสนใจ AI Coins
ในเมื่อ AI เริ่มเข้ามามีบทบาทอย่างมากในอุตสาหกรรมต่าง ๆ แล้ว เรามาดูว่าทำไมจึงควรลงทุน
- ศักยภาพการเติบโตสูง: การรวม AI และบล็อกเชนช่วยสร้างโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น การใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชนเพื่อสร้างโมเดลการลงทุนที่แม่นยำ
- การใช้งานจริงที่เพิ่มขึ้น: หลายโปรเจกต์เหรียญ AI ได้พัฒนาแพลตฟอร์มที่สามารถใช้งานได้จริง เช่น Render Network ซึ่งใช้ AI เพื่อสร้างภาพเสมือนจริง (Virtual Render) ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และเกม
- แนวโน้มที่แข็งแกร่ง: โครงการมักได้รับการสนับสนุนจากชุมชนคริปโตที่มองเห็นศักยภาพระยะยาว พร้อมทั้งได้รับการยอมรับจากองค์กรใหญ่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
- การดึงดูดการลงทุนจากองค์กร: เหรียญเอไอได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันและองค์กรขนาดใหญ่ที่เล็งเห็นศักยภาพของการใช้ AI ในการเพิ่มขีดความสามารถของอุตสาหกรรม เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การวิจัย และการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน
- ความเป็นเอกลักษณ์และการสร้างมูลค่าเพิ่ม: AI coin มักจะมาพร้อมกับคุณสมบัติที่เฉพาะเจาะจง เช่น การใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลข้อมูล การสร้าง Smart Contracts อัตโนมัติ หรือการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ทำให้นักลงทุนสามารถมองเห็นโอกาสในการสร้างมูลค่าจากเทคโนโลยีที่แตกต่างออกไปจากเหรียญดิจิทัลทั่วไป
เจาะลึกเหรียญ AI ยอดนิยม
1. SUBBD ($SUBBD) – แพลตฟอร์มสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI
SUBBD เป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนด้วย AI บนเครือข่าย Ethereum ที่ออกแบบมาเพื่อปฏิวัติตลาดการสมัครสมาชิกคอนเทนต์มูลค่า 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยกำจัดตัวกลางที่ไม่มีประสิทธิภาพและเพิ่มอำนาจให้ทั้งครีเอเตอร์และแฟนๆ ปัจจุบันอยู่ในช่วงพรีเซลและระดมทุนได้แล้วกว่า 110,000 ดอลลาร์ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง

ความน่าสนใจคือ SUBBD แก้ไขปัญหาสำคัญของอุตสาหกรรมที่ครีเอเตอร์สูญเสียรายได้ถึง 70% ให้กับแพลตฟอร์มแบบดั้งเดิม เครื่องมือ AI ที่มีในตัวช่วยให้ครีเอเตอร์จัดการทุกอย่างตั้งแต่การจัดการคอนเทนต์ไปจนถึงการมีส่วนร่วมกับแฟนๆ ทำหน้าที่เสมือนผู้ช่วยเสมือนจริงที่ช่วยอัตโนมัติงานประจำวัน และยังมีเครื่องมือสร้างคอนเทนต์ AI ที่ช่วยสร้างรูปภาพและวิดีโอใหม่ๆ ไลฟ์สตรีม และการสร้างเสียงแบบกำหนดเองได้
- จุดเด่น: มีเครือข่ายมากกว่า 2,000 ครีเอเตอร์ที่มีผู้ติดตามรวมกันถึง 250 ล้านคน พร้อมชุดเครื่องมือ AI ที่ครบวงจรเพื่อแก้ปัญหาในอุตสาหกรรมจริง
- จุดด้อย: ยังอยู่ในช่วงพรีเซลจึงยังไม่มีผลงานที่พิสูจน์ความสำเร็จในตลาดจริง
- การใช้งานจริง: การถือเหรียญ SUBBD จะให้สิทธิการเข้าถึงคอนเทนต์พิเศษ สิทธิ์ในการกำกับดูแลแพลตฟอร์ม และผลประโยชน์จากการ staking ที่ให้ผลตอบแทนคงที่ 20% APY
2. Akash Network (AKT)
Akash Network (AKT) คือเหรียญ AI โครงการ DePIN ชั้นนำที่มุ่งเปลี่ยนโฉมวงการคลาวด์คอมพิวติ้งด้วยระบบแบบกระจายอำนาจ จุดเด่นของแพลตฟอร์มคือ ตลาดกลางคลาวด์ที่เชื่อมต่อผู้ให้บริการและผู้ใช้งานผ่านสัญญาเช่าแบบ peer-to-peer รองรับการชำระเงินทั้งด้วย stablecoin และเหรียญประจำเครือข่าย AKT ซึ่งยังมีบทบาทด้านการกำกับดูแล (governance) ภายในระบบอีกด้วย
แนวคิดนี้เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานตั้งแต่โปรเจกต์ DeFi ไปจนถึงระบบ AI agent สามารถเข้าถึงทรัพยากรคอมพิวเตอร์ระดับสูง เช่น GPU, CPU และหน่วยความจำ ได้ในราคาประหยัดสูงสุดถึง 80% เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการคลาวด์แบบดั้งเดิม
สิ่งที่ทำให้ Akash โดดเด่นขึ้นในยุคของ AI คือความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับเวิร์กโหลดของ AI และ Machine Learning ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงที่ความต้องการ GPU สำหรับการฝึกโมเดล AI เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก
Akash เปิดทางให้ทุกคนสามารถเชื่อมต่อกับทรัพยากรเหล่านี้ได้แบบเรียลไทม์ผ่านระบบคลาวด์แบบกระจายอำนาจที่ไม่ต้องผ่านตัวกลาง ซึ่งทำให้แพลตฟอร์มนี้ได้รับสมญาว่าเป็น “Decentralized Supercloud” ตัวแรกของโลก และมีจุดแข็งในด้านความปลอดภัย ความโปร่งใส และการไม่ถูกควบคุมจากศูนย์กลาง
- จุดเด่น: ประหยัดต้นทุนสูงสุดถึง 80% เมื่อเทียบกับคลาวด์ทั่วไป รองรับเวิร์กโหลด AI/ML ได้ดี มี GPU คุณภาพสูงจาก Nvidia อย่าง H100, H200 และ A100 ให้เลือกใช้ ระบบกระจายศูนย์ปลอดภัยและไม่ถูกเซ็นเซอร
- จุดด้อย: พึ่งพาซัพพลายเออร์ GPU จากบุคคลที่สาม ราคาทรัพยากรอาจผันผวนตามอุปสงค์ ต้องแข่งขันกับโครงการ DePIN อื่นที่เริ่มเข้ามาในตลาด
- การใช้งานจริง: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักพัฒนา AI ทีม ML และผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ต้องการใช้ GPU เพื่อการประมวลผลหนัก เช่น การอนุมาน AI แบบเรียลไทม์ การฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่ หรือการสร้างภาพเชิงศิลป์บนเครือข่ายกระจายอำนาจที่ลดต้นทุนได้จริงและพร้อมปรับขนาดตามความต้องการ
3. Internet Computer (ICP)
Internet Computer (ICP) คือเหรียญ AI ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชนระดับ Layer 1 ที่ออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูลทั่วโลกให้กลายเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่แบบกระจายศูนย์ ทำหน้าที่คล้ายคลาวด์ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี DePIN
นักพัฒนาสามารถสร้างและโฮสต์แอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (dApps) ได้โดยตรงบนเชนโดยไม่ต้องพึ่งบริการคลาวด์จากภายนอก จุดเด่นของ ICP คือความสามารถในการรันโมเดล AI แบบ on-chain อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเปิดประตูสู่ยุคใหม่ของ “AI ที่ไม่ต้องพึ่งศูนย์กลาง” ทั้งในแง่ความปลอดภัย ความเป็นอิสระ และการตรวจสอบได้

สิ่งที่ทำให้ Internet Computer แตกต่างจากแพลตฟอร์มบล็อกเชนทั่วไปคือการนำเสนอแนวคิด “Chain Fusion” ที่ช่วยให้ ICP สามารถเชื่อมต่อและสื่อสารโดยตรงกับเครือข่ายใหญ่อื่น ๆ อย่าง Bitcoin, Ethereum และ Solana เพื่อมอบประสบการณ์แบบ “single-chain” ให้กับผู้ใช้ปลายทาง
ระบบ ที่ออกแบบเองของ ICP ยังสามารถยืนยันธุรกรรมได้ภายในไม่ถึง 2 วินาที ทำให้การทำงานของแอปพลิเคชัน AI หรือ decentralized agent เป็นไปได้อย่างราบรื่น ทั้งยังเปิดโอกาสให้นักพัฒนาใช้ภาษาที่หลากหลาย เช่น Motoko และ Rust เพื่อสร้างบริการใหม่บนโครงสร้างที่ปลอดภัยระดับคณิตศาสตร์
- จุดเด่น: ความเร็วในการประมวลผลสูงและ latency ต่ำ รองรับการรันโมเดล AI แบบ on-chain โดยตรง มีฟีเจอร์ Chain Fusion เชื่อมกับเครือข่ายอื่นได้ ความปลอดภัยและความทนทานของเครือข่ายสูง
- จุดด้อย: ถูกวิจารณ์เรื่องการกระจายศูนย์ในการจัดสรรโทเค็นช่วงแรก ระบบมีความซับซ้อนและต้องใช้เวลาเรียนรู้มากกว่าเชนที่ใช้ EVM ปริมาณนักพัฒนายังน้อยเมื่อเทียบกับเชนหลักอื่น
- การใช้งานจริง: ICP ถูกใช้ในการสร้าง dApps เว็บไซต์ และบริการ AI บนคลาวด์แบบกระจายศูนย์ เช่น แชตบอตอัจฉริยะ ระบบการเรียนรู้ของเครื่อง และ decentralized agents ที่สามารถโต้ตอบกับทั้ง Web2 และ Web3 ได้โดยตรง มอบสภาพแวดล้อมที่รวดเร็ว ปลอดภัย และไม่ถูกควบคุมจากศูนย์กลาง
4. Space and Time (SXT)
Space and Time (SXT) คือโปรเจ็กต์เหรียญ AI บล็อกเชนที่ได้รับการสนับสนุนจาก Microsoft และเปิดตัวในปี 2025 โดยมีภารกิจในการสร้างฐานข้อมูลแบบกระจายศูนย์ที่ตรวจสอบได้เพื่อรองรับการทำงานของ AI และ Web3
จุดเด่นของแพลตฟอร์มนี้คือการใช้เทคโนโลยี Zero-Knowledge Proofs (ZKPs) เพื่อพิสูจน์ความถูกต้องของข้อมูลและการคำนวณแบบไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลต้นฉบับ ทำให้ข้อมูลที่ส่งไปยังสมาร์ตคอนแทรกต์หรือโมเดล AI มีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยสูงสุด SXT จึงกลายเป็นสะพานเชื่อมระหว่างข้อมูลโลกจริง (off-chain data) กับโลกบล็อกเชนในรูปแบบที่สามารถตรวจสอบได้

หนึ่งในนวัตกรรมสำคัญของ Space and Time คือ Proof of SQL ซึ่งเป็นโคโปรเซสเซอร์ ZK ที่ช่วยให้สามารถรันคำสั่ง SQL ขนาดใหญ่บนฐานข้อมูลได้เพียงครั้งเดียว พร้อมสร้างหลักฐานการตรวจสอบความถูกต้องแบบเรียลไทม์ก่อนส่งผลลัพธ์ไปยังสมาร์ตคอนแทรกต์ เทคโนโลยีนี้เปิดโอกาสให้สัญญาอัจฉริยะสามารถทำงานกับข้อมูลขนาดใหญ่ได้โดยไม่เสียความเร็วหรือความปลอดภัย
อีกทั้ง Space and Time ยังมีระบบ staking ผ่านโทเค็น SXT เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ตรวจสอบข้อมูล (validators) รักษาความถูกต้องของเครือข่าย หากตรวจพบการปลอมแปลงหรือพฤติกรรมไม่เหมาะสม เงินเดิมพันจะถูกตัดทอน ทำให้ระบบมีเสถียรภาพและเชื่อถือได้ในระยะยาว
- จุดเด่น: ใช้เทคโนโลยี ZKPs เพื่อรับรองความถูกต้องของข้อมูลและคำสั่ง SQL มีความร่วมมือกับ Chainlink และองค์กรใหญ่ระดับโลก รองรับการทำงานแบบ multi-chain และสามารถส่งข้อมูลระหว่าง Web2 กับ Web3 ได้อย่างปลอดภัย
- จุดด้อย: จำนวนผู้พัฒนาและผู้มีส่วนร่วมในชุมชนยังน้อยเมื่อเทียบกับโปรโตคอลรุ่นเก่า ระบบ ZK-based SQL อาจมีต้นทุนการประมวลผลสูงและใช้เวลาสร้างหลักฐานนานในบางกรณี ยังอยู่ในช่วงพิสูจน์โมเดลธุรกิจและความยั่งยืนของโทเคโนมิกส์
- การใช้งานจริง: เหมาะสำหรับโครงการ AI Web3 และ DeFi ที่ต้องการดึงข้อมูลจากโลกจริงเข้าสู่สมาร์ตคอนแทรกต์อย่างปลอดภัย เช่น แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูล oracle สำหรับ AI dashboard หรือระบบการเงินแบบกระจายศูนย์ที่ต้องอาศัยข้อมูลภายนอกที่เชื่อถือได้ Space and Time จึงเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้ข้อมูลและบล็อกเชนทำงานร่วมกันได้อย่างแท้จริง
5. Virtuals Protocol (VIRTUALS)
Virtuals Protocol (VIRTUALS) คือโครงการ AI Agent ที่ถูกสร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum และเข้ากันได้กับเครือข่าย Base เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
Virtuals Protocol ช่วยให้ทุกคนสามารถสร้างและใช้งาน AI Agents แบบอัตโนมัติได้แม้ไม่มีทักษะการเขียนโค้ด อย่างไรก็ตาม นักพัฒนา AI ที่มีประสบการณ์ก็ได้รับการรองรับเช่นกัน โดย Virtuals Protocol มี Native Development Kit ให้ใช้งาน

Virtuals Protocol มีโทเค็นเป็นของตนเองซึ่งชื่อว่า VIRTUALS ซึ่งจะถูกใช้สำหรับการชำระค่าธรรมเนียมเมื่อผู้ใช้ใช้งาน AI Agents อีกทั้งโทเค็นยังยังมอบสิทธิ์การมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลโครงการผ่านการโหวตและเมื่อโทเค็นถูกแปลงเป็น xVirtual ผู้ใช้ก็จะสามารถใช้เพื่อรับรางวัลจากการ Stake ได้
- จุดเด่น: การเน้นความโปร่งใสและความสามารถในการตรวจสอบโมเดล AI
- จุดด้อย: มีข้อจำกัดในเรื่องของความเร็วเมื่อเทียบกับระบบ centralized AI
- การใช้งานจริง: มีแพลตฟอร์ม Virtuals Protocol ช่วยให้ทุกคนสามารถสร้างและใช้งาน AI Agents แบบอัตโนมัติได้แม้ไม่มีทักษะการเขียนโค้ด
6. TAO (Bittensor) – Native Token ของ Bittensor บล็อกเชนที่ออกแบบมาเพื่อเป็น dAI
TAO ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อสนับสนุนการประมวลผล AI แบบกระจาย (Decentralized AI) โดยชุมชนผู้ใช้งานสามารถสร้างโมเดล AI และได้รับรางวัลเป็นโทเค็น TAO เมื่อมีการใช้งาน

TAO เป็นเหรียญ AI ที่ขับเคลื่อนโดยโปรเจกต์ Bittensor ซึ่งใช้ AI สำหรับการกระจายข้อมูลความรู้ระหว่างเครือข่ายแบบ decentralized โดยเน้นการสร้างโมเดล AI ที่สามารถเรียนรู้ร่วมกันบนเครือข่าย บล็อกเชน จุดเด่นของ TAO คือการให้รางวัลแก่ผู้ที่ให้ข้อมูลที่มีคุณภาพผ่านระบบ Proof of Knowledge เช่นเดียวกับเหรียญ fet เหรียญอื่น ๆ
- จุดเด่น: การสนับสนุนชุมชน AI ช่วยเพิ่มความร่วมมือระหว่างนักพัฒนา
- จุดด้อย: เทคโนโลยีอยู่ในช่วงเริ่มต้น ทำให้ต้องใช้เวลาในการพัฒนาต่อไป
- การใช้งานจริง: เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการพื้นที่สำหรับฝึกโมเดล AI ในระบบกระจายศูนย์
7. Render (RNDR) – Native Token ของ Render Network โซลูชันที่ช่วยให้การเรนเดอร์กราฟิก 3D
Render Network ใช้ GPU บนบล็อกเชนเพื่อการประมวลผลภาพ 3D และกราฟิกที่ซับซ้อน โดยเฉพาะในวงการภาพยนตร์และเกม

Render Network เป็นเหรียญ AI ที่ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อสร้างระบบการประมวลผลกราฟิกแบบ decentralized โดยเชื่อมโยงระหว่างผู้สร้างเนื้อหา 3D กับผู้ที่มีทรัพยากร GPU ที่ไม่ได้ใช้งาน จุดเด่นคือช่วยลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเรนเดอร์ภาพกราฟิกขนาดใหญ่ ทำให้เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมเกมและภาพยนตร์
- จุดเด่น: เพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างกราฟิกระดับสูงด้วยต้นทุนที่คุ้มค่า
- จุดด้อย: ค่าใช้จ่ายในการใช้งาน GPU อาจสูงในบางกรณี
- การใช้งานจริง: ใช้ในโปรเจกต์ Virtual Render และอุตสาหกรรมบันเทิงที่ต้องการกราฟิกระดับสูง
8. ASI (AltSignals) – เหรียญ Utility ของ AltSignals โครงการที่ใช้ AI สร้างสัญญาณการซื้อขาย
AltSignals คือแพลตฟอร์มที่ให้บริการ AI Signal Trading โดยใช้โมเดลปัญญาประดิษฐ์ในการวิเคราะห์และให้คำแนะนำในการซื้อขายคล้ายกับการทำงานของโครงการ fet ใน ERC20

ASI เป็นโปรเจกต์ที่มุ่งเน้นการสร้างระบบ AI อัจฉริยะที่สามารถทำงานร่วมกับบล็อกเชนได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยใช้ระบบโทเค็นเพื่อกระตุ้นการพัฒนาและใช้งานโมเดล AI จุดเด่นของ ASI คือการผสมผสานความสามารถของ AI กับความโปร่งใสและความปลอดภัยของบล็อกเชน
- จุดเด่น: การให้สัญญาณซื้อขายที่แม่นยำช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
- จุดด้อย: มีข้อจำกัดในตลาดบางประเภท
- การใช้งานจริง: ใช้สำหรับนักลงทุนที่ต้องการกลยุทธ์การซื้อขายแบบอัตโนมัติ
9. GRT (The Graph)
GRT คือโปรโตคอลที่ช่วยให้ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันสามารถดึงข้อมูลจากบล็อกเชนผ่าน API ได้ง่ายขึ้น

GRT หรือ The Graph เป็นโปรโตคอลแบบ decentralized สำหรับการจัดทำดัชนีข้อมูลบนบล็อกเชนทำให้การดึงข้อมูลจากสัญญาอัจฉริยะเป็นไปได้ง่ายและรวดเร็ว จุดแข็งคือความสามารถในการทำให้แอปพลิเคชัน DeFi และ dApps สามารถดึงข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีความสามารถใกล้เคียงกับ agix coin ผู้นำแห่งเหรียญ ai
- จุดเด่น: ความนิยมในแวดวง DeFi และการเป็นส่วนสำคัญในโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน
- จุดด้อย: การแข่งขันสูงในตลาดโปรโตคอล
- การใช้งานจริง: เหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการสร้างแอปพลิเคชันที่ใช้ข้อมูลจากบล็อกเชน
10. Virtual (VIR)
Virtual เป็นเหรียญ AI ที่ใช้ AI เพื่อสร้างโลกเสมือนจริง (Virtual World) โดยมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่สมจริงสำหรับผู้ใช้งานและนักพัฒนา จุดเด่นคือการผสมผสานระหว่างเทคโนโลยี AI และ Metaverse ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในวงการเทคโนโลยี

- การทำงานของ Protocol: Virtual ใช้ AI ในการสร้างแพลตฟอร์มโลกเสมือน (Virtual World) ที่ช่วยสร้างประสบการณ์สมจริงสำหรับผู้ใช้ เช่น การพัฒนา Metaverse หรือเกมที่เน้นการโต้ตอบอย่างมีปฏิสัมพันธ์
- ความสัมพันธ์กับ AI: แพลตฟอร์มนี้ผสมผสาน AI เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้และปรับปรุงความสมจริงของกราฟิกและการจำลองสถานการณ์
- การประยุกต์ใช้งาน: เหมาะสำหรับนักพัฒนาเกม ผู้สร้างคอนเทนต์ VR และธุรกิจที่ต้องการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า
- จุดแข็ง: การเชื่อมต่อกับ Metaverse และเทคโนโลยี AI ทำให้เป็นที่สนใจในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต
- จุดอ่อน: การแข่งขันในตลาด Metaverse สูง และต้องการทรัพยากรสูงในการพัฒนา
11. Qubic Coin (QBC)
qubic coin เป็นโปรเจกต์ที่ใช้ AI ในการประมวลผลแบบกระจาย (Distributed Computing) เพื่อช่วยจัดการกับงานที่มีความซับซ้อน เช่น การคาดการณ์และวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ จุดเด่นคือการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในการใช้งาน AI สำหรับองค์กร

- การทำงานของ Protocol: qubic coin มุ่งเน้นการประมวลผลแบบกระจาย (Distributed Computing) โดยใช้ AI ในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่
- ความสัมพันธ์กับ AI: แพลตฟอร์มนี้ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน เช่น การคาดการณ์แนวโน้มตลาด
- การประยุกต์ใช้งาน: ใช้ในองค์กรที่ต้องการโซลูชัน AI ที่ประหยัดต้นทุน เช่น การวิเคราะห์ทางการเงิน หรือการจัดการทรัพยากร
- จุดแข็ง: มีความสามารถในการปรับปรุงประสิทธิภาพของงานที่ซับซ้อนและลดต้นทุน
- จุดอ่อน: ต้องเผชิญความท้าทายด้านความปลอดภัยข้อมูลและการยอมรับในตลาด
12. Cortex (CTXC)
Cortex เป็นแพลตฟอร์มเหรียญ AI ที่เน้นการทำงานบนบล็อกเชนโดยตรง ช่วยให้นักพัฒนาสามารถรันโมเดล Machine Learning บนเครือข่าย decentralized ได้ จุดเด่นคือความโปร่งใสและความสามารถในการตรวจสอบโมเดล AI ที่ใช้งานจริง ซึ่งเหมาะสำหรับภาคธุรกิจและการเงิน

- การทำงานของ Protocol: Cortex เป็นแพลตฟอร์มที่เน้นการใช้งานโมเดล AI บน บล็อกเชน โดยตรง ทำให้สามารถรัน Machine Learning บนเครือข่าย decentralized ได้
- ความสัมพันธ์กับ AI: แพลตฟอร์มนี้เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสร้างและปรับปรุงโมเดล AI ที่สามารถตรวจสอบได้ โปร่งใส และยุติธรรม
- การประยุกต์ใช้งาน: เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการระบบ AI ที่เชื่อถือได้ เช่น การเงิน การแพทย์ และการบริหารจัดการ
- จุดแข็ง: การเน้นความโปร่งใสและความสามารถในการตรวจสอบโมเดล AI
- จุดอ่อน: มีข้อจำกัดในเรื่องของความเร็วเมื่อเทียบกับระบบ centralized AI
วิธีซื้อเหรียญ AI กับ Best Wallet
Best Wallet คือช่องทางในการซื้อเหรียญ AI ที่ดีที่สุดที่เราอยากแนะนำ เพราะเป็นแอปพลิเคชันกระเป๋าคริปโตที่รองรับเหรียญจากบล็อกเชนมากกว่า 60 เครือข่าย สมัครสมาชิกง่ายและไม่มีขั้นตอนการยืนยันตัวตน สามารถ Swap เหรียญได้โดยตรง และมีฟีเจอร์และฟังก์ชันดี ๆ อีกหลายประการ
ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดและติดตั้ง Best Wallet
ทำการดาวน์โหลด Best Wallet บน Play Store หรือ App Store และติดตั้งบนมือถือให้เรียบร้อย
ขั้นตอนที่ 2: ลงทะเบียน
ทำการสมัครสมาชิกกับ Best Wallet ด้วยบัญชีเครือข่ายสังคมออนไลน์หรือกรอกแบบฟอร์ม ทำการยืนยันอีเมล และตั้งค่าความปลอดภัยด้วยข้อมูลไบโอเมตริกซ์ให้เรียบร้อย
ขั้นตอนที่ 3: ซื้อเหรียญ AI
ไปที่หน้าแรกและคลิกที่ ‘Buy’ จากนั้นปฏิบัติตามขั้นตอน ดังนี้
- ค้นหาชื่อเหรียญ AI หรือกรอกชื่อเหรียญ AI ลงในช่องค้นหา เช่น MIND of Pepe
- เลือกผู้ให้บริการ On-ramp เช่น Guardarian
- เลือกวิธีการชำระเงิน เช่น บัตรเครดิต
- กรอกจำนวนเงินหรือเหรียญที่ต้องการซื้อ ตรวจสอบคำสั่งซื้อ และคลิก ‘Buy MIND of Pepe’
AI Agent ในวงการคริปโตคืออะไร?
การเข้าใจในวิธีการทำงานของ AI ของคริปโตและ AI Agent เป็นสิ่งสำคัญก่อนที่คุณจะตัดสินใจลงทุนในตลาดที่มีความเสี่ยงนี้ อธิบายอย่างง่ายคือบอทใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของเครื่องในการทำงานโดยอัตโนมัติ เช่น การทำงานซ้ำ ๆ โดยที่ไม่ต้องการการควบคุมจากมนุษย์ซึ่งต่างจากแชทบอทในช่วงแรก เช่น ChatGPT ที่ AI Agent สามารถสื่อสารกับแพลตฟอร์มนอกระบบได้
ตัวอย่าง เช่น AI Agent ที่ลงทุนใน Stablecoin บนระบบนิเวศ DeFi โดยอัตโนมัติ อาจได้รับมอบหมายให้โอน USDT ระหว่าง Liquidity Pool เมื่อพบ Yield ที่ดีกว่าในขณะนั้น
- ตัวอย่างเช่น ปัจจุบัน Liquidity Pool อาจให้ผลตอบแทน 5.5%
- AI Agent ไม่เพียงแต่สามารถค้นหา Pool ที่ให้ผลตอบแทน 7.4% เท่านั้น แต่ยังทำการโอนทรัพย์สินให้เสร็จสมบูรณ์โดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากมนุษย์
ในทางตรงกันข้าม แชทบอท AI สามารถให้เพียงข้อมูลเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถดำเนินการแก้ปัญหาด้วยตัวเองนอกเหนือจากฟังก์ชันนี้ได้ นี่คือเหตุผลที่ AI Agent เป็นกลุ่มคริปโตที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในตลาด มีโอกาสมากมายอย่างไม่สิ้นสุด งานที่ทำด้วยมือจะถูกแทนที่ด้วยบอทอัตโนมัติในที่สุด อีกแง่มุมหนึ่งของ AI Agent คือพวกมันจะฉลาดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจาก AI Agent จะเก็บและตรวจสอบข้อมูลอย่างต่อเนื่องแบบ Reinforcement Learning ที่จะมีการเรียนรู้และพัฒนาจากข้อผิดพลาดอยู่เสมอ
- ตัวอย่างเช่น พิจารณา AI Agent ที่เชี่ยวชาญในการซื้อขาย NFT เพื่อทำกำไร
- จะมีการติดตามเทรนด์ราคาพื้นฐาน ความต้องการ ปริมาณการซื้อขาย และตัวชี้วัดสำคัญอื่น ๆ
- มีการเก็บข้อมูลบนแพลตฟอร์ม On-chain และ Off-chain ตลอด 24/7
- นี่หมายความว่า AI Agent จะฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากโมเดลมีการเพิ่มข้อมูลทุกวัน
- เมื่อเวลาผ่านไป AI Agent จะทราบว่าเมื่อใดควรซื้อ NFT ที่มีมูลค่าต่ำกว่าความเป็นจริงตามการฝึกฝนของมันได้อย่างแม่นยำ
โครงการ AI Agent ของคริปโตส่วนใหญ่มี Native Token ซึ่งมักมาพร้อมกับจุดประสงค์ในการใช้งานเฉพาะ ตัวอย่างเช่น เหรียญจะถูกใช้สำหรับการจ่ายค่าธรรมเนียมในการใช้งาน AI Agent หรือการเข้าถึงคุณสมบัติหลัก โดยแผนพรีเมียมสามารถชำระได้ด้วย Native Token เท่านั้น
การใช้งานหลักของ AI Agent ในคริปโต
ตอนนี้เราได้อธิบายวิธีการทำงานของโครงการ AI Agent ของคริปโตแล้ว มาดูการใช้งานในโลกจริงพร้อมตัวอย่างที่เข้าใจง่าย
1) การเทรดและการคาดการณ์ที่ฉลาดขึ้น
โครงการคริปโต AI Agent ชั้นนำช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจได้ฉลาดขึ้น แนวคิดนั้นเรียบง่าย – ผู้ใช้สามารถใช้ AI Agent เพื่อค้นหา เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน แทนพวกเขา ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการค้นคว้าและวิเคราะห์ตลาดด้วยตนเอง
AI Agent จะสแกนข้อมูล On-chain และ Off-chain ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถประเมินข้อมูลจำนวนมากได้แบบเรียลไทม์ ตรวจจับรูปแบบและกระแสไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวของกระเป๋าคริปโตของวาฬหรือการไหลเข้าของเงินทุนในเครือข่ายเฉพาะ เช่น Base หรือ TON
ตัวอย่างเช่น วิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเทรดและกระแสทางสังคมที่กว้างขึ้น โดยจะเผยแพร่ผลการค้นหาบน X โดยอัตโนมัติซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่มีค่าสำหรับผู้ติดตามกว่า 483,000 คน
2) Smart Contract อัตโนมัติ
AI Agent ยังเหมาะสำหรับการทำให้ Smart Contracts ทำงานอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้ได้เปรียบในระบบนิเวศ Web 3.0 ตัวอย่างเช่น AI Agent อาจได้รับมอบหมายให้เพิ่ม Yield ของ Stablecoin บนบล็อกเชน Ethereum ให้มากที่สุด โดยจะมีการตรวจสอบ Stablecoin 10 อันดับแรกตาม TVL บนแพลตฟอร์มยอดนิยม เช่น Compound, Yearn.finance, Curve และ Aave อย่างครอบคลุม
เมื่อเงื่อนไขการจัดการความเสี่ยงเป็นไปตามที่กำหนด AI Agent จะสามารถแลกเปลี่ยน Stablecoin (เช่น DAI เป็น USDC) และแม้กระทั่งย้ายเงินระหว่าง Liquidity Pool เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้ Yield สูงสุด
หนึ่งในโครงการ AI Agent ที่น่าสนใจในตลาดเฉพาะนี้คือ Autonolas ซึ่งมีโซลูชันหลายรายการ หนึ่งในนั้นคือ “AI Portfolio Manager” ที่ทำงานร่วมกับ Base, Optimism, และ Mode ครอบคลุม Stablecoins และผู้ให้บริการสภาพคล่องหลายราย ผู้ใช้ Autonolas เลือกกลยุทธ์ของตนเองและ AI Agent จะดำเนินการตามกลยุทธ์นั้นโดยอัตโนมัติ 24 ชั่วโมง 7 วัน
3) การตรวจจับการฉ้อโกงและความปลอดภัย
การโกงและการฉ้อฉลในคริปโตยังคงเป็นปัญหาใหญ่ อีกทั้งยังตรวจจับและป้องกันได้ยากขึ้นเรื่อย ๆ มีโทเค็นหลายล้านเหรียญในระบบการซื้อขาย ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ก่อตั้งที่ไม่เปิดเผยตัวตน AI Agent นำเสนอวิธีการในการจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การวิเคราะห์ Smart Contracts เพื่อหาจุดอ่อนและการตรวจจับการซื้อขายภายในที่อาจเกิดขึ้น

โมเดลมักถูกสร้างจากการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน ให้ข้อมูลตัวชี้วัดหลากหลายประเภทแบบเรียลไทม์ ซึ่งรวมถึงการเคลื่อนไหวของกระเป๋าคริปโต การ Swap เหรียญแบบหลายครั้งไปยังที่อยู่ที่ได้รับการระบุว่าเป็นที่อยู่ที่ต้องห้ามหรือเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ไม่ถูกต้อง AI Agent จะฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากข้อมูลบนบล็อกเชนกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Forta เป็นหนึ่งใน AI Agent ที่ดีที่สุดในด้านนี้ ผลิตภัณฑ์ “Forta Firewall” ถูกอ้างว่าสามารถป้องกันการแฮ็กที่เกี่ยวข้องกับคริปโตได้ถึง 99% นอกจากนี้ ยังมีอัตราการพบความล้มเหลวเพียง 0.001% Forta เหมาะสำหรับการตรวจจับการ Rug Pull หรือการโจมตีเครือข่ายก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง ทำให้เหมาะกับทั้งนักลงทุนทั่วไปและสถาบันต่าง ๆ
4) การจัดการพอร์ตโฟลิโอแบบเฉพาะบุคคล
AI Agent สามารถให้คำแนะนำพอร์ตโฟลิโอด้วยความแม่นยำแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน คล้ายกับ Robo Advisors พอร์ตโฟลิโอถูกสร้างและปรับสมดุลตามเป้าหมายและความเสี่ยงที่นักลงทุนยอมรับได้ อย่างไรก็ตาม AI Agent จะตัดสินใจบนพื้นฐานของข้อมูลจริง (เช่น ธุรกรรมของกระเป๋าคริปโตในอดีต) มากกว่าแบบสอบถามง่าย ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น AI Agent สามารถติดตามตลาดได้ตลอด 24/7 และทำการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนตามความเหมาะสม ตัวอย่างเช่น AI Agent อาจจะสังเกตเห็นว่าคุณมีการลงทุนมากเกินไปในเหรียญมีมของ Base และอาจแนะนำให้กระจายเงินลงทุนไปยังเครือข่ายอื่น ๆ Token Metrics เป็นหนึ่งในตัวอย่างจากตลาดเฉพาะนี้ โดยผู้ใช้สามารถสร้างและรับคำแนะนำเกี่ยวกับพอร์ตการลงทุนแชทบอท AI
5) การเพิ่มประสิทธิภาพการขุดคริปโต
AI Agent สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการขุดคริปโตได้โดยการเชื่อมช่องว่างระหว่างอุปกรณ์ขุดกับข้อมูลบนบล็อกเชน เพื่อให้มั่นใจว่าจะได้กำไรสูงสุด ตัวอย่างเช่น AI Agent อาจสังเกตเห็นว่าอัตราความสำเร็จในการขุดมีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงเวลาที่มีการแข่งขันน้อยลง
นอกจากนี้ ยังระบุช่วงเวลาที่ควรปิดอุปกรณ์ขุดเนื่องจากราคาพลังงานสูงขึ้น อีกทั้งยังจะปรับการตั้งค่าซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมและแนะนำการสลับเครือข่ายตามผลตอบแทนที่คาดการณ์ไว้ ในอนาคตอันใกล้ AI Agent อาจทำหน้าที่แทนนักขุดที่เป็นมนุษย์ได้อย่างสมบูรณ์ โดยมีบล็อกเชนที่ปลอดภัยด้วยอัลกอริทึมที่โปร่งใส
6) นวัตกรรม NFT และ Metaverse
หนึ่งในข้อเสียหลักของระบบนิเวศน์ของ Metaverse ที่มีอยู่คือการขาดการไหลเวียนของผู้เล่น วิธีการแก้ปัญหาที่แท้จริงคือการใช้ AI Agent ในการสร้างตัวละครที่ไม่ใช่ผู้เล่น (NPC) ที่มีความ “ฉลาด” และไม่เพียงแต่ปรับตัวให้เข้ากับผู้เล่นแต่ละคนเท่านั้น แต่ยังฉลาดขึ้นตามเวลาต่าง ๆ อีกทั้ง AI Agent อาจทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาที่ดินใน Metaverse ได้อีกด้วย
อีกทั้งยังสามารถสแกนข้อมูลที่ดิน NFT ย้อนหลัง วิเคราะห์เมตริกซ์สำคัญ เช่น ตำแหน่งที่ตั้ง ขนาดแปลง และระยะเวลาการขาย ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ Metaverse ตัดสินใจซื้อได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น รวมไปถึงสามารถแนะนำเรื่องราวที่กำลังเป็นที่นิยมและสร้างงานศิลปะที่ไม่ซ้ำใคร โดยผู้ใช้ยังคงเป็นเจ้าของผลงานอยู่โดยสมบูรณ์
7) การสนับสนุนการกำกับดูแลและ DAO
DAO เป็นโซลูชันนวัตกรรมสำหรับโครงการบล็อกเชนที่ช่วยให้ผู้ถือโทเค็นมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อเสนอสำคัญ ๆ อย่างไรก็ตาม โครงสร้าง DAO ส่วนใหญ่มีความซับซ้อนเกินไป นี่คือจุดอ่อนที่ AI Agent สามารถช่วยได้ ตัวอย่างเช่น AI Agent สามารถวิเคราะห์ Smart Contract ของ DAO รวมถึงเงื่อนไขเกี่ยวกับการบริหารเงินคลังและน้ำหนักการโหวต
AI Agent สามารถอธิบายเงื่อนไขสำคัญด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย รวมถึงช่องโหว่ที่อาจเกิดขึ้น และช่วยในกระบวนการกำกับดูแล ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อเสนอที่ผ่านการอนุมัติจะถูกนำไปปฏิบัติโดยอัตโนมัติ ตัวอย่างเช่น หาก DAO ลงคะแนนให้แบ่งเงินจากเงินคลัง 10% เป็น Stablecoin ทาง AI Agent จะดำเนินการตามคำขอโดยอัตโนมัติ
ตัวอย่างเช่น GnosisDAO กำลังนำ AI Agent จากระบบนิเวศ Autonolas มาใช้ โดยจะตรวจจับและสรุปข้อเสนอใหม่และโพสต์ประเด็นสำคัญไปยังช่องทางชุมชน (เช่น Telegram)
วิธีที่เราจัดอันดับคริปโต AI Agent ยอดนิยม
การเลือกว่าจะลงทุนในเหรียญคริปโต AI Agent เหรียญใดอาจเป็นเรื่องยาก เราจะอธิบายวิธีการที่เราใช้ในการจัดอันดับโครงการยอดนิยมที่ควรจับตามอง
มูลค่าตามราคาตลาด – 25%
นักลงทุนมีเป้าหมายทางการเงินและความทนต่อความเสี่ยงแตกต่างกัน มูลค่าตามราคาตลาดเป็นเมตริกซ์สำคัญที่ควรพิจารณาในแง่นี้ โครงการคริปโต AI Agent บางโครงการมีมูลค่าสูงอยู่แล้ว ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนและทำให้มั่นใจได้ว่ามีสภาพคล่องเพียงพอในตลาด
ตัวอย่างเช่น Virtuals Protocol และ Artificial Superintelligence Alliance มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในช่วงที่พีคสุด โครงการเหล่านี้อาจเหมาะสำหรับนักลงทุนที่หลีกเลี่ยงความเสี่ยงมากกว่า ในทางกลับกัน เหรียญ AI Agent ชั้นนำหลายเหรียญมีมูลค่าตลาดต่ำกว่า 100 ล้านดอลลาร์
โครงการเหล่านี้จะมีความผันผวนของราคาที่รุนแรงกว่า แต่ก็มีศักยภาพที่จะทำกำไรได้มากกว่า การเข้าใจขีดจำกัดความเสี่ยงและผลตอบแทนส่วนบุคคลเป็นสิ่งสำคัญก่อนการลงทุน
ประสิทธิผลของการใช้งาน – 25%
การใช้งาน AI Agent โดยทั่วไปมีไม่จำกัด เกือบทุกภาคส่วนและอุตสาหกรรมสามารถได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมนี้ เราจึงมุ่งเน้นไปที่โครงการที่มีประสิทธิผลสูง ซึ่งหมายความว่าสามารถทำงานได้จริงในโลกแห่งความเป็นจริง (ไม่ใช่แค่ในเอกสารชี้ชวนที่เขียนมาอย่างดี)
ตัวอย่างเช่น ปัจจุบัน AI Agent ถูกใช้อย่างแพร่หลายในตลาด DeFi ตั้งแต่การเทรดความถี่สูงไปจนถึงการเพิ่มผลตอบแทนให้สูงสุด ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างการใช้งานที่มีศักยภาพสูงที่สุดสำหรับเหรียญ AI Agent
ในทางกลับกัน AI Agent ในด้านการลงทุนใน Metaverse และคริปโตยังมีประสิทธิภาพต่ำ แม้ว่า AI Agent จะมีความสามารถทางเทคนิคในการค้นหาตลาดที่แข็งแกร่งได้ แต่ตลาดที่ดินใน Metaverse นั้นมีสภาพคล่องต่ำเกินไป ราคาที่ดินยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยที่มีจำนวนผู้ขายมีมากกว่าผู้ซื้ออย่างมหาศาล
ระดับการนำไปใช้ – 25%
วิธีการวิจัยของเรายังได้ประเมินระดับการนำไปใช้งาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในตลาดที่มีการเติบโตสูง การนำไปใช้งานแสดงให้เห็นว่ามีผู้ใช้งานจริงกำลังใช้ AI Agent นั้น ๆ อยู่ ซึ่งช่วยเพิ่มกิจกรรมการทำธุรกรรม และทำให้โครงการสามารถสร้างรายได้ โดยทั่วไปจะมาจากค่าธรรมเนียมของเครือข่าย ตลาด หรือการนำระบบไปใช้งาน

โครงการที่มีอัตราการนำไปใช้งานเติบโตอย่างรวดเร็ว (เช่น Virtuals Protocols) อาจส่งผลให้เกิดความต้องการในเหรียญเพิ่มขึ้น ซึ่งจะสร้างกระแสความตื่นตัว และกระตุ้นให้ผู้คนเข้ามาลงทุนมากขึ้น
ศักยภาพในอนาคต – 25%
เหรียญคริปโตที่เกี่ยวข้องกับ AI ยังคงอยู่ในกลุ่มตลาดเฉพาะที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ ทำให้การประเมินศักยภาพของตลาดเป็นเรื่องที่ท้าทาย อย่างไรก็ตาม เรามุ่งเน้นไปที่โครงการที่มีปัจจัยพื้นฐานที่เหมาะสมสำหรับการเติบโตในระยะยาว ซึ่งหมายถึงการเพิ่มขึ้นของมูลค่าอย่างเป็นธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป ไม่ใช่การพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วจากกระแสความตื่นเต้น แรงกดดันจากความกลัวว่าจะพลาดโอกาส หรือการเก็งกำไร
โครงการทั้งหมดที่กล่าวมานี้ล้วนมีการใช้งานที่ชัดเจน อัตราการนำไปใช้งานที่เติบโตขึ้น และเป้าหมายในแผนพัฒนาที่มีนวัตกรรม ปัจจัยที่แตกต่างกันอย่างสำคัญคือ “มูลค่าตามราคาตลาด” ดังนั้น คุณจำเป็นต้องเลือกโครงการตามระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้
บทสรุป
AI Agent ไม่ได้เป็นเพียงแค่คำฮิตติดกระแส เพราะระบบนิเวศของบล็อกเชนและ Web 3.0 กำลังถูกปฏิวัติในหลากหลายด้าน ทั้งหมดนี้คือเรื่องของการทำงานอัตโนมัติ โดยงานที่เคยต้องทำด้วยมือ เช่น การเทรด การวิเคราะห์ และความปลอดภัย กำลังถูกปรับให้เป็นระบบอัตโนมัติอย่างสมบูรณ์
เหรียญคริปโตที่เกี่ยวข้องกับ AI Agent เปิดโอกาสให้นักลงทุนได้เข้าถึงตลาดที่มีการเติบโตสูงนี้ แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรลงทุนด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากตลาดยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ทำให้ยังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าโครงการใดจะประสบความสำเร็จ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการกระจายการลงทุนไปยังโครงการที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและมีศักยภาพในระยะยาว และควรลงทุนเฉพาะเงินที่คุณยอมรับความเสี่ยงที่จะสูญเสียได้เท่านั้น


Somchai Wang
Anuchit Laemsing