Bitcoin ผันผวนน้อยกว่า Nvidia แล้ว? Bitwise ชี้ฐานนักลงทุนกว้างขึ้น

Bitcoin (BTC) ที่เคยขึ้นชื่อเรื่องความผันผวนสุดขั้ว กำลังพลิกโฉมหน้าใหม่! รายงานล่าสุดจาก Bitwise บริษัทจัดการสินทรัพย์ชื่อดัง เผยข้อมูลที่น่าสนใจว่า ในปี 2025 นี้ BTC มีความผันผวนน้อยกว่าหุ้นเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia ไปแล้ว ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างครั้งสำคัญของตลาดคริปโตที่นักลงทุนต้องจับตา
วิเคราะห์ BTC ผันผวนน้อยกว่า Nvidia จริงหรือ?
ข้อมูลจาก Bitwise ชี้ให้เห็นภาพที่ชัดเจน โดยในปี 2025 นี้ Bitcoin มีการแกว่งตัวของราคาระหว่างจุดต่ำสุดที่ประมาณ $75,000 ในเดือนเมษายน และจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $126,000 ในเดือนตุลาคม คิดเป็นช่วงการเคลื่อนไหวที่ 68% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ที่เคยถูกมองว่า ‘เสี่ยงสูง’
ในทางกลับกัน หุ้น Nvidia (NVDA) กลับมีความผันผวนที่สูงกว่ามาก โดยมีการแกว่งตัวถึง 120% จากจุดต่ำสุดที่ $94 ในเดือนเมษายน ไปสู่จุดสูงสุดที่ $207 ภายในปีเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม แม้ความผันผวนจะน้อยกว่า แต่ผลตอบแทนของ BTC ในปีนี้ยังคงตามหลังอยู่ โดยปรับตัวลดลงประมาณ 8% ขณะที่ Nvidia ให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นราว 27%
การเข้ามาของสถาบันเปลี่ยนโฉมหน้า Bitcoin อย่างไร?
Bitwise ให้เหตุผลว่าปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากการที่ฐานนักลงทุน BTC ขยายวงกว้างขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ การเกิดขึ้นของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้รับการกำกับดูแล เช่น Spot Bitcoin ETF ได้เปิดประตูให้นักลงทุนสถาบันและตลาดการเงินดั้งเดิมเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น ซึ่งช่วยลดความรุนแรงของการเคลื่อนไหวของราคา
บริษัทมองว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างที่เรียกว่า ‘derisking’ หรือการลดความเสี่ยงของสินทรัพย์อย่าง BTC โดยคาดการณ์ว่าแนวโน้มนี้จะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2026 และยังมองในแง่ดีว่าราคา BTC จะสามารถสร้างสถิติสูงสุดใหม่ (ATH) ได้อีกครั้ง พร้อมกับการเข้ามามีบทบาทของธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Citigroup, Morgan Stanley, Wells Fargo และ Merrill Lynch ในอนาคตอันใกล้นี้
จับตาสัญญาณจาก K33: แรงเทขายจากผู้ถือยาวใกล้สิ้นสุด?
ข้อมูลอีกชุดที่น่าสนใจมาจากบริษัทวิจัย K33 ซึ่งชี้ว่าแรงกดดันจากการเทขายของนักลงทุนระยะยาว (Long-Term Holder) ที่ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2024 อาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว โดยมีการประเมินว่ามี BTC จำนวนประมาณ 1.6 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นมูลค่าราว 138,000 ล้านดอลลาร์ ได้กลับเข้ามาหมุนเวียนในตลาดช่วงสองปีที่ผ่านมา
Vetle Lunde หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ K33 ระบุว่าการเคลื่อนไหวของ BTC จำนวนมหาศาลนี้เป็นการเทขายอย่างจงใจ ไม่ใช่แค่การย้ายกระเป๋าเงินทางเทคนิค โดยเป็นการขายเข้าสู่ตลาดที่มีสภาพคล่องจากสถาบันที่ลึกขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับบทวิเคราะห์ของ Bitwise ที่ว่าการเข้ามาของสถาบันกำลังเปลี่ยนพลวัตของตลาด BTC ไปอย่างสิ้นเชิง
Bitcoin Hyper มาแรง! เพราะ BTC ควรมี Use Case มากกว่านี้
ในช่วงที่ BTC เริ่มถูกมองเป็นสินทรัพย์ที่นิ่งและมั่นคงมากขึ้น โปรเจกต์ที่พยายามต่อยอดศักยภาพของเครือข่ายก็เริ่มถูกจับตามอง และหนึ่งในชื่อที่ถูกพูดถึงมากที่สุดช่วงนี้คือ Bitcoin Hyper (HYPER)

โปรเจกต์นี้เป็นเหรียญ Presale ที่สร้างกระแสแรงตั้งแต่ช่วงแรก ด้วยยอดระดมทุนเกือบ $30 ล้านแล้ว สะท้อนว่าตลาดกำลังให้ความสนใจกับแนวคิดที่พา BTC ก้าวไปไกลกว่าการเป็นแค่สินทรัพย์เก็บมูลค่า
หัวใจของโครงการ HYPER คือการแก้ข้อจำกัดเดิมของเครือข่าย BTC ผ่าน Layer-2 ที่ทำงานบน Solana Virtual Machine (SVM) ช่วยเพิ่มความเร็วในการทำธุรกรรมได้ระดับหลายหมื่นรายการต่อวินาที พร้อมค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก (ต่ำกว่า $0.001 ต่อธุรกรรม) เปิดทางให้ DeFi และ dApps สามารถทำงานบน Ecosystem ของ BTC ได้จริงเป็นครั้งแรก
อีกปัจจัยที่ทำให้โปรเจกต์นี้ถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องคือระบบ Staking สำหรับผู้ถือ HYPER ตั้งแต่ช่วงต้น โดยสามารถนำเหรียญไปล็อกเพื่อรับผลตอบแทนสูงสุดถึงราว 40% ต่อปี (APY) ซึ่งไม่เพียงช่วยจูงใจให้ถือเหรียญระยะยาว แต่ยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพให้กับทั้งระบบในช่วงเริ่มต้นอีกด้วย
ถ้าคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรเจกต์ สามารถอ่านบทวิเคราะห์ราคา HYPER หรือดูคู่มือวิธีซื้อโทเค็นแบบละเอียด รวมถึงติดตามบทสนทนาล่าสุดบน X และ Telegram
ยอดระดมทุนล่าสุด
ราคาจะถูกปรับขึ้นอีกครั้งภายใน: