Crypto Wallet ที่ดีที่สุด 2025 รีวิวเปรียบเทียบชัดเจน

Crypto Wallet หรือกระเป๋าคริปโต ถือเป็นรากฐานสำคัญของการจัดเก็บและจัดการ Cryptocurrency พวกมันช่วยให้มั่นใจได้ว่าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Assets) ของคุณได้รับการปกป้องจากการโจรกรรม การสูญหาย หรือการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต นอกจากนี้ โซลูชันชั้นนำยังช่วยให้คุณสามารถเทรดและลงทุนในสินทรัพย์ของคุณ เข้าถึงแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Applications หรือ dApps) จัดเก็บ NFTs และอื่นๆ อีกมากมาย
ในคู่มือนี้ เราจะแสดง crypto wallet ที่ดีที่สุดสำหรับ ธันวาคม 2025 โดยประเมินตัวเลือกยอดนิยมทั้งแบบ Hot Wallet และ Cold Wallet แยกกัน เราได้ทดสอบผู้ให้บริการกว่า 40 ราย โดยวิเคราะห์คุณสมบัติหลัก เช่น ความปลอดภัย (Security), ความเข้ากันได้ (Compatibility) และความสะดวกในการใช้งาน (Ease of Use) ในส่วนด้านล่างนี้ เราจะพูดถึงตัวเลือกอันดับต้นๆ ของเรา เหตุผลที่ได้รับเลือก และสิ่งที่คุณต้องพิจารณาเพื่อตัดสินใจโดยมีข้อมูลครบถ้วน
|
Best Wallet |
กระเป๋าเงินคริปโตที่ดีที่สุดโดยรวม |
กระเป๋าเงินคริปโตที่ดีที่สุดโดยรวม
|
|
เยี่ยมชมตอนนี้ |
|
Margex Wallet |
กระเป๋าเงินที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดแบบเชื่อมต่อกับการแลกเปลี่ยน |
กระเป๋าเงินที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดแบบเชื่อมต่อกับการแลกเปลี่ยน
|
|
เยี่ยมชมตอนนี้ |
|
Zengo Wallet |
กระเป๋าเงินที่ปลอดภัยพร้อมการวางเดิมพันและ dApps |
กระเป๋าเงินที่ปลอดภัยพร้อมการวางเดิมพันและ dApps
|
|
เยี่ยมชมตอนนี้ |
|
Ellipal Titan |
กระเป๋าเงินเย็นที่รองรับโทเค็นมากที่สุด |
กระเป๋าเงินเย็นที่รองรับโทเค็นมากที่สุด
|
|
เยี่ยมชมตอนนี้ |
|
Ledger |
กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ที่ดีที่สุดสำหรับความปลอดภัย |
กระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ที่ดีที่สุดสำหรับความปลอดภัย
|
|
เยี่ยมชมตอนนี้ |
รายชื่อ Hot Wallets ที่ดีที่สุดใน ธันวาคม 2025
การเลือก Hot Wallet ที่ดีที่สุด คือการหาจุดสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความสะดวกสบายและความปลอดภัย โดยทั่วไปแล้ว Hot Wallet เหมาะที่สุดสำหรับนักเทรดที่ใช้งานเป็นประจำ เนื่องจากคุณสามารถใช้ hot wallet เหล่านี้เพื่อโต้ตอบกับ dApps, เทรดบน DEX (Decentralized Exchanges) และ Stake เหรียญของคุณได้
เปรียบเทียบ Hot Wallets ที่ดีที่สุด
นี่คือการเปรียบเทียบแบบตัวต่อตัวระหว่างตัวเลือก Hot Wallet ชั้นนำของเรา:
| Hot Wallet | ประเภท (Type) | รองรับ Staking/ DeFi หรือไม่ | เหมาะสำหรับ |
| Best Wallet | Non-custodial (ผู้ใช้เก็บ Private Key เอง) | รองรับ | Hot wallet ที่ดีที่สุดโดยรวม |
| Exodus | Non-custodial (ผู้ใช้เก็บ Private Key เอง) | รองรับ | ผู้เริ่มต้น |
| Margex | Custodial (ผู้ให้บริการเก็บ Private Key ให้) | รองรับ | การเทรดบน Exchange |
| Zengo | Non-custodial (ผู้ใช้เก็บ Private Key เอง) | รองรับ | ด้านความปลอดภัย |
รีวิว Hot Wallets ที่ดีที่สุด — ตัวเลือกอันดับต้นๆ ของเรา
หลังจากรีวิว Hot wallet กว่า 20 รายการ เราได้คัดเลือกจนเหลือ 4 ตัวเลือกอันดับต้นๆ โดยพิจารณาจากเกณฑ์สำคัญ เช่น ความปลอดภัย ความเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน (User-friendliness) และฟีเจอร์ต่างๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ในโลกคริปโตหรือเป็นนักเทรดมืออาชีพ เรามั่นใจว่าอย่างน้อยหนึ่งในตัวเลือกด้านล่างนี้จะเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับคุณ
1. Best Wallet – Hot Crypto Wallet ที่ดีที่สุดโดยรวมใน ธันวาคม 2025
- Cryptocurrencies ที่รองรับ: 1,000+ สกุล
- เครือข่าย (Networks) ที่รองรับ: 60+ เครือข่าย
- สามารถเทรดภายใน crypto wallet ได้หรือไม่ (In-Wallet Trading)?: รองรับ
Best Wallet เป็น Non-custodial wallet แบบ Multi-chain ที่ผสมผสานความคล่องตัวและความปลอดภัยเพื่อการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างราบรื่น มันรวมระบบนิเวศ Web3 ที่ครอบคลุม รองรับเหรียญ (Coins), โทเค็น (Tokens) และ NFTs กว่า 1,000 รายการจากกว่า 60 บล็อกเชน รวมถึง Bitcoin, Ethereum, Polygon, Binance Smart Chain และ Solana

Best Wallet มีโทเค็นยูทิลิตี้ (Utility Token) ดั้งเดิม ($BEST) ซึ่งช่วยลดค่า Gas fees ให้รางวัล Airdrop เพิ่มเติม และให้สิทธิ์เข้าถึง รอบพรีเซล crypto ที่น่าสนใจ นอกจากนี้ยังมี DEX (Decentralized Exchange) ในตัว ทำให้เป็นตัวเลือกของ DeFi Wallet ที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเทรดที่ซื้อขายบ่อยครั้ง แถมหน้าตาหรือ Interface ของวอลเล็ตก็ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ทั้งบน iOS และ Android ทำให้ผู้ใช้ทุกคนเข้าถึงได้ และเราชอบที่กระบวนการตั้งค่านั้นรวดเร็วและง่ายดายมาก
เหตุผลที่เราเลือก: Best Wallet เป็น crypto wallet ที่ดีที่สุดโดยรวมสำหรับ ธันวาคม 2025 เนื่องจากให้ความสำคัญกับความเป็นอิสระของผู้ใช้งาน ความเป็นส่วนตัว และฟังก์ชันการทำงานแบบครบวงจร มีความโดดเด่นในการรองรับบล็อกเชนหลายตัว มีฟีเจอร์ความปลอดภัยขั้นสูง เช่น การยืนยันตัวตน 2 ชั้น (Two-factor Authentication) และมีเครื่องมือมากมายสำหรับการวิเคราะห์ตลาด (Market Analysis) และการจัดการสินทรัพย์ (Asset Management)
ฟีเจอร์เด่น (Standout Features)
- แดชบอร์ดพรีเซล (Presale Dashboard): เข้าถึงรอบพรีเซลของเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2025 ที่มีศักยภาพได้ในราคาถูก
- โทเค็น Airdrops (Token Airdrops): การแจก Airdrop โทเค็น $BEST และคริปโตอื่นๆ เป็นประจำสำหรับผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่
- การวิเคราะห์ความเชื่อมั่นของตลาด (Market Sentiment Analysis): ข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์และคะแนนความเชื่อมั่น (Sentiment Scores) จากการวิเคราะห์โซเชียลมีเดีย (Social Media Analysis)
- มาตรการความปลอดภัยขั้นสูง (Advanced Security Measures): การเข้ารหัสแบบ End-to-end Encryption, การยืนยันตัวตนสองปัจจัย (Two-factor Authentication) และตัวเลือกความปลอดภัยแบบไบโอเมตริกซ์ (Biometric Security)
ข้อดี (Pros)
- รองรับสินทรัพย์กว่า 1,000+ รายการบน 60+ บล็อกเชน
- มี Exchange ในตัววอลเล็ตที่รองรับการซื้อด้วย crypto และบัตรเครดิต
- ผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่มีสิทธิ์ได้รับ $BEST Token Airdrop
- สิทธิ์พิเศษในการเข้าร่วมรอบพรีเซลที่กำลังจะมาถึง
- หน้าจอใช้งานง่ายและเป็นมิตรแม้กับมือใหม่
ข้อเสีย (Cons)
- ปัจจุบันใช้งานได้เฉพาะบนมือถือเท่านั้น
2. Exodus – Crypto Wallet ที่ดีที่สุดสำหรับผู้เริ่มต้น
- Cryptocurrencies ที่รองรับ: 310+ สกุล
- เครือข่าย (Networks) ที่รองรับ: 50+ เครือข่าย
- สามารถเทรดภายใน crypto wallet ได้หรือไม่ (In-Wallet Trading)? รองรับ
การออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่ายของ Exodus ทำให้เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ แพลตฟอร์มนี้รองรับเหรียญ crypto กว่า 310 สกุลโดยกำเนิด และช่วยให้คุณสามารถเพิ่มได้อีกหลายพันรายการจากกว่า 50+ บล็อกเชน คุณสามารถใช้ Exodus บนอุปกรณ์หลากหลาย ตั้งแต่ PC (Windows, macOS, Linux) และโทรศัพท์ (iOS และ Android) ไปจนถึงส่วนขยายเบราว์เซอร์ (Browser Extensions) – และเราพบว่า Interface ของมันใช้งานง่ายสำหรับผู้เริ่มต้นอย่างเท่าเทียมกันในทุกแพลตฟอร์ม

ตัว crypto wallet นี้ยังมี Exchange ในตัวที่ให้คุณแลกเปลี่ยน (Swap) ระหว่าง crypto ต่างๆ ได้ คุณยังสามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income โดยใช้ฟังก์ชัน Staking ของมัน จำนวนที่คุณจะได้รับแตกต่างกันไป แต่มักจะแข่งขันได้เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ สุดท้าย Exodus มีทีมสนับสนุนลูกค้าที่ยอดเยี่ยม พวกเขาให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง และมีคลังข้อมูลความรู้ขนาดใหญ่เพื่อแนะนำคุณเกี่ยวกับพื้นฐานของกระเป๋าเงินคริปโต
เหตุผลที่เราเลือก: Exodus เป็นตัวเลือก crypto wallet ที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน ด้วยการรองรับหลายแพลตฟอร์มและแอปที่ใช้งานง่าย ตัววอลเล็ตยังเก็บ Private Keys และข้อมูลธุรกรรมของคุณไว้บนอุปกรณ์ของคุณเองเพื่อความปลอดภัยระดับสูง คุณสามารถเชื่อมต่อกับ Trezor wallet เพื่อการป้องกันที่ดียิ่งขึ้น
ฟีเจอร์เด่น (Standout Features)
- การควบคุม Private Key (Private Key Control): เก็บ Private Keys และข้อมูลธุรกรรมไว้บนอุปกรณ์ของคุณเพื่อความปลอดภัยสูง
- ความเข้ากันได้กับอุปกรณ์ (Device Compatibility): ใช้งานได้บน Desktop (Windows, macOS, Linux), มือถือ (iOS และ Android) และส่วนขยายเบราว์เซอร์ (Browser Extensions)
- Exchange ในตัว (Built-In Exchange): อนุญาตให้แลกเปลี่ยน (Swap) ระหว่าง crypto ได้โดยไม่ต้องออกจากวอลเล็ต
- ฟังก์ชัน Staking (Staking Functionality): สร้างรายได้แบบ Passive Income พร้อมผลตอบแทน Staking ที่แข่งขันได้
ข้อดี (Pros)
- การออกแบบที่ใช้งานง่ายสำหรับผู้เริ่มต้นและมือโปร
- รองรับ Cryptocurrencies หลายพันรายการบน 50+ เครือข่าย
- ใช้งานได้บน Desktop และมือถือ
- มี Exchange ในตัวเพื่อการแลกเปลี่ยน crypto ที่ง่ายดาย
ข้อเสีย (Cons)
- ขาดการยืนยันตัวตนสองปัจจัย (Two-factor Authentication)
3. Margex Wallet – วอลเล็ตบน Exchange ที่ดีที่สุดสำหรับการเทรด
- Cryptocurrencies ที่รองรับ: 50 สกุล
- เครือข่าย (Networks) ที่รองรับ: 10+ เครือข่าย
- สามารถเทรดภายใน crypto wallet ได้หรือไม่ (In-Wallet Trading)? รองรับ
Margex Wallet โดดเด่นระหว่างการประเมินของเราด้วยการผสานรวมกับแพลตฟอร์มเทรด Margex ได้อย่างราบรื่น มีค่าธรรมเนียมต่ำ ไม่คิดค่าธรรมเนียมการฝาก และให้ผลตอบแทน Staking สูง นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณใช้ Leverage ได้สูงถึง 100x เพื่อเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด เรายังชอบเครื่องมือ Copy Trading ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งช่วยให้คุณคัดลอกกลยุทธ์ของนักเทรดที่มีประสบการณ์มากกว่าได้แบบเรียลไทม์

วอลเล็ตรองรับเหรียญกว่า 50 สกุลบน 10+ เชน ซึ่งถือว่าแคบเมื่อเทียบกับคู่แข่งอย่าง Best Wallet และ Exodus อย่างไรก็ตาม คุณสามารถเข้าถึงเหรียญหลักๆ ทั้งหมดได้ เช่น Bitcoin, Ethereum และ Solana รวมถึงกลุ่ม crypto ที่มีปริมาณการซื้อขายสูง สำหรับการเทรด เช่น Tron, Dogecoin, Arbitrum และ Cardano
เหตุผลที่เราเลือก: Margex Wallet เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ crypto wallet ที่ผสานรวมเข้ากับ Crypto Exchange ที่เชื่อถือได้ เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับทั้งนักเทรดมือใหม่และผู้มีประสบการณ์เนื่องจากการออกแบบที่เรียบง่าย ค่าธรรมเนียมต่ำ และเครื่องมือขั้นสูง เช่น Copy Trading
ฟีเจอร์เด่น (Standout Features)
- การ Staking พร้อมการเทรด (Staking with Trading): คุณสามารถ Stake สินทรัพย์ เช่น USDT และ USDC เพื่อรับ APY สูงสุด 5% ในขณะที่ยังคงใช้เงินเหล่านั้นสำหรับการเทรดแบบ Leverage ได้
- Copy Trading: ผู้ใช้สามารถคัดลอกสถานะ (Positions) ของนักเทรดชั้นนำได้ ทำให้ผู้เริ่มต้นสามารถมีส่วนร่วมในตลาดได้ง่ายโดยไม่ต้องมีความรู้ขั้นสูง
- การเทรดแบบ Leverage: Margex เสนอ Leverage สูงสุด 100x สำหรับ Bitcoin, Ethereum และ Binance Coin โดยมีขีดจำกัด Leverage ที่แตกต่างกันไปสำหรับ Altcoins
ข้อดี (Pros)
- การผสานรวมกับแพลตฟอร์มเทรดที่ยอดเยี่ยม
- ค่าธรรมเนียมการเทรดและธุรกรรมต่ำ
- ฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง (Robust Security Features)
- มี Interface ที่เรียบง่าย
ข้อเสีย (Cons)
- ไม่ใช่ crypto wallet แบบสแตนด์อโลน (ต้องใช้ร่วมกับ Exchange เท่านั้น)
4. Zengo Wallet – Hot Wallet ที่ดีที่สุดด้านความปลอดภัย
- Cryptocurrencies ที่รองรับ: 380+ สกุล
- เครือข่าย (Networks) ที่รองรับ: 10 เครือข่าย
- สามารถเทรดภายใน crypto wallet ได้หรือไม่ (In-Wallet Trading)? รองรับ
Zengo เป็น Mobile Wallet ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยโดยไม่ลดทอนความสะดวกในการใช้งาน ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนจะไม่ถูกเก็บไว้บนอุปกรณ์ของคุณ – แต่ตัววอลเล็ตจะอาศัยเทคโนโลยี Multi-Party Computation (MPC) แบบกระจายศูนย์ (Decentralized) เพื่อปกป้องสินทรัพย์ของคุณ เจ้านวัตกรรมใหม่นี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเงินทุนของคุณปลอดภัย พร้อมมอบวิธีจัดการพอร์ตโฟลิโอของคุณที่ไม่ยุ่งยาก

Zengo นั้นเป็นมิตรกับมือใหม่เป็นพิเศษ ด้วย Interface ที่สะอาดตาและใช้งานง่าย เครื่องมือรักษาความปลอดภัยขั้นสูง เช่น การยืนยันตัวตนสามปัจจัย (Three-factor Authentication หรือ 3FA) และการเข้าสู่ระบบด้วยไบโอเมตริกซ์ (Biometric Login) ช่วยรักษาเงินทุนของคุณให้ปลอดภัย นอกจากนี้ วอลเล็ตยังไม่เคยถูกแฮ็กเลยนับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2018 รวมถึงไม่มีประวัติการสูญเสียเงินทุนของผู้ใช้งาน
เหตุผลที่เราเลือก: Zengo เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่ให้ความสำคัญทั้งความปลอดภัยและความเรียบง่ายใน crypto wallet โดยเทคโนโลยี MPC ของมันได้มาแทนที่ Seed Phrases ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียการเข้าถึงวอลเล็ตของคุณ แถมวอลเล็ตยังมีฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Staking และ Exchange ในตัว ทำให้ง่ายต่อการจัดการ crypto ของคุณทั้งหมดในที่เดียว
ฟีเจอร์เด่น (Standout Features)
- หมดปัญหาเรื่อง Seed Phrase (No Seed Phrase Hassle): ใช้เทคโนโลยี MPC สมัยใหม่เพื่อรักษาความปลอดภัยโดยไม่จำเป็นต้องใช้ Recovery Phrases
- การเทรด Crypto ที่ไม่ยุ่งยาก (Hassle-Free Crypto Trading): ซื้อ ขาย หรือเทรดคริปโตได้ง่ายๆ ในแอป – ทุกอย่างรวมอยู่ในที่เดียว
- โอกาสในการสร้าง Passive Income (Passive Income Opportunities): รองรับการ Stake สินทรัพย์เพื่อรับรางวัลและเพิ่มพูนสินทรัพย์ของคุณ
- ความปลอดภัยที่แข็งแกร่งดุจหินผา (Rock-Solid Security): ความปลอดภัยแบบไบโอเมตริกซ์และ 3FA ช่วยให้มั่นใจได้ว่าเงินของคุณได้รับการปกป้องอย่างดี
ข้อดี (Pros)
- ขจัดความจำเป็นในการใช้ Recovery Phrases ด้วยเทคโนโลยี MPC ขั้นสูง
- ออกแบบมาให้เรียบง่ายและใช้งานง่ายสำหรับผู้ใช้งานทุกคน
- เปิดใช้งานการซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนโดยตรงภายในแอป
- มอบความปลอดภัยที่แข็งแกร่งด้วยการเข้าสู่ระบบไบโอเมตริกซ์และการยืนยันตัวตนสามปัจจัย (3FA)
ข้อเสีย (Cons)
- มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมสำหรับการซื้อด้วยบัตร
- ยังไม่รองรับบล็อกเชนหลักบางตัว เช่น Solana
หลักเกณฑ์ของเราในการจัดอันดับ Hot Wallets
Hot wallets จำเป็นต้องมีความคล่องตัวเพียงพอสำหรับการใช้งานบ่อยครั้งและสะดวกสบาย ไม่ว่าคุณจะวางแผนที่จะใช้ Hot crypto wallet เพื่อเทรด ถือครอง หรือโต้ตอบกับ dApps นี่คือเกณฑ์พื้นฐานที่เราประเมินเมื่อสร้างการจัดอันดับของเรา:
เหรียญและเครือข่ายที่รองรับ (Coins and Networks Supported) – 30%
ความสะดวกสบายเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับ Hot wallets การสามารถเก็บเหรียญทั้งหมดของคุณไว้ใน crypto wallet เดียวบนหลายเครือข่าย ทำให้การจัดการการถือครองของคุณง่ายขึ้นอย่างมาก ดังนั้น เราจึงให้คะแนนพิเศษแก่วอลเล็ตที่รองรับเหรียญมากที่สุดบนเครือข่าย
คุณภาพของหน้าจอผู้ใช้ (Quality of User Interface) – 25%
Hot wallets ควรใช้งานง่ายและเข้าใจง่าย เมื่อต้องทำการตัดสินใจเทรดในเสี้ยววินาทีหรือโต้ตอบกับ dApps ก็ควรมีความคล่องแคล่วและรวดเร็วในการใช้งาน ด้วยเหตุนี้ เราจึงให้ความสำคัญกับวอลเล็ตที่มี Interface ที่สะอาดตาซึ่งง่ายต่อการใช้งานและโต้ตอบ
ความปลอดภัยของวอลเล็ต (Wallet Security) – 25%
แม้ว่า Hot wallets จะไม่ปลอดภัยเท่ากับ Cold wallet แต่ความปลอดภัยยังคงสำคัญอย่างยิ่ง เราจึงวิเคราะห์ว่า Hot wallet แต่ละตัวมีความปลอดภัยเพียงใด โดยประเมินฟังก์ชันหลัก เช่น Private Keys, Seed Phrases, การยืนยันตัวตนสองปัจจัย และเทคโนโลยีพื้นฐาน
ฟีเจอร์เพิ่มเติม (Additional Features) – 20%
เรายังพิจารณาฟีเจอร์พิเศษที่ crypto wallet แต่ละตัวมี เช่น การเทรดภายในวอลเล็ต (In-wallet Trading), Staking และอื่นๆ แม้ว่านี่จะไม่ใช่ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการประเมิน Hot wallet แต่ฟีเจอร์เพิ่มเติมเหล่านี้ทำให้วอลเล็ตบางตัวโดดเด่นกว่าตัวอื่นๆ และช่วยยกระดับประสบการณ์การเทรดโดยรวม
รายชื่อ Cold Wallets ที่ดีที่สุดใน ธันวาคม 2025
Cold wallets เหมาะสำหรับการจัดเก็บระยะยาวมากกว่า หากคุณกำลังมองหาตัวเลือกที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับการถือครอง crypto ของคุณ ไม่ต้องมองหาที่ไหนไกลนอกจากตัวเลือก Cold wallet ชั้นนำของเราสำหรับ ธันวาคม 2025
เปรียบเทียบ Cold Wallets ที่ดีที่สุดใน ธันวาคม 2025
นี่คือการเปรียบเทียบโซลูชันที่ดีที่สุด:
| Cold Wallet | ราคา (Price) | รองรับ Staking/ DeFi หรือไม่ | เหมาะสำหรับ |
| Cypherlock | เริ่มต้นที่ $159 | รองรับ | ด้านความปลอดภัย (Security) |
| Tangem | เริ่มต้นที่ $59 | รองรับ | ด้านความสะดวก (Convenience) |
| Trezor | เริ่มต้นที่ $59 | รองรับ | ด้านราคาที่เข้าถึงง่าย (Affordability) |
| Ledger | เริ่มต้นที่ $79 | รองรับ | ด้านความง่ายในการใช้งาน (Ease of Use) |
รีวิว Cold Wallets ที่ดีที่สุด – ตัวเลือกอันดับต้นๆ ของเรา
หลังจากได้วิเคราะห์ Cold wallets ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาดและประเมินปัจจัยต่างๆ เช่น ความปลอดภัย ราคา และความง่ายในการใช้งาน (Ease of Use) แล้ว วอลเล็ต 4 ตัวต่อไปนี้ได้กลายเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
ไม่ว่าคุณจะให้ความสำคัญกับความปลอดภัย ราคาที่เข้าถึงได้ หรือความสะดวกสบายมากที่สุด เราได้รวบรวมรายการตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมไว้ให้แล้ว:
1. Cypherock – ดีที่สุดด้านความปลอดภัยด้วยการจัดเก็บแบบเย็นที่ไม่ต้องใช้ Seed Phrase (Seedless Cold Storage)
- Cryptocurrencies ที่รองรับ: 3,000+ สกุล
- เครือข่าย (Networks) ที่รองรับ: ไม่ระบุ; รองรับเครือข่ายหลักทั้งหมด
- ราคา (Cost): เริ่มต้นที่ $159
Cypherock เหมาะสำหรับทุกคนที่ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยสินทรัพย์ของตน ในขณะที่ยังคงเพลิดเพลินกับฟีเจอร์ที่ทันสมัย ตั้งแต่การจัดการ Cryptocurrencies กว่า 3,000 สกุล ไปจนถึงการรักษาความปลอดภัย NFTs และสินทรัพย์ DeFi, Cypherock มอบความยืดหยุ่นและฟังก์ชันการทำงานที่ผู้ใช้ในปัจจุบันต้องการ ฟีเจอร์ผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiary Feature) ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าสินทรัพย์ของคุณจะถูกส่งต่ออย่างปลอดภัยหากเกิดอะไรขึ้นกับคุณ

นอกเหนือจากแง่มุมของ Hardware แล้ว Cypherock ยังให้คุณสร้างและจัดการ Software wallets ได้สูงสุดสี่วอลเล็ต โดยแต่ละวอลเล็ตมี Private Key ของตัวเอง เมื่อใช้ร่วมกับแอปคู่หู CySync ฟีเจอร์นี้ช่วยให้สามารถจัดการพอร์ตโฟลิโอ (Portfolio Management) และโต้ตอบกับอุปกรณ์ Hardware ได้อย่างราบรื่น
เหตุผลที่เราเลือก: Cypherock สร้างนิยามใหม่ให้กับความปลอดภัยของ crypto wallet โดยเลิกใช้ Seed Phrases และอาศัยการจัดเก็บ Key แบบกระจายศูนย์ (Decentralized Key Storage) Private Keys ของคุณจะถูกแบ่งออกเป็นการ์ดป้องกันการงัดแงะ (Tamper-proof Cards) ห้าใบ ซึ่งหมายความว่าแม้ว่าการ์ดใบหนึ่งจะหายไป เงินทุนของคุณก็ยังคงปลอดภัย
ฟีเจอร์เด่น (Standout Features)
- การจัดเก็บ Key แบบกระจายศูนย์ (Decentralized key storage): Cypherock รักษาความปลอดภัย Private Key ของคุณโดยแบ่งออกเป็นห้าส่วนและจัดเก็บแต่ละส่วนไว้ในการ์ดแยกกัน การสูญเสียการ์ดใบเดียวจะไม่เป็นอันตรายต่อเงินทุนของคุณ
- ไม่ต้องใช้ Seed Phrase (No seed phrase required): คุณไม่จำเป็นต้องจัดการ Recovery Phrases อีกต่อไป Cypherock ทำให้การเข้าถึงง่ายขึ้นในขณะที่ยังคงความปลอดภัย
- วางแผนสำหรับอนาคต (Plan for the future): ฟีเจอร์ผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiary Feature) ที่ไม่เหมือนใคร ช่วยให้คุณโอนสินทรัพย์ของคุณไปยังบุคคลอื่นได้อย่างปลอดภัยเมื่อจำเป็น
ข้อดี (Pros)
- ขจัดความจำเป็นในการใช้ Seed Phrases
- เก็บ Private Keys แยกส่วนกันในการ์ดป้องกันการงัดแงะ (Tamper-proof Cards) เพื่อความปลอดภัยเป็นพิเศษ
- จัดการ crypto, NFTs, และ DeFi ได้ในแอปเดียว
- มีฟีเจอร์ในการส่งต่อสินทรัพย์อย่างปลอดภัยไปยังผู้รับผลประโยชน์ (Beneficiaries)
ข้อเสีย (Cons)
- ราคาอยู่ที่ $159 ซึ่งอาจแพงสำหรับผู้ใช้บางคน
2. Tangem Wallet – ดีที่สุดด้านความสะดวกและการพกพา
- Cryptocurrencies ที่รองรับ: 6,000+ สกุล
- เครือข่าย (Networks) ที่รองรับ: 10+ เครือข่าย
- ราคา (Cost): เริ่มต้นที่ $59
Tangem Wallet ใช้รูปแบบการ์ดที่คล้ายกับบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตที่ฝังชิปความปลอดภัย (Secure Chip) ไว้เพื่อจัดเก็บ Private Keys ของคุณ การออกแบบนี้ทำให้การจัดการง่ายขึ้นเมื่อเทียบกับ Hardware crypto wallet แบบดั้งเดิมที่คล้าย USB การ์ด Tangem ใช้เทคโนโลยี NFC ซึ่งคุณเปิดใช้งานโดยการแตะบนสมาร์ทโฟนที่รองรับ NFC

ชิปความปลอดภัย (Secure Chip) ภายในการ์ดได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด (EAL6+) ทำให้คุณควบคุม Private Keys ของคุณได้อย่างเต็มที่และรับประกันว่าไม่มีบุคคลที่สามสามารถเข้าถึงเงินทุนของคุณได้ Tangem Wallet ยังจับคู่กับ Mobile App เฉพาะสำหรับ Android และ iOS ได้อย่างราบรื่น ทำให้ผู้ใช้งานสามารถส่ง รับ และจัดการ Cryptocurrencies ได้อย่างง่ายดาย
เหตุผลที่เราเลือก: Tangem Wallet ทำให้การจัดเก็บ crypto เป็นไปอย่างราบรื่นโดยเน้นที่การพกพาและความเรียบง่าย การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ดูเหมือนบัตรเครดิต ทำให้พกพาได้ง่าย คุณไม่จำเป็นต้องใช้ Recovery Phrase วอลเล็ตเชื่อมต่ออย่างปลอดภัยผ่าน NFC ทำให้การจัดการสินทรัพย์ของคุณง่ายและรวดเร็ว ด้วยความเข้ากันได้กับคริปโตกว่า 6,000 สกุล จึงเป็นโซลูชันอเนกประสงค์สำหรับผู้ใช้งานทุกประเภท
ฟีเจอร์เด่น (Standout Features)
- ดีไซน์บางและพกพาสะดวก (Slim and Portable Design): Hardware wallet ขนาดเท่าบัตรเครดิต
- รองรับสินทรัพย์หลากหลาย (Broad Asset Support): รองรับ Cryptocurrencies มากกว่า 6,000 สกุล
- ระบบสำรองข้อมูลแบบไม่ใช้ Seed Phrase (Seedless Backup System): ไม่จำเป็นต้องใช้ Recovery Phrases – เรียบง่ายและปลอดภัย
- การเข้าถึงด้วย NFC (NFC Access): ใช้ NFC เพื่อเข้าถึงโดยตรงผ่านโทรศัพท์ของคุณ
ข้อดี (Pros)
- Hardware wallet ขนาดพกพาเท่าบัตรเครดิตเพื่อความสะดวก
- รองรับ Cryptocurrencies ที่หลากหลายกว่า 6,000+ สกุล
- ข้าม Recovery Phrases ด้วยระบบ Seedless ที่เป็นนวัตกรรมใหม่
- ใช้ NFC เพื่อการเข้าถึงผ่านมือถือที่รวดเร็วและปลอดภัย
ข้อเสีย (Cons)
- ใช้งานได้เฉพาะกับสมาร์ทโฟนที่รองรับ NFC เท่านั้น
- ไม่มีแอปพลิเคชันสำหรับ Desktop
3. Trezor – Hardware Wallet ที่ราคาเข้าถึงง่ายที่สุด
- Cryptocurrencies ที่รองรับ: 1,800+ สกุล
- เครือข่าย (Networks) ที่รองรับ: 50+ เครือข่าย
- ราคา (Cost): เริ่มต้นที่ $49
Trezor เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมหากคุณมองหา crypto wallet ชนิดฮาร์ดแวร์ที่ราคาไม่แพง แต่ไม่ต้องการประนีประนอมเรื่องความปลอดภัย มีให้เลือกสามรุ่น: Model One ($49), Trezor Safe 3 ($79) และ Trezor Safe 5 ($149) ทุกรุ่นมีการจัดเก็บคริปโตแบบออฟไลน์ (Offline Storage) ที่ปลอดภัย รองรับเหรียญและโทเค็นกว่า 9,000 รายการ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่มีฟีเจอร์ Staking และ NFT ในตัว และไม่มี Mobile App หรือการเชื่อมต่อ Bluetooth

หากคุณให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและราคาที่เข้าถึงได้ และไม่ต้องการการเข้าถึงผ่านมือถือ Trezor ถือเป็นตัวเลือก crypto wallet แบบฮาร์แวร์ที่มั่นคง รุ่น Model T มาพร้อม Shamir Backup เพื่อเพิ่มความปลอดภัย แต่ฟีเจอร์ขั้นสูงอาจต้องใช้ซอฟต์แวร์จากบุคคลที่สาม (Third-party Software) สำหรับผู้ใช้ที่มองหาความเรียบง่ายและราคาที่เข้าถึงได้ ข้อเสนอของ Trezor ถือเป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้
เหตุผลที่เราเลือก: Trezor นำเสนอ Hardware wallets ที่ราคาเข้าถึงง่ายที่สุดในปีนี้ Trezor Model One มีราคาอยู่ที่ $49 ทำให้ถูกกว่า Ledger Nano S Plus ที่ราคา $79 และถูกกว่าคู่แข่งรายอื่นอย่าง Ellipal และ NGRAVE ZERO อย่างมาก
ฟีเจอร์เด่น (Standout Features)
- ตัวเลือกการกู้คืนที่ปรับปรุงแล้ว (Enhanced Recovery Options): Shamir Backup ของ Trezor ช่วยให้คุณสามารถแบ่ง Recovery Seed ของคุณออกเป็นหลายส่วน (Shares) เพิ่มความปลอดภัยและความซ้ำซ้อน
- การป้อนข้อมูลบนอุปกรณ์ทั้งหมด (Fully On-Device Entry): Trezor Model T มีหน้าจอสัมผัสสำหรับการป้อน PIN และ Passphrase อย่างปลอดภัยโดยตรงบนอุปกรณ์
- ความปลอดภัยแบบหลายลายเซ็น (Multisignature Security): Trezor ผสานรวมกับ Electrum เพื่อกำหนดให้ต้องใช้หลาย Keys ในการอนุมัติธุรกรรม ซึ่งเป็นการเพิ่มระดับความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่ง
ข้อดี (Pros)
- Hardware wallet ที่ราคาเข้าถึงง่ายที่สุดในปี 2024
- ซอฟต์แวร์แบบ Open-source เพื่อความโปร่งใส
- มี Shamir Backup ในรุ่น Model T
- การยืนยันตัวตนสองปัจจัยสากล (Universal Two-factor Authentication)
ข้อเสีย (Cons)
- ไม่มีฟีเจอร์ Staking หรือการจัดการ NFT ในตัว
- ฟีเจอร์ขั้นสูงต้องใช้ซอฟต์แวร์จากบุคคลที่สาม
4. Ledger – Hardware Wallet ที่ใช้งานง่ายที่สุด
- Cryptocurrencies ที่รองรับ: 5,500+ สกุล
- เครือข่าย (Networks) ที่รองรับ: 50+ เครือข่าย
- ราคา (Cost): เริ่มต้นที่ $79
Ledger มี 4 รุ่น: Nano S Plus ราคา $79, Nano X ราคา $149, Flex ราคา $249 และ Stax ราคา $399 ทั้งสี่รุ่นรองรับ Cryptocurrencies มากกว่า 5,500 สกุล รุ่น Nano X เพิ่มการเชื่อมต่อ Bluetooth ทำให้คุณสามารถจัดการสินทรัพย์ของคุณบนอุปกรณ์มือถือได้ ในขณะที่ Flex และ Stax มีหน้าจอสัมผัสขนาดใหญ่ ทำให้เหมาะสำหรับการจัดการพอร์ตโฟลิโอและ NFT อย่างง่ายดาย

การเลือก Ledger หมายถึงการเลือกโซลูชันที่ปลอดภัยและหลากหลาย ซอฟต์แวร์ไม่ใช่ Open source ทั้งหมด แต่ชดเชยด้วยความปลอดภัยแบบหลายลายเซ็น (Multi-signature Security) และการยืนยันตัวตนสองปัจจัย ด้วย Ledger คุณสามารถเข้าถึง dApps และสลับระหว่าง Hot Storage และ Cold Storage ได้อย่างง่ายดาย ทำให้เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ สำหรับความต้องการที่หลากหลาย
เหตุผลที่เราเลือก: เราให้คะแนน Ledger ว่าเป็น hardware wallet ที่ใช้งานง่ายที่สุด ด้วยแอป Ledger Live การผสานรวมกับบริการของบุคคลที่สามได้ง่าย แหล่งข้อมูลการเรียนรู้ และฝ่ายสนับสนุนลูกค้าที่ตอบสนองรวดเร็ว สิ่งนี้ทำให้การจัดการคริปโตของคุณตรงไปตรงมา ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือผู้ใช้ที่มีประสบการณ์ก็ตาม
ฟีเจอร์เด่น (Standout Features)
- Ledger Academy: มีคลังเนื้อหาการเรียนรู้ที่ครอบคลุม ทำให้ผู้เริ่มต้นเริ่มต้นได้ง่ายขึ้น
- การตรวจสอบความสมบูรณ์ของเฟิร์มแวร์ (Firmware Integrity Check): อุปกรณ์ Ledger ทำการตรวจสอบตัวเองเมื่อเริ่มต้นระบบ (Startup) เพื่อให้แน่ใจว่า Firmware ไม่ได้ถูกแก้ไข ซึ่งเป็นการเพิ่มระดับความปลอดภัยอีกชั้นหนึ่งจากการแก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ความปลอดภัยที่ปรับแต่งได้ (Customizable Security): Ledger อนุญาตให้ผู้ใช้เพิ่ม Passphrase ลงใน Recovery Seed 24 คำมาตรฐาน ซึ่งให้ความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้นผ่านคำที่ 25 ที่ปรับแต่งได้
ข้อดี (Pros)
- แอป Ledger Live ที่ใช้งานง่ายสำหรับการจัดการที่ง่ายดาย
- รองรับ Cryptocurrencies มากกว่า 5,500 สกุล
- การศึกษาด้าน Crypto ผ่าน Ledger Academy
- ความปลอดภัยแบบหลายลายเซ็น (Multisignature Security) ผ่านการผสานรวมกับ Coinkite
ข้อเสีย (Cons)
- Ledger Nano S Plus ไม่มีการเชื่อมต่อ Bluetooth
- มีค่าธรรมเนียมรายเดือนสำหรับบริการเสริม Ledger Recover
- ไม่มีหน้าจอสัมผัส (Touch screen) ในรุ่น Nano
หลักเกณฑ์ของเราในการจัดอันดับ Cold Wallets
แม้ว่าหลักเกณฑ์ของเราในการจัดอันดับ Cold wallets จะมีส่วนที่ทับซ้อนกับ Hot wallets อยู่บ้าง แต่ก็มีปัจจัยบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของ Cold wallets ที่สมควรได้รับความสนใจเป็นพิเศษ นี่คือองค์ประกอบหลักของเกณฑ์การประเมินของเราสำหรับการเลือก Cold wallets ชั้นนำ:
ความปลอดภัย (Security) – 40%
ไม่มีปัจจัยใดสำคัญไปกว่าความปลอดภัยเมื่อพูดถึง Cold wallets เนื่องจากนี่คือเหตุผลหลักที่ทำให้ผู้คนเลือกใช้ Cold Wallet แทน Hot wallets ทั้งนี้ แม้ว่า Cold wallets ส่วนใหญ่จะมีความปลอดภัยสูง แต่ก็มีตัวเลือกบางตัวที่ยกระดับความปลอดภัยไปอีกขั้น เราได้วิเคราะห์เทคโนโลยีเบื้องหลัง Cold wallet แต่ละตัวเพื่อประเมินว่าตัวเลือกใดมีช่องโหว่น้อยที่สุด
ความเข้ากันได้ (Compatibility) – 20%
โดยทั่วไปแล้ว Cold wallets ไม่รองรับ Cryptocurrencies มากเท่า Hot wallets ซึ่งเป็นเหตุผลที่เราวิเคราะห์อย่างละเอียดว่า crypto wallet แต่ละตัวรองรับเหรียญและเครือข่ายกี่ประเภท เราให้น้ำหนักมากกว่ากับวอลเล็ตที่รองรับเหรียญจำนวนมากที่สุด
ประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience) – 15%
แม้ว่า UX จะมีความสำคัญมากกว่าสำหรับ Hot wallets เนื่องจากลักษณะการใช้งานที่บ่อยกว่า แต่ก็ไม่ควรมองข้ามสำหรับ Cold wallets UX ที่มีคุณภาพทำให้การจัดการการถือครองของคุณง่ายขึ้นและใช้เวลาน้อยลง ขณะเดียวกันก็ลดความน่าจะเป็นที่จะเกิดข้อผิดพลาด
ราคา (Cost) – 15%
ในขณะที่ Hot wallets โดยทั่วไปใช้งานได้ฟรี แต่ Cold wallets เป็นตัวเลือกพรีเมียมที่มาในรูปแบบของอุปกรณ์กายภาพ ดังนั้น เราจึงประเมินราคาของแต่ละตัวและเปรียบเทียบกับราคาของคู่แข่งหลักเพื่อพิจารณาว่าราคายุติธรรมเพียงใด
ฟีเจอร์เพิ่มเติม (Additional Features) – 10%
เรายังประเมินช่วงของฟีเจอร์เพิ่มเติมที่ cold wallet แต่ละตัวมี เช่น การเทรดภายในวอลเล็ต (In-wallet Trading) และมาตรการความปลอดภัยเพิ่มเติม (Additional Security Measures)
Crypto Wallet คืออะไร?
Crypto wallets คือโปรแกรมซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการ โอน และจัดเก็บ Cryptocurrency ได้อย่างปลอดภัย บางตัวยังรองรับ NFTs และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ วอลเล็ตอาจเป็นแบบ Hardware-based เช่น อุปกรณ์ USB หรือ Software-based เช่น Mobile Apps และโปรแกรม Desktop
วอลเล็ตยังสามารถแบ่งประเภทเป็น Custodial หรือ Non-custodial ได้:
- สำหรับ Custodial wallets ผู้ให้บริการจะเป็นผู้ควบคุม Private Keys ซึ่งหมายความว่าคุณต้องพึ่งพาพวกเขาในเรื่องความปลอดภัย ข้อดีของวอลเล็ตประเภทนี้คือการกู้คืนการเข้าถึงทำได้ง่ายกว่าหากคุณทำรายละเอียดการเข้าสู่ระบบหาย ตัวอย่างเช่น วอลเล็ตของ Binance และ OKX
- สำหรับ Non-custodial wallets คุณเป็นผู้ควบคุม Private Key และสินทรัพย์ของคุณได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม หากคุณทำ Private Key หาย คุณจะสูญเสียการเข้าถึงเงินทุนของคุณ ตัวอย่างเช่น Zengo และ NGRAVE
กล่าวอีกนัยหนึ่ง Custodial wallets มอบความสะดวกสบายโดยต้องอาศัยความไว้วางใจในบุคคลที่สาม ในขณะที่ Non-custodial wallets ให้การควบคุมและความรับผิดชอบต่อสินทรัพย์ของคุณมากขึ้น
Crypto Wallets ทำงานอย่างไร?
Crypto wallet ทำหน้าที่เหมือนบัญชีธนาคารดิจิทัล ที่คอยจัดการและปกป้องสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซีของคุณ กระเป๋าเงินคริปโตนี้จะรักษาความปลอดภัยของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยการจัดเก็บ Private Keys และ Public Keys ซึ่งใช้สำหรับธุรกรรม
- Public Key: Public Key คือ “หมายเลขบัญชี” ของวอลเล็ต และใช้เพื่อรับเงินทุนจากวอลเล็ตอื่น สามารถแชร์ให้ผู้อื่นเพื่อรับเงินทุนได้
- Private Key: Private Key คือรหัสตัวอักษรและตัวเลขที่ไม่ซ้ำกันสำหรับแต่ละ wallet ซึ่งพิสูจน์ความเป็นเจ้าของสินทรัพย์คริปโตที่อยู่ภายใน มันเหมือนกับรหัสผ่านดีๆ นั่นเอง หมายความว่าไม่ควรแชร์ให้ใครอื่นรู้
กระเป๋าคริปโตจัดเก็บและจัดการ Private Key – ไม่ใช่ ตัวสินทรัพย์ crypto จริงๆ เพราะสินทรัพย์ถูกจัดเก็บไว้บน Blockchain; ส่วน Private Key เพียงให้สิทธิ์การเข้าถึงและพิสูจน์ความเป็นเจ้าของ
Crypto wallet ที่ดีที่สุด ใช้เทคนิคการเข้ารหัสขั้นสูง เพื่อปกป้อง Private Key ของผู้ใช้งาน โดยวอลเล็ตแต่ละประเภทใช้วิธีการที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น การเข้ารหัส, Seed Phrases, การยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ และ Hardware Security Modules (HSMs) โดยทั่วไป Digital wallets จะมีตัวเลือกการสำรองข้อมูลและการกู้คืนที่ช่วยให้มั่นใจว่าผู้ใช้จะไม่สูญเสียการเข้าถึงสินทรัพย์ของตน
วิธีจัดเก็บ Seed Phrases อย่างปลอดภัย
หลังจากเลือกหนึ่งใน Non-custodial wallets ชั้นนำแล้ว คุณจะได้รับ Seed Phrase ซึ่งทำหน้าที่เป็น Master Key ของคุณและให้สิทธิ์คุณเข้าถึง crypto wallet ของคุณ สิ่งสำคัญคือต้องจัดเก็บ Seed Phrase ของคุณอย่างเหมาะสม
ผู้ใช้บางรายเลือกใช้อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเช่น Cryptotag ซึ่งจัดเก็บ Seed Phrases ของคุณไว้ในแผ่นไทเทเนียมเกรดเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมอวกาศ คุณสามารถจัดเก็บ Seed Phrases ได้ระหว่าง 24 ถึง 42 คำ ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ Cryptotag ที่คุณเลือก อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลนี้กันกระสุน และทนทานต่อน้ำและความร้อน
ประเภทของ Crypto Wallets: คุณควรเลือกแบบไหน?
การตัดสินใจซื้อ Cryptocurrency เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ – แต่การเลือกว่าจะจัดเก็บไว้ที่ไหนหลังการซื้อก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน มีวอลเล็ตหลายประเภทให้เลือก ด้านล่างนี้ เราจะอธิบายว่า Software wallets, Hardware wallets และ Paper wallets คืออะไร และคุณควรเลือกแบบไหน
Software Wallets (Hot Wallets)
Software wallets เหมาะสำหรับนักเทรดที่ซื้อขายบ่อยครั้งและผู้ใช้ที่ต้องการเข้าถึง Cryptocurrencies ของตนได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว Hot wallets ที่ดีที่สุดมอบความสะดวกสบายและการเข้าถึงบนอุปกรณ์มือถือหรือ Desktop ทำให้เหมาะสำหรับธุรกรรมในชีวิตประจำวัน (Everyday Transactions) ซึ่งแตกต่างจาก Hardware wallets หรือ Paper wallets ที่เหมาะสำหรับการจัดเก็บระยะยาว (Long-term Storage) มากกว่า
มี Software wallets สองประเภทหลัก:
- Mobile wallets: แอปพลิเคชันสมาร์ทโฟนเหล่านี้ออกแบบมาเพื่อให้เข้าถึง crypto ของผู้ใช้ได้ทุกที่ Mobile wallets มักให้บริการฟรีโดย crypto wallets ชั้นนำ เช่น Best Wallet
- Desktop wallets: แอปพลิเคชันเหล่านี้สามารถดาวน์โหลดและติดตั้งบนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ได้ Desktop wallets ปลอดภัยกว่า Mobile wallets เล็กน้อย เนื่องจากจัดเก็บ Private Key ของผู้ใช้ไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างเช่น MetaMask
Software wallets เรียกอีกอย่างว่า ‘Hot wallets’ เนื่องจากเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ทำให้มีความเสี่ยงต่อการโจมตีทางไซเบอร์มากกว่า ‘Cold’ wallets ซึ่งไม่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
หากคุณเป็นผู้ใช้งานเกมออนไลน์อย่างคาสิโน หนึ่งในระบบที่ช่วยลดความยุ่งยากในการโยกเงินไปมาระหว่างเกมต่าง ๆ คือ Casino Wallet ซึ่งถือเป็นฟีเจอร์ที่หลายเว็บไซต์ชั้นนำเริ่มนำมาใช้เพื่อตอบโจทย์ผู้เล่นที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว
Hardware Wallets (Cold Wallets)
Hardware wallets (หรือที่เรียกว่า Cold wallets) เหมาะที่สุดสำหรับผู้ใช้ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัย เช่น นักลงทุนระยะยาว เพราะเป็นการจัดเก็บ Private Keys แบบออฟไลน์ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการถูกแฮ็ก จึงเหมาะสำหรับการถือครองจำนวนมาก เพราะกระเป๋าเงินแบบฮาร์ดแวร์จะให้การป้องกันที่แข็งแกร่งต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ ซึ่งแตกต่างจาก Software wallets และในขณะเดียวกันก็มีความทนทานและใช้งานง่ายกว่า Paper wallets
อุปกรณ์เหล่านี้มักมีลักษณะคล้าย USB sticks และต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น เช่น แล็ปท็อปหรือสมาร์ทโฟน เพื่อเริ่มต้นธุรกรรม
Hardware wallets มีความจำเป็นสำหรับนักลงทุนหรือนักเทรดที่จัดการ crypto จำนวนมาก ในกรณีเหล่านี้ ราคาที่ค่อนข้างสูงของ Cold wallet ที่ดีที่สุด ถือว่าสมเหตุสมผลด้วยความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยปกป้องสินทรัพย์ที่มีมูลค่าสูงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้น
Paper Wallets
Paper wallets เหมาะที่สุดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการวิธีการจัดเก็บแบบออฟไลน์และไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นประเภทของการจัดเก็บแบบ “Cold” storage ซึ่งผู้ใช้จะเขียน Public Keys และ Private Keys ของตนลงบนกระดาษ
จากนั้นผู้ใช้จะเก็บกระดาษแผ่นนี้ไว้ในที่ปลอดภัยซึ่งไม่มีใครสามารถเข้าถึงได้ — ตัวอย่างเช่น ในตู้เซฟ ตู้นิรภัย หรือล็อกเกอร์ เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาว Paper wallets หลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการแฮ็กออนไลน์ อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องการการจัดการอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันการสูญหายหรือความเสียหายทางกายภาพ
ข้อเสียของวิธีนี้คือผู้ที่มี Paper wallets ยังคงต้องใช้แอป crypto wallet เพื่อใช้จ่ายหรือโอนสินทรัพย์ดิจิทัลในที่สุด ดังนั้น Paper wallets จึงค่อนข้างไม่สะดวกและถือว่าปลอดภัยน้อยกว่าทางเลือกอื่นๆ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงไม่ค่อยนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
วิธีค้นหากระเป๋าคริปโตที่ปลอดภัย
การค้นหา Web3 Wallet ที่ดีที่สุดอาจเป็นเรื่องยุ่งยากเนื่องจากมีตัวเลือกมากมาย อย่างไรก็ตาม เราได้ระบุกลยุทธ์สามประการที่นักเทรดสามารถนำไปใช้เพื่อค้นหากระเป๋าเงินคริปโตที่ปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ใช้ผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียง
กลยุทธ์ที่สำคัญที่สุดคือการเลือกเฉพาะ crypto wallets ที่นำเสนอโดยผู้ให้บริการที่มีชื่อเสียงเท่านั้น ก่อนดาวน์โหลดวอลเล็ต ควรหาเวลาอ่านรีวิวออนไลน์และตรวจสอบประวัติของผู้ให้บริการที่คาดหวัง ผู้ให้บริการ crypto wallet หลายรายยังได้รับการรับรองจากบุคคลหรือธุรกิจที่มีชื่อเสียง ซึ่งสามารถเพิ่มความน่าเชื่อถือได้
ผู้ให้บริการชั้นนำหลายรายที่ระบุไว้ในคู่มือนี้มีประวัติความสำเร็จที่ยาวนานในวงการและมีคะแนนความปลอดภัยสูง อย่างไรก็ตาม แม้แต่วอลเล็ตที่น่าเชื่อถือสูงก็อาจเสี่ยงต่อการโจมตีได้ ตัวอย่างเช่น Atomic Wallet เคยเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการชั้นนำก่อนที่กลุ่มแฮ็กเกอร์ Lazarus ของเกาหลีเหนือจะ ขโมยเงินทุนของลูกค้าไปมากกว่า $35 million
พิจารณาฟีเจอร์ความปลอดภัย
เมื่อเลือก Bitcoin wallet สิ่งสำคัญคือต้องศึกษาฟีเจอร์ความปลอดภัยของวอลเล็ตอย่างละเอียด เราจะสำรวจเรื่องนี้เพิ่มเติมในส่วนถัดไป แม้ว่าโดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับการตรวจสอบประเภทของการเข้ารหัสที่มีให้ และตัดสินใจว่าจะใช้ Hot wallet หรือ Cold wallet
ทดสอบวอลเล็ตก่อนทำการโอนเงินจำนวนมาก
สุดท้าย อาจเป็นการดีที่สุดที่จะทดสอบ crypto wallet ด้วยจำนวน crypto เล็กน้อยก่อนที่จะใช้งานเต็มที่ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการสูญเสียครั้งใหญ่ในขณะที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทดสอบฟังก์ชันการทำงานของวอลเล็ตและฟีเจอร์ ความปลอดภัยของ crypto (Crypto Security) ได้ หากวอลเล็ตทำงานได้ดีตามที่คาดหวัง ผู้ใช้ก็สามารถโอน crypto จำนวนมากขึ้นได้อย่างมั่นใจ
วิธีรับและใช้งาน Crypto Wallet
ก่อนที่จะจบคู่มือเกี่ยวกับ crypto wallets ที่ดีที่สุดนี้ มาดูวิธีดาวน์โหลดและใช้งานหนึ่งในวอลเล็ตเหล่านี้กัน ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ crypto wallet ที่เราแนะนำคือ Best Wallet ซึ่งมาพร้อมกับแอปฟรีที่ใช้งานง่ายและพร้อมใช้งานบนอุปกรณ์ iOS และ Android
ด้วยเหตุนี้ ด้านล่างนี้คือขั้นตอนง่ายๆ ในการดาวน์โหลดแอป Best Wallet crypto และเริ่มใช้งานวันนี้:
ขั้นตอนที่ 1 – ดาวน์โหลดแอป Best Wallet
Best Wallet มีให้บริการเป็น Mobile App ทั้งบน Android และ iOS ดังนั้นขั้นตอนแรกคือไปที่ Play Store/App Store และดาวน์โหลดแอป แอปนี้ฟรีและใช้เวลาไม่นานในการเพิ่มลงในโทรศัพท์ของคุณ

ขั้นตอนที่ 2 – สร้างบัญชี
ถัดไป แอปจะขอให้คุณสร้างบัญชีของคุณ เพียงป้อนที่อยู่อีเมล (Email Address) ของคุณ แล้วคุณจะได้รับลิงก์ยืนยัน (Verification Link)

ขั้นตอนที่ 3 – ยืนยันฟีเจอร์ความปลอดภัย
เมื่อคุณยืนยันบัญชีของคุณแล้ว แอปจะขอให้คุณสร้างรหัสผ่าน (Passcode) หรือเปิดใช้งานการยืนยันผ่านไบโอเมตริกซ์ (Biometrics) เราแนะนำให้ทำทั้งสองอย่างเพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ขั้นตอนที่ 4 – ใช้งานแอป Best Wallet และตัววอลเล็ต
ตอนนี้บัญชี (Account) ของคุณถูกสร้างขึ้นแล้ว และคุณสามารถเริ่มใช้ Best Wallet เพื่อจัดการสินทรัพย์ของคุณได้

สรุป: Crypto Wallet ใดดีที่สุดสำหรับ Crypto ใน ธันวาคม 2025?
การเลือก Cryptocurrency Wallet ที่เหมาะสมคือการค้นหาความสมดุลระหว่างความปลอดภัย ความสะดวกสบาย และฟังก์ชันการทำงานที่ตรงกับความต้องการของคุณ ไม่ว่าคุณจะต้องการ Hot wallet สำหรับธุรกรรมที่รวดเร็วและบ่อยครั้ง หรือ Cold wallet เพื่อเก็บสินทรัพย์ของคุณแบบออฟไลน์ในระยะยาว รายการของเรานำเสนอโซลูชันคุณภาพสูง
หลังจากทดสอบผู้ให้บริการกว่า 40 รายอย่างละเอียด เราพบว่า Best Wallet เป็น crypto wallet ที่ดีที่สุดโดยรวมในปี 2025 เนื่องจากฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง รองรับหลายเชน อินเทอร์เฟสใช้งานง่ายแต่ครบครัน และค่าธรรมเนียมธุรกรรมต่ำ รองรับ Cryptocurrencies ที่หลากหลายและมีฟีเจอร์ที่ครอบคลุม เช่น Staking, การแลกเปลี่ยนโทเค็น และการจัดการ NFT ทำให้เป็นตัวเลือกอเนกประสงค์สำหรับผู้ใช้งานทุกคน
เยี่ยมชม Best Walletคำถามที่พบบ่อย (FAQs)
crypto wallet ใดดีที่สุด?
crypto wallet ใดปลอดภัยที่สุด?
crypto wallet ใดมีค่าธรรมเนียมต่ำที่สุด?
ฉันจะเลือก crypto wallet ที่ดีได้อย่างไร?
Coinbase Wallet ดีหรือไม่?
crypto hardware wallet ใดดีที่สุด?
แหล่งอ้างอิง (References)
- Best Wallet: Best Wallet มีกระบวนการ KYC หรือไม่?
- Ledger: เหรียญและโทเค็นที่รองรับ
- OKX: การ Staking ETH
- NGRAVE: รองรับเหรียญใดบ้าง?
- Chainlink: Secure Multi-Party Computation (MPC)
- Trezor: Shamir backup คืออะไร?
เกี่ยวกับ Cryptonews
Cryptonews คือสื่อออนไลน์ระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2017 มุ่งเน้นการนำเสนอข่าวสาร บทวิเคราะห์ และคู่มือเชิงลึกในวงการคริปโตและบล็อกเชน ปัจจุบันมีผู้อ่านกว่า 2 ล้านคนต่อเดือน จากทั่วโลก และทีมผู้เขียนมากกว่า 70 คน ที่ครอบคลุมทุกมุมมอง ตั้งแต่ Bitcoin, Altcoin, DeFi, NFT ไปจนถึง Web3 ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปี เรามุ่งมั่นที่จะเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และอัปเดตเร็ว

Pakphum Kerdprap
Somchai Wang
Anuchit Laemsing