7 อันดับ เว็บเทรดคริปโตที่ดีที่สุด สำหรับมือใหม่ 2025

ผู้เขียน
ตรวจสอบข้อมูลโดย
อัปเดตล่าสุด: 
ทำไมจึงไว้วางใจ Cryptonews
Cryptonews ได้รายงานข่าวในวงการคริปโตเคอเรนซีมานานกว่า 10 ปี ทีมงานที่เชี่ยวชาญของเรามุ่งเน้นการวิเคราะห์ตลาด เทคโนโลยีบล็อกเชน และการรายงานอย่างถูกต้องและสมดุล ครอบคลุมคริปโต บล็อกเชน และการพัฒนาในอุตสาหกรรม เรามุ่งมั่นในการให้ความโปร่งใสกับผู้อ่าน เนื้อหาบางส่วนอาจมี Affiliate Links ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่น หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มโปรดอ่านรายละเอียดในเพจ Affiliate Disclosure
คำแนะนำ: บทความนี้มีเนื้อหาเชิงข้อมูลเกี่ยวกับแพลตฟอร์มในต่างประเทศ และมิได้มีจุดประสงค์เพื่อเชิญชวนหรือสนับสนุนให้ผู้อ่านใช้บริการที่อาจละเมิดกฎหมายในท้องถิ่น รวมถึงประเทศไทย โปรดพิจารณาให้รอบคอบก่อนเข้าใช้งาน และตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณพำนักอยู่ในประเทศที่อนุญาตให้ใช้บริการเหล่านี้อย่างถูกต้อง

การลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโตเคอร์เรนซีนั้นเป็นสิ่งที่นักลงทุนรุ่นใหม่ต่างกำลังให้ความสนใจและกำลังมองหาโอกาสในการทำเงินหลังจากกระแสของบิทคอยน์ได้สร้างปรากฎการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดหรือการรองรับสกุลเงินนี้ในวงกว้าง ซึ่งทำให้คริปโตทางเลือกอื่น ๆ นั้นเริ่มมีบทบาทและน่าสนใจต่อการลงทุนมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับมือใหม่แล้วนั้นการมองหากระดานเทรดที่ปลอดภัยอาจเป็นเรื่องที่ยากและจะต้องศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด ไมว่าจะเป็นการเทรดคริปโต ที่ไหนดี หรือเทรดประเภทไหนให้ผลตอบแทนที่ดี หรือโครงการไหนที่น่าสนใจ ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องศึกษาทั้งสิ้น

บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับกระดานและกระเป๋าเงินคริปโตที่มีคุณสมบัติในการเทรดพร้อมกับฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เอื้อต่อการใช้งานสำหรับนักลงทุน และที่สำคัญมีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือ พร้อมกับข้อมูลสำหรับการเทรดที่คุณต้องรู้ เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับประโยชน์สูงสุด

แนะนำ 7 แพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่ดีที่สุดปี 2025


นี่คือแพลตฟอร์มที่เราได้ทำการสำรวจแล้วว่าดีที่สุดในการเทรดคริปโต ที่ไหนดี

Best Wallet – แพลตฟอร์มเทรดคริปโต ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ รองรับเหรียญมากกว่า 1,000 เหรียญ

Margex – เว็บเทรดที่มีอินเตอร์เฟซใช้งานง่ายและมอบโบนัสสมัครสมาชิกสูงสุดมูลค่า 10,000 ดอลลาร์

MEXC – เว็บเทรดที่มีเลเวอเรจสูงสุด 400 เท่าและให้ผลตอบแทน Staking APY สูงถึง 300%

BloFin – เว็บเทรดคริปโตเน้นระบบรีวอร์ด ที่มีตัวเลือกฟิวเจอร์สมากกว่า 300 รายการ
Binance – เว็บเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสภาพคล่องสูง ระบบความปลอดภัย MFA ที่แข็งแกร่ง

KCEX – เว็บเทรดที่เหมาะสำหรับผู้ใช้มือใหม่ และอินเตอร์เฟซที่เป็นหมวดหมู่สะอาดตา

BingX – แพลตฟอร์มที่โดดเด่นเรื่องฟีเจอร์ Copy Trading สำหรับผู้ที่ไม่มีค่อยมีเวลาเทรดเอง

ตารางเปรียบเทียบแพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่ดีที่สุดปี 2025


แพลตฟอร์ม ฟีเจอร์เด่น ค่าธรรมเนียมเทรด เลเวอเรจสูงสุด จำเป็นต้อง KYC หรือไม่ ?
Best Wallet ระบบกระเป๋าแบบมัลติเชน, ทำนายราคา, แนะนำเหรียญใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพสูง ไม่มี ไม่มี ไม่จำเป็น
Margex เทรด leverage ได้แบบโปร่งใส ต่ำ (0.019% maker) 100x ไม่จำเป็น
MEXC Futures, ETF, Launchpad ต่ำถึงปานกลาง 400x ไม่จำเป็น
BloFin โบนัสผู้ใช้งานใหม่, Spot+Futures ต่ำมาก 150x จำเป็น
Binance ทุกฟีเจอร์, มีทุกเหรียญ ต่ำสุด (0.10% หรือต่ำกว่า) 125x จำเป็น
KCEX โบนัสแรกเข้า, Spot+Futures ต่ำ 100x ไม่จำเป็น
BingX Copy Trade, Futures ต่ำ 150x จำเป็น

รีวิวช่องทางเทรดคริปโต แอพไหนดีแบบละเอียด


เรามาเจาะลึกกันแต่ละแพลตฟอร์มกันอย่างละเอียดว่าพวกเขามีข้อดีอะไรบ้าง และมีจุดเด่นอะไรที่นักเทรดมือใหม่ต้องรู้

1. Best Wallet – แพลตฟอร์มเทรดคริปโต ที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ รองรับเหรียญมากกว่า 1,000 เหรียญ

Best Wallet เป็นกระเป๋าเงินที่เหมาะสำหรับการเทรดคริปโตที่ดีที่สุดในรายการของเราด้วยเหตุผลหลายประการ อันดับแรกพวกเขาเป็นกระเป๋าที่ง่ายต่อการใช้งาน คุณสามารถทำการจัดเก็บ

ซื้อขายแลกเปลี่ยนด้วยแอปพลิเคชั่นของแพลตฟอร์มที่รองรับมือถือทุกระบบปฏิบัติการ ทั้ง Android และ iOS ทำให้เทรดได้ทุกที่ที่ต้องการเพียงแค่ทำการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

Best Wallet กระเป๋าบิทคอยน์ และ กระดานเทรดคริปโต ที่ไม่ต้องยืนยันตัวตน

ไม่เพียงเท่านั้น Best Wallet ยังรองรับสกุลเงินหลายสิบสกุลเงินด้วยกัน และมีการทำงานแบบมัลติเชน ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าคุณจะต้องสลับเชนไปมาเพื่อจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลของคุณ เพราะระบบนี้จะทำให้คุณง่ายต่อการจัดเก็บและจัดการพอร์ตลงทุนได้อย่างอิสระ นอกจากนี้

พวกเขายังมีฟีเจอร์ที่เอื้อต่อการใช้งานที่สะดวก ไม่ว่าจะเป็นการติดตามราคาของคริปโตแบบเรียลไทม์ หรือการเสนอโครงการใหม่ ๆ ที่มีศักยภาพในการเติบโต

รวมไปถึงหากคุณทำการซื้อหรือเข้าร่วมโทเค็นประจำโครงการจะได้รับสิทธิประโยชน์ส่วนลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มอีกด้วย และที่สำคัญ พวกเขาไม่จำเป็นต้อง KYC ทำให้การเทรดของคุณนั้นมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

จุดเด่น

  • รองรับการเทรดมากกว่า 50 เครือข่ายบล็อกเชน
  • เชื่อมต่อกับ DEX มากกว่า 200 แห่ง
  • เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการควบคุมสินทรัพย์ด้วยตนเอง
  • ซื้อ ขาย ติดตามราคา Staking ได้ภายในแอปเดียว
  • ไม่จำเป็นต้อง KYC

จุดด้อย

  • อาจซับซ้อนสำหรับมือใหม่ที่เริ่มต้น

2. Margex – เว็บเทรดที่มีอินเตอร์เฟซใช้งานง่ายและมอบโบนัสสมัครสมาชิกสูงสุดมูลค่า 10,000 ดอลลาร์

Margex เป็นแพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2019 และมีการรองรับสกุลเงินที่มากกว่า 50 สกุลเงิน ทำให้เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่น่าสนใจ

แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ Margex อาจจะต้องพิจารณาอย่างลึกซึ้งก็คือพวกเขาเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานได้เฉพาะภาษาต่าประเทศเท่านั้น และยังไม่มีการรองรับภาษาไทย ทำให้นักเทรดชาวไทยอาจจะต้องมีสกิลด้านภาษาร่วมด้วย

Margex เว็บเทรดคริปโต ที่มีอินเตอร์เฟซใช้งานง่าย

สิ่งที่เป็นจุดเด่นของ Margex ได้แก่ค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างต่ำ โดยค่าธรรมเนียมของพวกเขาคือ Taker อยู่ที่ 0.06% และ Maker มีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 0.019% ไม่เพียงเท่านั้น Leverage ยังเพิ่มได้สูงสุดถึง 100 เท่า ซึ่งอาจไม่โดดเด่นเท่าแพลตฟอร์มอื่น

แต่สำหรับกระดานเทรดขนาดเล็กถือว่าเป็นการตอบแทนที่คุ้มค่าอีกหนึ่งแห่ง นอกจากนี้สำหรับนักเทรดมือใหม่ที่ทำการลงทะเบียนและฝากเงินครั้งแรก จะได้รับข้อเสนอในส่วนของโบนัสสมาชิกสูงสุดถึง 10,000 ดอลลาร์ เรียกได้ว่ายิ่งเทรดยิ่งได้ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาแพลตฟอร์มที่ให้ผลตอบแทนสูง

จุดเด่น

  • รองรับการเทรดด้วยเลเวอเรจสูงสุดถึง 100 เท่าสำหรับคู่เทรดหลัก
  • มีฟีเจอร์ Copy Trading และระบบกระเป๋าเงินแบบหลายสินทรัพย์
  • ไม่จำเป็นต้อง KYC
  • มีโบนัสสำหรับสมาชิกใหม่มากถึง 10,000 ดอลลาร์

จุดด้อย

  • มีฟังก์ชันและเครื่องมือน้อยกว่าแพลตฟอร์มอื่น

3. MEXC – เว็บเทรดที่มีเลเวอเรจสูงสุด 400 เท่าและให้ผลตอบแทน Staking APY สูงถึง 300%

MEXC เป็นกระดานเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดอีกหนึ่งแห่งที่รองรับสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 3,000 กว่าสกุล พร้อมกับค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก ไม่ว่าจะเป็นการเทรดแบบ Spot หรือ Futures พร้อมกับค่า Leverage สูงสุดถึง 4,000 เท่า และ Staking APY สูงถึง 300%

เรียกได้ว่าเป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมองหาความสะดวกต่อการใช้งานและการเทรดที่อิสระ และรองรับทุกการเทรดที่ดีที่สุด

MEXC - เว็บเทรดที่มีเลเวอเรจสูงสุด 400 เท่า

ไม่เพียงเท่านั้น ทาง MEXC ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง โดยพวกเขามีการรักษารหัสผ่านที่ปลอดภัย การยืนยันตัวตนสองชั้น และอื่น ๆ อีกมากมายเพื่อป้องกันการโจรกรรมทางไซเบอร์

และเพื่อให้ทางผู้ใช้งานรู้สึกปลอดภัยและเชื่อถือทุกครั้งที่ฝากสินทรัพย์ดิจิทัลไว้กับแพลตฟอร์ม คุณสามารถใช้งาน MEXC ผ่านทางเบราว์เซอร์บนคอมพิวเตอร์ หรือดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชั่นบนมือถือได้ตามความสะดวก

แน่นอนว่าการใช้งานด้วยมือถือนั้นจะทำให้คุณเทรดได้ทุกที่ตามความต้องการและติดตามราคาของเหรียญคริปโตโดยไม่ต้องเฝ้าหน้าจอคอมพิวเตอร์อีกด้วย

จุดเด่น

  • รองรับการเทรดคริปโตมากกว่า 2,900 สกุลเงิน
  • ค่าธรรมเนียมค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น
  • มีฟังก์ชันทดลองเทรด หรือ เดโม่
  • มีฟังก์ชัน Copy Trading สำหรับผู้เริ่มต้น

จุดด้อย

  • ไม่สามารถใช้งานได้ในบางประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา

4. BloFin – เว็บเทรดคริปโตเน้นระบบรีวอร์ด ที่มีตัวเลือกฟิวเจอร์สมากกว่า 300 รายการ

BloFin เป็นกระดานเทรดคริปโตที่แม้จะเพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้แต่ก็มีความเป็นมืออาชีพสูง โดยพวกเขาเพิ่งเปิดตัวในปี 2024 รองรับสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 300 สกุลเงิน แต่ถึงเป็นเช่นนั้นพวกเขาก็มีความเป็นมืออาชีพสูง และค่อนข้างรู้จักลูกค้าและผู้ใช้งานอย่างดี และเอื้อประโยชน์ต่อผู้ใช้ด้วยค่าธรรมเนียมที่ไม่สูงจนเกินไป

BloFin - เว็บเทรดคริปโตเน้นระบบรีวอร์ด

ในด้านค่าธรรมเนียม BloFin เรียกเก็บค่าธรรมเนียมการซื้อขายแบบ Spot ที่ Maker 0.1% และ Taker 0.1% ในขณะที่การซื้อขายแบบ Futures มีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ Maker 0.02% และ Taker 0.06% ตามลำดับ พร้อมกับ Leverage สูงสุดถึง 150 เท่า ซึ่งสูงและโดดเด่นอย่างมากสำหรับแพลตฟอร์มใหม่ ๆ

อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ BloFin ได้ผสานรวม Chainalysis เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยและการปกป้องสินทรัพย์ที่มีอยู่แล้ว ส่งผลให้สินทรัพย์ของลูกค้าได้รับการปกป้องอย่างปลอดภัยมากขึ้นกว่าเดิม สำหรับคำถาม เทรดคริปโต ที่ไหนดี BloFin ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจในแง่ความปลอดภัย

จุดเด่น

  • รองรับการเทรดฟิวเจอร์สกว่า 350 สัญญา
  • รองรับ Spot มากกว่า 400 รายการ
  • มีฟีเจอร์คัดลอกการเทรด
  • ไม่ต้อง KYC และสามารถทำการถอนได้สูงสุด 20,000 USDT ต่อวัน

จุดด้อย

  • หากติดต่อเจ้าหน้าที่อาจจะต้องรอนาน

5. Binance – เว็บเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสภาพคล่องสูง ระบบความปลอดภัย MFA ที่แข็งแกร่ง

สำหรับนักลงทุนทั้งใหม่และเก่าคงไม่มีใครไม่รู้จัก Binance กระดานเทรดคริปโตที่ใหญ่ที่สุดในขณะนี้ โดยพวกเขาเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2017 เรียกได้ว่าเป็นผู้คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมคริปโตเลยทีเดียว โดยพวกเขามีสภาพคล่องสูง ระบบความปลอดภัย MFA ที่แข็งแกร่ง และกองทุนคุ้มครองนักลงทุน SAFU เหมาะสำหรับนักลงทุนทั้งหน้าใหม่และเก่านั่นเอง

นอกจากนี้ทางแพลตฟอร์มยังรองรับสกุลเงินดิจิทัลมากถึง 500 สกุลเงิน และมีค่าธรรมเนียมที่ค่อนข้างต่ำเพียง Maker และ Taker Fee 0.1% เท่านั้น ทำให้เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีงบไม่สูงมากนัก อีกทั้ง Leverage สูงสุดถึง 125 เท่า ทำให้คุณมีโอกาสขยับขยายได้อย่างอิสระ

Binance - เว็บเทรดที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสภาพคล่องสูง

ไม่เพียงเท่านั้น Binance ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ค่อนข้างเข้มงวดเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ และยังเป็นต้นแบบให้กับกระดานเทรดรุ่นหลัง ๆ อีกด้วย พวกเขามีข่าวสารที่ฉับไว และมาพร้อมกับคู่มือลงทุนที่จะทำให้ผู้ใช้งานมือใหม่นั้นไม่เคว้งและเดินหน้าลงทุนได้อย่างมั่นคง

จุดเด่น

  • เป็นแพลตฟอร์มที่มีสภาพคล่องที่สูงมาก
  • มีสกุลเงินเป็นของตัวเองและค่าธรรมเนียมทำธุรกรรมที่ต่ำ
  • มีฟีเจอร์การใช้งานที่หลากหลายมาก
  • มีชื่อเสียงในแวดวงคริปโตเป็นอย่างมาก

จุดด้อย

  • อาจต้องตรวจสอบข้อกฎหมายในประเทศที่ใช้งาน

6. KCEX – เว็บเทรดที่เหมาะสำหรับผู้ใช้มือใหม่ และอินเตอร์เฟซที่เป็นหมวดหมู่สะอาดตา

KCEX เป็นเว็บเทรดคริปโตที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นานมานี้ และแม้จะเป็นหน้าใหม่ในวงการ แต่ก็พยายามสร้างจุดเด่นด้วยการเน้นประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ง่ายและไม่ซับซ้อน ซึ่งเหมาะมากสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าสู่โลกคริปโต ทำให้อินเทอร์เฟซดูสะอาดตา ไม่รก และใช้งานง่ายแม้ไม่เคยเทรดมาก่อน

ตัวแพลตฟอร์มรองรับทั้ง Spot และ Futures ซึ่งถือว่าเพียงพอสำหรับการเริ่มต้นเทรด นอกจากนี้ยังมีระบบโบนัสหรือกิจกรรมรายวันเพื่อดึงดูดผู้ใช้งานหน้าใหม่ ถึงแม้โดยรวมแล้วเครื่องมือฟีเจอร์อาจจะยังไม่ครบเท่าเจ้าหลัก แต่ก็ถือว่า KCEX เดินมาในทิศทางที่ค่อนข้างดี และดูมีแผนจะพัฒนาฟีเจอร์เพิ่มเติมในอนาคต

KCEX - เว็บเทรดที่เหมาะสำหรับผู้ใช้มือใหม่

แน่นอนว่าเพราะเป็นแพลตฟอร์มน้องใหม่จึงยังไม่มีชื่อเสียงหรือข้อมูลมากนักเกี่ยวกับทีมงานหรือบริษัทผู้พัฒนา ทำให้ผู้ใช้งานควรพิจารณาเรื่องความปลอดภัยให้ดี แนะนำว่าหากเริ่มต้นยังไม่ควรฝากเงินจำนวนมาจนกว่าจะมั่นใจ หากมองในแง่ของโอกาส KCEX เป็นแพลตฟอร์มที่น่าจับตาในฐานะเว็บเทรดหน้าใหม่แต่ยังไรแล้วตัวแพลตฟอร์มและนักพัฒนาเองก็ยังต้องพิสูจน์ตัวเองในอีกหลายด้าน

จุดเด่น

  • มีอินเทอร์เฟซที่ง่ายต่อการใช้งานสำหรับผู้เริ่มต้นใหม่
  • เป็นน้องใหม่มาแรงที่มีความเป็นมืออาชีพสูง
  • รองรับการเทรดหลายรูปแบบ
  • การสนับสนุนตลอด 24 ชั่วโมง

จุดด้อย

  • อาจมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยเนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่เพิ่งเปิดให้บริการ

7. BingX – แพลตฟอร์มที่โดดเด่นเรื่องฟีเจอร์ Copy Trading สำหรับผู้ที่ไม่มีค่อยมีเวลาเทรดเอง

BingX เป็นแพลตฟอร์มเทรดคริปโตที่โดดเด่นเรื่องฟีเจอร์ Copy Trading ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาเทรดเอง หรือยังไม่มั่นใจในกลยุทธ์ของตัวเอง โดยผู้ใช้งานสามารถติดตามนักเทรดมืออาชีพและคัดลอกคำสั่งซื้อขายได้แบบอัตโนมัติ อีกทั้งยังสามารถเลือกนักเทรดตามประวัติผลตอบแทนและระดับความเสี่ยงที่ตนเองยอมรับได้

BingX - แพลตฟอร์มที่โดดเด่นเรื่องฟีเจอร์ Copy Trading

ในด้านความหลากหลายตัวแพลตฟอร์มรองรับทั้ง Spot และ Futures และมีอินเทอร์เฟซที่ทันสมัย ใช้งานง่ายทั้งบนเว็บและแอปมือถือ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สำหรับมือใหม่ เช่น การเทรดแบบจำลองที่ไม่ต้องใช้เงินจริง ช่วยให้ผู้ใช้งานฝึกฝนและทดสอบกลยุทธ์ได้ อย่างไรก็ตาม BingX ยังมีข้อจำกัดในบางประเทศ

รวมถึงมีข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงของระบบและการบริหารความเสี่ยงที่เปิดเผยน้อย ทำให้ผู้ใช้งานควรตรวจสอบและศึกษาให้รอบคอบก่อนลงทุนจริง ถึงแม้ฟังก์ชันหลายอย่างของแพลตฟอร์มจะน่าสนใจ โดยเฉพาะการคัดลอกพอร์ต แต่ก็ควรเปรียบเทียบและดูว่าพอร์ตเหล่านั้นมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ด้วย

จุดเด่น

  • ใช้งานง่ายและสะดวก
  • มีฟีเจอร์ Copy Trading ที่เหมาะสำหรับมือใหม่
  • รองรับการเทรดหลายประเภท

จุดด้อย

  • อาจมีข้อจำกัดในการใช้งานบางประเทศ

คำศัพท์สำคัญที่คุณต้องรู้เมื่อเทรดคริปโต ที่ไหนดี


แน่นอนว่าสำหรับมือใหม่ที่เริ่มต้นลงทุน สิ่งที่คุณจะต้องเรียนรู้ค่อนข้างมีหลายอย่างโดยเฉพาะคำศัพท์ของการลงทุน ในส่วนนี้เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับคำศัพท์ที่ควรรู้เมื่อลงทุนคริปโตว่ามีอะไรบ้าง โดยแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ดังต่อไปนี้

ประเภทการเทรด

  • Day Trading – การเทรดคริปโตในวันเดียวเพื่อเก็งกำไรจากความผันผวนระยะสั้น เป็นกลยุทธ์การทำกำไรด้วยการซื้อขายระยะสั้นซ้ำๆ ทุกวันเพื่อเพิ่มผลกำไรสูงสุด
  • Spot Trading – การซื้อขายสินทรัพย์คริปโตที่เกิดขึ้นทันทีโดยใช้ราคาตลาดปัจจุบัน ผู้ซื้อจะได้ครอบครองเหรียญในทันที และผู้ขายจะได้รับสินทรัพย์ที่ใช้แลกเปลี่ยนไปเช่นกัน โดยไม่มีการผูกมัดสัญญาเหมือน Futures
  • Futures – การเทรดคริปโตสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ที่สามารถทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง เหมาะกับคนที่ต้องการเก็งกำไรจากแนวโน้มตลาดมากกว่าการถือเหรียญจริง
  • Margin – การยืมเงินมาเทรดเพื่อเพิ่มขนาดการลงทุน ตัวอย่างเช่น หากต้องการเทรด $1,000 โดยใช้ Leverage 5x คุณต้องฝากมาร์จิ้น $200 ซึ่งมีความเสี่ยงหากราคาไม่เป็นไปตามที่วิเคราะห์เอาไว้
  • Leverage – เครื่องมือที่ช่วยเพิ่มขนาดการเทรดคริปโตด้วยเงินทุนน้อยกว่าที่ต้องใช้จริง ตัวอย่างเช่น การใช้ Leverage 100x กับมาร์จิ้น $100 จะทำให้คุณสามารถเทรดได้ $1,000 ในขณะเดียวกันหากยิ่งเลเวอเรจสูง ความเสี่ยงก็สูงตามไปด้วย
  • HODL – ย่อมาจาก “Hold on for Dear Life” หมายถึงการถือครองเหรียญระยะยาวโดยเชื่อว่าราคาจะเพิ่มขึ้นในอนาคต เป็นแนวคิดของนักลงทุนที่เชื่อในศักยภาพระยะยาวของสินทรัพย์ดิจิทัล

ค่าธรรมเนียมและต้นทุนการเทรด

  • Maker Fee – ค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ที่วางคำสั่งซื้อหรือขายก่อนที่กำหนดราคาไว้แทนที่จะเป็นราคาตลาด การทำธุรกรรมเหล่านี้ไม่ได้ดำเนินการทันที จึงเพิ่มสภาพคล่องในตลาด ทำให้ตลาดเทรดคริปโตมีความต่อเนื่องและโปร่งใสมากขึ้น
  • Taker Fees – ค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ที่รับคำสั่งที่มีอยู่แล้วและนำสภาพคล่องออกจากตลาดโดยทั่วไปจะสูงกว่า Maker Fee เพราะเป็นผู้ “รับ” ออเดอร์ที่มีอยู่แล้ว
  • Slippage – ส่วนต่างของราคาระหว่างตอนที่ส่งคำสั่งซื้อขายกับราคาที่คำสั่งถูกดำเนินการจริง โดยสภาพคล่องต่ำเป็นสาเหตุหลักของ Slippage จึงทำให้การซื้อขายเกิดขึ้นที่ราคาสุดท้ายที่ยังมีคนพร้อมขายหรือซื้อจริง แทนที่จะเป็นราคาเทรดคริปโตที่เห็นในตอนแรก

ความปลอดภัยและการเก็บสินทรัพย์

  • Custodial – บริการที่ผู้ให้บริการเป็นผู้ดูแลเหรียญแทนผู้ใช้ เช่น เว็บเทรดกลาง จะเป็นกระเป๋าเงินที่เว็บเทรดคริปโตถือ Private Key และควบคุมคริปโตของคุณ แต่ก็ต้องยอมรับความเสี่ยงหากแพลตฟอร์มถูกแฮ็กหรือระบบมีปัญหา
  • Non-custodial – ผู้ใช้เก็บสินทรัพย์ไว้เอง เช่น กระเป๋าคริปโตแบบ DeFi โดยเว็บเทรดหรือบุคคลที่สามไม่มีสิทธิ์เข้าถึง ผู้ใช้จึงมีอำนาจควบคุมและรับผิดชอบความปลอดภัยด้วยตนเอง แต่ถ้าทำรหัสหายหรือโดนหลอกให้เปิดเผยข้อมูล ก็ไม่สามารถเรียกคืนได้เพราะไม่มีตัวกลางช่วยเหลือ
  • Private Key – รหัสผ่านที่จำเป็นในการเข้าถึงสินทรัพย์คริปโตที่เก็บไว้ในกระเป๋าเงินบนบล็อกเชน ดังนั้นการเก็บรักษาให้ปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะหากหลุดไปจะไม่สามารถดึงเหรียญคืนได้แม้แต่เจ้าของระบบก็ช่วยไม่ได้

สภาพคล่องและตลาด

  • Liquidity – ระดับความสามารถในการเทรดคริปโต หรือซื้อขายเหรียญอย่างรวดเร็วโดยไม่ส่งผลกระทบต่อราคา สภาพคล่องสูงหมายถึงความต้องการสูง ทำให้ซื้อขายได้ง่าย ในทางกลับกัน สภาพคล่องต่ำหมายถึงความต้องการต่ำ อาจทำให้เกิดความล่าช้าในการซื้อขายหรือความผันผวนของราคาสูง
  • Trading Pair – คู่ของคริปโตเคอร์เรนซีสองสกุลที่สามารถแลกเปลี่ยนระหว่างกันได้ ตัวอย่างเช่น คู่เทรด BTC/ETH หมายความว่าคุณสามารถซื้อ BTC ด้วย ETH หรือซื้อ ETH ด้วย BTC ได้ การเลือกคู่เทรดคริปโตมีผลต่อค่าธรรมเนียม ความสะดวกในการแปลงเหรียญ และสภาพคล่องของตลาดในคู่นั้น

วิธีเพิ่มผลตอบแทน

  • Staking – กลไกการฝากเหรียญไว้ในระยะเวลาหนึ่งเพื่อรับรายได้แบบ Passive Income เช่น โหนดตรวจสอบธุรกรรมหรือระบบ PoS (Proof of Stake) เพื่อช่วยให้เครือข่ายทำงานต่อเนื่อง เปรียบได้กับดอกเบี้ยที่ได้จากการฝากเงิน แต่มีความเสี่ยงเรื่องราคาของเหรียญผันผวนควบคู่ด้วย

CEX และ DEX คืออะไร ?


ทีนี้เรามาดูความหมายของกระดานเทรดคริปโตแต่ละรูปแบบกันอย่างละเอียด โดยแบ่งออกเป็นสองรูปแบบใหญ่ ๆ ด้วยกัน ซึ่งมีดังต่อไปนี้

CEX – Centralized Exchange

CEX หรือกระดานเทรดคริปโตแบบรวมศูนย์ คือแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่มีหน่วยงานหรือบริษัทกลางเป็นผู้ควบคุม เช่น Binance, Bitkub หรือ Coinbase ผู้ใช้งานต้องสมัครบัญชีและผ่านการยืนยันตัวตนก่อนใช้งาน โดยการซื้อขายทั้งหมดจะดำเนินผ่านระบบของผู้ให้บริการ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้อาจต้องฝากเหรียญไว้ในกระเป๋าของแพลตฟอร์มก่อนจึงจะเริ่มเทรดได้ สะดวก ใช้งานง่าย แต่ก็ต้องพึ่งพาความปลอดภัยจากฝั่งผู้ให้บริการ

DEX – Decentralized Exchange

DEX หรือกระดานเทรดคริปโตแบบกระจายศูนย์ เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่ทำงานผ่านสมาร์ตคอนแทรกต์โดยไม่มีตัวกลาง ผู้ใช้งานจะเชื่อมต่อกระเป๋าเงินของตัวเองเข้ากับระบบ เช่น Uniswap หรือ PancakeSwap แล้วสั่งซื้อหรือขายได้โดยที่ไม่ต้องเปิดบัญชีหรือยืนยันตัวตน ทุกอย่างเกิดขึ้นแบบอัตโนมัติบนบล็อกเชน ซึ่งช่วยให้ควบคุมสินทรัพย์ได้เองเต็มที่ แต่ในทางกลับกันก็ต้องเข้าใจการใช้งานและรับผิดชอบต่อความปลอดภัยของกระเป๋าเงินตัวเองด้วย

สรุปเกี่ยวกับการเทรดคริปโต


อย่างไรก็ตาม การเทรดคริปโตสิ่งที่ต้องคำนึงไม่ใช่ว่าเป็นลงทุนตัวไหนดี แต่เป็นการลงทุนผ่านแพลตฟอร์มไหนถึงจะปลอดภัยและรักษาสินทรัพย์ของคุณได้ดีที่สุด และแพลตฟอร์มส่วนใหญ่ในปัจจุบันพยายามพัฒนาเพื่อให้เอื้อต่อการลงทุนมากที่สุด ไม่ว่าจะฟีเจอร์ที่หลากหลาย การรองรับเงินหลายสกุลง หรือแม้กระทั่งค่าธรรมเนียมที่ต่ำและดึงดูดต่อผู้ใช้งาน

ไม่เพียงเท่านั้น บางแพลตฟอร์มได้นำเทคโนโลยีมาใช้ ไม่ว่าจะเป็นการเทรดภายใต้ Web 3.0 หรือ การนำ AI มาช่วยวิเคราะห์แนวโน้มราคา หรือช่วยตัดสินใจในการลงทุน รวมไปถึงการลงทุนตามนักเทรดที่ประสบความสำเร็จด้วยเครื่องมือก็อปปี้พอร์ตลงทุน เป็นต้น

ตลาดคริปโตค่อนข้างมีความผันผวนสูง การมองหาเทรดคริปโต แอพไหนดีก็ควรมองหาแอปที่ใช้งานง่ายและสะดวก ซึ่งผู้พัฒนาต่างพยายามสร้างสรรค์หน้าจอ อินเตอร์เฟซให้เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานมากที่สุด และการเทรดก็ไม่ใช่เรื่องยากหรือเรื่องไกลตัวอีกต่อไป

คำถามที่พบบ่อย


คริปโตเคอร์เรนซีคืออะไร?

จะเริ่มต้นซื้อคริปโตได้อย่างไร?

คริปโตถูกกฎหมายในประเทศไทยไหม?

เก็บคริปโตไว้ที่ไหนปลอดภัยที่สุด?

ทำไมราคาคริปโตถึงผันผวนมาก?

2M+

มีผู้ใช้งานรายเดือนทั่วโลกมากกว่า

250+

มีบทความรีวิวและคู่มือมากกว่า

8 ปี

อยู่ในตลาดมาแล้ว

70 คน

มีทีมงานนักเขียนนานาชาติกว่า

ICO ของ Crypto ที่ดีที่สุด

ค้นพบโทเค็นที่กำลังได้รับความนิยมซึ่งยังอยู่ในช่วงพรีเซลล์ — การเลือกในช่วงเริ่มต้นที่มีศักยภาพ

ภาพรวมตลาด

  • 7 วัน
  • 1 เดือน
  • 1 ปี
มูลค่าตลาดรวม
$3,103,631,851,738
-5.86
เหรียญยอดนิยม
Crypto News in numbers
editors
Authors List เพิ่มอีก 66+
2M+
มีผู้ใช้งานรายเดือนทั่วโลกมากกว่า
250+
มีบทความรีวิวและคู่มือมากกว่า
8 ปี
อยู่ในตลาดมาแล้ว
70 คน
มีทีมงานนักเขียนนานาชาติกว่า

เกี่ยวกับ Cryptonews

Cryptonews คือสื่อออนไลน์ระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2017 มุ่งเน้นการนำเสนอข่าวสาร บทวิเคราะห์ และคู่มือเชิงลึกในวงการคริปโตและบล็อกเชน ปัจจุบันมีผู้อ่านกว่า 2 ล้านคนต่อเดือน จากทั่วโลก และทีมผู้เขียนมากกว่า 70 คน ที่ครอบคลุมทุกมุมมอง ตั้งแต่ Bitcoin, Altcoin, DeFi, NFT ไปจนถึง Web3  ด้วยประสบการณ์กว่า 8 ปี  เรามุ่งมั่นที่จะเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เข้าใจง่าย และอัปเดตเร็ว