Bitcoin ปรับฐาน: Glassnode เผยสัญญาณ On-Chain ที่ต้องรู้
ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2025 ราคา Bitcoin (BTC) ปรับตัวลดลงเกือบ 5% ในช่วงที่ผ่านมา สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนจำนวนมาก แต่การปรับฐานครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจสำหรับผู้ที่ติดตามข้อมูลเชิงลึกจาก Glassnode บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล On-chain ชั้นนำ ที่ได้ออกมาเปิดเผยสัญญาณเตือนถึงความเสี่ยงในการเทขายทำกำไรครั้งใหญ่ โดยข้อมูลชี้ชัดว่ามีการเทขายทำกำไรจาก Bitcoin ไปแล้วกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคา Bitcoin ในรอบนี้

ข้อมูล On-chain ชี้ตลาด Bitcoin เข้าสู่ภาวะอิ่มตัว
ก่อนที่ราคา Bitcoin จะปรับตัวลง Glassnode ได้เปิดเผยข้อมูลผ่านรายงาน Market Pulse ซึ่งชี้ให้เห็นถึงสัญญาณความร้อนแรงที่อาจนำไปสู่แรงเทขาย โดยหนึ่งในตัวชี้วัดสำคัญคือ ‘Percent Supply in Profit’ หรือเปอร์เซ็นต์ของอุปทาน Bitcoin ทั้งหมดที่อยู่ในสถานะกำไร ซึ่งพุ่งสูงขึ้นไปอยู่เหนือแถบราคาสูงสุด (high band) อย่างมีนัยสำคัญ ตัวเลขที่สูงถึง 98.9% ของอุปทาน Bitcoin ทั้งหมดอยู่ในสถานะกำไร บ่งชี้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่มีกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Profit) จำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำคัญที่อาจกระตุ้นให้เกิดการเทขาย Bitcoin เพื่อทำกำไรในระยะสั้น

ที่มา: Glassnode
สภาวะกำไรที่สูงเช่นนี้เป็นผลโดยตรงจากการที่ราคา Bitcoin พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่นาน Bitcoin ได้ขึ้นแท่นเป็นสินทรัพย์อันดับ 5 ของโลก แซงหน้า Amazon ไปได้ชั่วขณะ สะท้อนให้เห็นถึงความร้อนแรงของตลาดในช่วงนั้น
นอกจากนี้ ตัวชี้วัด ‘Net Unrealized Profit to Loss Ratio’ (NUPL) ซึ่งใช้วัดระดับกำไรหรือขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงในตลาด Bitcoin ก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน การที่ NUPL เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญมักเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงสภาวะตลาดที่กำลังเข้าใกล้จุดอิ่มตัวหรือภาวะฟองสบู่ (Market Euphoria) ซึ่งหมายความว่านักลงทุนในตลาด Bitcoin มีกำไรในพอร์ตสูงมาก และเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการเทขายทำกำไร (Profit-Taking) ระลอกใหญ่ได้ทุกเมื่อ สัญญาณเหล่านี้เป็นเหมือนการเตือนล่วงหน้าว่าตลาด Bitcoin กำลังร้อนแรงเกินไปและอาจมีการปรับฐานในไม่ช้า

ที่มา: Glassnode
เจาะลึกการเทขาย Bitcoin: กำไรที่เกิดขึ้นจริง (Realized Profit) พุ่งสูง
ข้อมูลจาก Glassnode ไม่เพียงแต่เตือนถึงความเสี่ยง แต่ยังยืนยันว่าการเทขายทำกำไรได้เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ ผ่านตัวชี้วัด ‘Realized Profit to Loss Ratio’ ซึ่งวัดอัตราส่วนระหว่างกำไรและขาดทุนที่เกิดขึ้นจริงจากการทำธุรกรรม Bitcoin บนบล็อกเชน ตัวเลขนี้ได้ไต่ระดับจาก 3.0 ขึ้นไปถึง 3.6 ซึ่งหมายความว่ามูลค่าของกำไรที่นักลงทุนได้ทำการขาย Bitcoin ออกไปนั้นสูงกว่ามูลค่าของการขาดทุนถึง 3.6 เท่า ตัวเลขนี้เป็นการยืนยันว่าแรงเทขายที่เกิดขึ้นในตลาด Bitcoin นั้นมาจากการที่นักลงทุนเลือกที่จะ ‘Take Profit’ หรือขายเพื่อล็อคกำไรออกมาเป็นเงินจริง

ที่มา: Glassnode
นอกจากการเทขายทำกำไรในภาพรวมแล้ว ยังมีเหตุการณ์สำคัญที่น่าจับตามองคือ การเทขาย Bitcoin ครั้งใหญ่โดยวาฬยุค Satoshi ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่สร้างแรงกดดันต่อราคาอย่างมีนัยสำคัญ
การที่ Realized Profit พุ่งสูงขึ้นเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าตลาดกำลังเข้าสู่ช่วง ‘Cooling Off’ หรือช่วงพักฐาน หลังจากที่ราคา Bitcoin วิ่งขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง การเทขายทำกำไรมูลค่ามหาศาลกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์จึงเป็นบทสรุปของสัญญาณเตือนที่ข้อมูล On-chain ได้ส่งออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแม้ความเชื่อมั่นในตลาด Bitcoin จะยังคงแข็งแกร่ง แต่แรงกดดันจากการทำกำไรก็เป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin ในระยะสั้นได้อย่างรุนแรง
ทำไมข้อมูล On-chain จึงสำคัญต่อการวิเคราะห์ราคา Bitcoin ในปัจจุบัน?
เหตุการณ์ครั้งนี้ตอกย้ำความแตกต่างระหว่างข้อมูล On-chain และตัวชี้วัดแบบดั้งเดิม (Off-chain) ในขณะที่ข้อมูล Off-chain เช่น ปริมาณการซื้อขายในตลาด Futures หรือกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าสู่ Spot Bitcoin ETF อาจสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งของนักลงทุนสถาบัน แต่ข้อมูลเหล่านี้ไม่ได้เปิดเผยภาพรวมของ ‘ความรู้สึก’ หรือ ‘พฤติกรรม’ ของนักลงทุนรายย่อยและผู้ถือ Bitcoin โดยรวมทั้งหมด
Glassnode ชี้ว่ามีเพียงข้อมูล On-chain เท่านั้นที่สามารถเปิดเผยให้เห็นถึงระดับของกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง (Unrealized Gains) และสภาวะความรู้สึกของนักลงทุนในตลาด Bitcoin ได้อย่างลึกซึ้ง ปัจจัยเหล่านี้เป็นเหมือน ‘ภูเขาน้ำแข็งที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำ’ ซึ่งตัวชี้วัดแบบดั้งเดิมมองไม่เห็น การทำความเข้าใจข้อมูลเหล่านี้จึงเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ความเสี่ยงและมองเห็นภาพรวมของตลาด Bitcoin ได้อย่างครบถ้วนและแม่นยำยิ่งขึ้น เพื่อการตัดสินใจลงทุนใน Bitcoin ที่รอบคอบกว่าเดิม