Bitcoin เสี่ยงหลุด $50K หากไม่สามารถแก้เกมควอนตัมได้ภายใน 2028!

Charles Edwards ผู้ก่อตั้งกองทุนสินทรัพย์ดิจิทัล Capriole ออกมาส่งสัญญาณเตือนครั้งสำคัญว่า ราคา Bitcoin (BTC) อาจเผชิญกับความเสี่ยงที่จะร่วงลงต่ำกว่าระดับ $50,000 หากเครือข่ายไม่สามารถพัฒนาการป้องกันภัยคุกคามจากคอมพิวเตอร์ควอนตัม (Quantum Computing) ได้ทันท่วงที และคำเตือนนี้ได้จุดประกายการถกเถียงครั้งใหญ่เกี่ยวกับอนาคตความปลอดภัยของสกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่งของโลก

วิเคราะห์คำเตือน: ทำไม Bitcoin ต้องรับมือ Quantum ก่อนปี 2028?

Charles Edwards ได้คาดการณ์ผ่านโพสต์บน X (Twitter) ว่าเส้นตายสำหรับอุตสาหกรรมคริปโตในการรับมือกับภัยคุกคามควอนตัมอาจมาถึงเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ คือภายในปี 2028 เขาระบุว่าหากเครือข่าย BTC ไม่มีการอัปเกรดเพื่อป้องกัน (Quantum-resistant) ภายในเวลาดังกล่าว เขาคาดว่าราคา BTC จะดิ่งลงต่ำกว่า $50,000 และจะยังคงลดลงเรื่อยๆ จนกว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไข

Starting to think we will just need a huge bear market to wash out the idiots who think the Quantum threat to Bitcoin is a joke, and to incentive the maxis into taking action to upgrade the network. If We haven't deployed a fix by 2028, I expect Bitcoin will be sub $50K and…

— Charles Edwards (@caprioleio) December 17, 2025

Edwards ยังเสริมอีกว่า เขาเริ่มคิดว่าตลาดอาจต้องการ “ตลาดหมีครั้งใหญ่” เพื่อกำจัดคนที่ไม่เห็นความสำคัญของภัยคุกคามนี้ และเพื่อกระตุ้นให้กลุ่ม Bitcoin Maximalists (Maxis) เริ่มลงมืออัปเกรดเครือข่ายอย่างจริงจัง

เขากล่าวอย่างชัดเจนว่า “ถ้าเรายังไม่ติดตั้งตัวแก้ไขภายในปี 2028 ผมคาดว่า BTC จะมีราคาต่ำกว่า 5 หมื่นดอลลาร์ และจะตกลงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแก้ไขได้” ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลอย่างยิ่งต่อความเฉื่อยชาในการพัฒนาระบบความปลอดภัยของ BTC

เส้นตายปี 2026 และมุมมองที่แตกต่างต่อภัยคุกคาม Bitcoin

ความเร่งด่วนของปัญหานี้ยิ่งถูกตอกย้ำเมื่อ Edwards กล่าวว่า “เราต้องแก้ไขเรื่องนี้ในปีหน้า (2026) ไม่อย่างนั้นก็เตรียมบอกลาและเพลิดเพลินไปกับตลาดหมี BTC ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ได้เลย วิกฤต FTX อาจจะดูเหมือนเรื่องเล็กน้อยไปเลย”

เขามองว่า BTC จะเป็นเป้าหมายแรกที่ถูกโจมตีด้วยควอนตัม เพราะสถาบันการเงินส่วนใหญ่เริ่มย้ายไปใช้ระบบเข้ารหัสแบบ Post-quantum แล้ว และธุรกรรมทางการเงินแบบดั้งเดิมยังสามารถ “ย้อนกลับ” หรือ “ระงับ” ได้ ซึ่งต่างจาก BTC

I presented this 4 days before the market top $123K. At the time it was very controversial. Now that we are down -30% you are hearing Ray Dalio and Vitalik Buterin talk about the impending Quantum threat and we have now seen multiple Treasury Companies start to nuke their…

— Charles Edwards (@caprioleio) November 20, 2025

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วยกับคำเตือนนี้ นักวิจารณ์บางกลุ่มมองว่าภัยคุกคามจากควอนตัมยังเป็นเรื่องที่ห่างไกลอีกหลายทศวรรษ ขณะที่ Michael Saylor ผู้สนับสนุน BTC ตัวยง เคยกล่าวว่าความกังวลเรื่องนี้เป็นเพียง “กลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อปั่นราคาโทเค็นที่เกี่ยวข้องกับควอนตัม”

For anyone concerned about quantum computing hacking Bitcoin, please listen to @saylor calmly and rationally explain why you should sleep soundly at night. pic.twitter.com/X0XzZZl0Cd

— Natalie Brunell ⚡️ (@natbrunell) June 6, 2025

ในขณะเดียวกัน Willy Woo หนึ่งในนักวิเคราะห์ชื่อดัง ก็ได้แนะนำวิธีป้องกันเบื้องต้นว่าการเก็บ BTC ไว้ใน SegWit wallet เป็นเวลาประมาณ 7 ปี อาจเป็นทางออกชั่วคราวจนกว่าจะมีวิธีแก้ปัญหาที่ถาวร

DUMMIES GUIDE TO BEING QUANTUM SAFE.

In the past it was about protecting your PRIVATE KEY (your seed phrase). In the age of big scary quantum computers (BSQC) that are coming, you need to protect your PUBLIC KEY also.

Basically a BSQC can figure out your private key from a…

— Willy Woo (@woonomic) November 11, 2025

หมายเหตุ: SegWit wallet คือกระเป๋า Bitcoin ที่รองรับเทคโนโลยี Segregated Witness ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยของธุรกรรมโดยป้องกันการดัดแปลงรหัสธุรกรรม (transaction malleability) ทำให้การโอนมีความเสถียร และรองรับโซลูชันเสริมอย่าง Lightning Network ได้อย่างปลอดภัย

Quantum Computing คืออะไร และมันคุกคาม BTC อย่างไร?

ภัยคุกคามจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมต่อ BTC นั้นมีอยู่จริงและเป็นเรื่องทางเทคนิคที่ซับซ้อน โดยหัวใจของมันคือความสามารถในการคำนวณที่เหนือกว่าคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันอย่างมหาศาล ซึ่งอาจทำให้ระบบการเข้ารหัสที่ใช้ปกป้องเครือข่าย Bitcoin ถูกถอดรหัสได้ในที่สุด

ความเสี่ยงที่ร้ายแรงที่สุดคือการที่คอมพิวเตอร์ควอนตัมอาจ “เปิดเผย Private Key” ของผู้ใช้งาน ซึ่งเปรียบเสมือนรหัสผ่านเข้าถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล หาก Private Key ถูกเปิดเผย สินทรัพย์ทั้งหมดในกระเป๋านั้นจะตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะถูกขโมยได้ทันที และเนื่องจากธุรกรรมบนบล็อกเชนของ BTC ไม่สามารถย้อนกลับได้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นจึงถือเป็นความเสียหายถาวร

จับตา Maxi Doge ($MAXI) เหรียญมีมที่ลอยตัวเหนือทุกปัญหา

แม้ตลาดคริปโตโดยรวมจะยังผันผวน แต่โปรเจกต์เหรียญใหม่บางตัวยังคงสามารถเรียกความสนใจจากนักลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง หนึ่งในนั้นคือ Maxi Doge ($MAXI) เหรียญมีมหมานักกล้ามที่กำลังถูกพูดถึงมากขึ้น หลังสามารถระดมทุนในรอบ Presale ไปแล้วกว่า $4 ล้านอย่างรวดเร็ว สะท้อนกระแสตอบรับจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและกลุ่มทุนที่มองหาโอกาสจากเหรียญหน้าใหม่

โครงสร้าง Presale ของ Maxi Doge ตั้งราคาเริ่มต้นไว้ที่ $0.00025 ต่อโทเค็น พร้อมกลไกปรับราคาขึ้นทุก ๆ 5 วัน ซึ่งช่วยสร้างแรงจูงใจให้ผู้ที่เข้าร่วมตั้งแต่ช่วงต้น ขณะเดียวกัน ระบบ Staking ก็เป็นอีกจุดที่หลายคนให้ความสนใจ ด้วยผลตอบแทนในช่วงแรกที่อยู่ราว 70% APY ช่วยดึงดูดนักลงทุนที่ต้องการถือเหรียญมากกว่าการซื้อขายระยะสั้น

โดยภาพรวม $MAXI ยังจัดอยู่ในกลุ่มเหรียญ Meme coin ที่ขับเคลื่อนด้วย “พลังของชุมชน” เป็นหลัก และนำเสนอเลเวอเรจสูงสุดถึงหลัก x1,000 จึงเหมาะกับผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูง และต้องการมองหาโอกาสจากโปรเจกต์ใหม่ ๆ

ก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ที่สนใจสามารถอ่านบทวิเคราะห์ Maxi Doge หรือศึกษาวิธีซื้อ MAXI ด้วยขั้นตอนง่ายๆ และติดตามข้อมูลเพิ่มเติมผ่านช่องทาง X และ Telegram เพื่อดูทิศทางและพัฒนาการของโครงการอย่างใกล้ชิด

ยอดระดมทุนล่าสุด

ราคาจะถูกปรับขึ้นอีกครั้งภายใน:

เว็บไซต์ทางการ Maxi Doge