วิเคราะห์ราคา Bitcoin: Michael Saylor ชี้ Quantum Computing ไม่ใช่ภัย แต่จะทำให้เครือข่ายแข็งแกร่งขึ้นในปี 2026

Michael Saylor มหาเศรษฐี Bitcoin และผู้บริหารระดับสูงของ MicroStrategy ออกมาแสดงมุมมองที่สวนทางกับความกังวลของตลาด โดยเขาเชื่อว่าเทคโนโลยี Quantum Computing จะไม่ใช่ภัยคุกคามที่ทำลาย Bitcoin อย่างที่หลายคนหวาดกลัว แต่จะกลับกลายเป็นแรงผลักดันที่ทำให้เครือข่ายแข็งแกร่งและปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม
มุมมองดังกล่าวช่วยเสริมความเชื่อมั่นต่อทิศทางระยะยาวของ Bitcoin และถูกมองว่าเป็นปัจจัยบวกสำคัญต่อการประเมิน ราคา Bitcoin ในช่วงมุ่งหน้าสู่ปี 2026 หลังจากก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อยเริ่มตั้งคำถามว่าความก้าวหน้าของ Quantum Computing อาจทำให้รอบตลาดกระทิงครั้งถัดไปสะดุดลงหรือไม่ โดยเฉพาะในบริบทที่ตลาดยังเผชิญความผันผวนสูงและมีบทวิเคราะห์เชิงลบออกมาอย่างต่อเนื่อง เช่น ประเด็น Bitcoin ดิ่งแรงใน 3 เดือน (แต่ยังเหนือกว่าเซคเตอร์อื่นๆ) ซึ่งสะท้อนแรงกดดันระยะสั้นแต่ยังไม่เปลี่ยนโครงสร้างภาพใหญ่ของตลาด
Saylor มองการอัปเกรดเครือข่ายจะยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งให้ Bitcoin
ในโพสต์บน X เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม Saylor อธิบาย ว่าหากโลกเข้าสู่จุดเปลี่ยนสำคัญของ Quantum Computing เครือข่าย Bitcoin จะมีการอัปเกรดเชิงเทคนิคเพื่อรองรับสถานการณ์ดังกล่าว โดยเหรียญที่ยังมีการเคลื่อนไหวจะถูกย้ายไปสู่มาตรฐานความปลอดภัยใหม่ ขณะที่เหรียญที่สูญหายหรือไม่เคยถูกใช้งานจะยังคงถูกล็อกไว้ตามเดิม
เขาสรุปแนวคิดนี้อย่างชัดเจนว่า “ความปลอดภัยเพิ่มขึ้น อุปทานลดลง และ Bitcoin จะแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม” ซึ่งมุมมองนี้ถือเป็นการตอบโต้กระแสความกลัวจากบทวิเคราะห์จำนวนมากที่เคยเตือนว่า Quantum Computing อาจถอดรหัสระบบเข้ารหัสของ Bitcoin และนำไปสู่การล่มสลายของเครือข่าย ดังที่เคยมีบทความจำนวนมากนำเสนอการคาดการณ์เชิงปลุกกระแสความกังวลเกี่ยวกับ Bitcoin ในช่วงก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม เมื่อ Cryptonews ได้สัมภาษณ์ David Carvalho ซีอีโอและหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของ Naoris ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโปรโตคอล post-quantum เขามองว่าหากถึงวันที่เรียกว่า “Q-Day” จริง อาจมี Bitcoin ในระบบหมุนเวียนราว 30% ที่เผชิญความเสี่ยงด้านความปลอดภัย
ถึงกระนั้น Carvalho ก็ย้ำว่ากรอบเวลาของความก้าวหน้าดังกล่าวยังไม่แน่นอน และแพลตฟอร์มซื้อขายขนาดใหญ่แทบไม่มีทางปล่อยให้เหรียญที่ถูกเจาะระบบไหลเวียนในตลาดได้อย่างเสรี ซึ่งสะท้อนว่า ความเสี่ยงเชิงทฤษฎีอาจยังไม่ใช่ภัยเร่งด่วนในทางปฏิบัติ
วิเคราะห์ราคา Bitcoin: กราฟรายเดือนสะท้อนโครงสร้างเดียวกับจุดต่ำสุดปี 2022
เมื่อพิจารณากราฟรายเดือนของ Bitcoin จะเห็นว่าราคายังคงเคลื่อนไหวสะสมพลังใต้แนวต้านสำคัญบริเวณ $108,000–$110,000 ซึ่งเป็นโซนที่ทำหน้าที่กดดันราคามาอย่างต่อเนื่อง หากยังไม่สามารถทะลุผ่านไปได้ ก็จะยังไม่ยืนยันการเข้าสู่ขาขึ้นระลอกถัดไปอย่างเต็มรูปแบบ
ระดับราคาดังกล่าวอยู่เหนือจุดสูงสุดของวัฏจักรก่อนหน้า และสอดคล้องกับโซนทางประวัติศาสตร์ที่ตลาดกระทิงในอดีตมักหยุดพักก่อนจะเร่งตัวขึ้นอีกครั้ง ในเชิงโครงสร้าง กราฟปัจจุบันมีความคล้ายคลึงอย่างมากกับช่วงสร้างฐานในปี 2022 ซึ่ง Bitcoin เผชิญการปรับฐานรุนแรง มีแท่งเทียนรายเดือนสีแดงต่อเนื่อง ก่อนจะค่อยๆ ฟื้นตัวและพุ่งขึ้นเกือบ 2 เท่าจากจุดต่ำสุด จากนั้นจึงเข้าสู่ช่วงพักฐานก่อนการขยายตัวรอบใหม่

ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตลาดเริ่มแสดงรูปแบบเดียวกันอีกครั้ง โดยราคายังคงยืนเหนือแนวรับระยะยาว และสามารถปิดแท่งเทียนรายเดือนในระดับที่สูงขึ้น แม้จะมีความผันผวนในระยะสั้นก็ตาม ดัชนี RSI ยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่าแนวโน้มหลักยังคงเป็นขาขึ้น
หาก Bitcoin ยังสามารถรักษาระดับเหนือโซน กลาง $80,000 ได้ โอกาสที่การสะสมพลังครั้งนี้จะจบลงด้วยการเบรกขึ้นยังคงมีน้ำหนักมาก และหากมีการปิดแท่งเทียนรายเดือนเหนือ $108,000 อย่างชัดเจน ก็อาจเปิดทางสู่การพุ่งขึ้นรอบใหม่ในปี 2026 โดยมีเป้าหมายถัดไปบริเวณ $140,000–$150,000 แม้ในระยะสั้น ตลาดยังต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงมหภาค เช่น การที่ Bitcoin เสี่ยงดิ่งแรงถึง $70k หลัง BOJ จ่อขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งอาจสร้างแรงสั่นสะเทือนต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก
Pepenode ระดมทุน $2.3 ล้าน เตรียมรับฤดูกาล Meme Coin ปี 2026
หาก Bitcoin สามารถทะลุแนวต้าน $108,000 และเริ่มต้นรอบตลาดกระทิงในปี 2026 ได้จริง กระแสเงินทุนมักจะไหลต่อไปยังเหรียญทางเลือก โดยเฉพาะกลุ่ม Meme Coin ซึ่งมีประวัติสร้างผลตอบแทนสูงในช่วงตลาดคึกคัก และมักถูกจัดอยู่ในลิสต์ เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2025 ของนักเก็งกำไรหลายราย
หนึ่งในโปรเจกต์ที่กำลังได้รับความสนใจคือ Pepenode (PEPENODE) ซึ่งสามารถระดมทุนไปแล้วกว่า 2.3 ล้านดอลลาร์ แม้ภาพรวมตลาดคริปโตในไตรมาส 4 จะสูญเสียมูลค่ารวมกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ก็ตาม

Pepenode เป็นเกมแนว mine-to-earn ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นขุดเหรียญผ่านเว็บเบราว์เซอร์ โดยไม่ต้องลงทุนในฮาร์ดแวร์ราคาแพง ผู้เล่นสามารถตั้งค่าแท่นขุดเสมือน อัปเกรดสิ่งปลูกสร้าง และรับผลตอบแทนเป็นโทเค็น PEPENODE ผ่านระบบในเกม
แนวคิดของโปรเจกต์ได้รับแรงบันดาลใจจากกลยุทธ์ความสำเร็จของ PEPE ซึ่งเคยสร้างผลตอบแทนระดับ 1,000 เท่าในช่วงปี 2023–2024 หลังจาก Bitcoin หลุดพ้นจากตลาดหมี และในปัจจุบัน เมื่อมีผู้เข้าร่วมซื้อแท่นขุดของ Pepenode เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ราคาพรีเซลของโทเค็นก็ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วตามความต้องการของตลาด
หากคุณสนใจ Pepenode เราขอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลเชิงลึกได้จาก บทวิเคราะห์ราคา Pepenode หรือดูคู่มือวิธีซื้อ Pepenode แบบละเอียด เพื่อประกอบการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล
อย่าลืมติดตาม เว็บไซต์ทางการของ Pepenode รวมถึง X และ ช่อง Telegram เพื่อไม่พลาดทุกอัปเดต
ยอดระดมทุนล่าสุด
ราคาจะถูกปรับขึ้นอีกครั้งภายใน: