Buy the Dip! BitMine ช้อน Ethereum สวนตลาดกว่า $140 ล้าน!
ท่ามกลางความผันผวนของตลาดคริปโต และแรงขายที่กดดันให้ราคา Ethereum หลุดระดับ $3,000 ล่าสุดข้อมูล on-chain ได้เผยสัญญาณที่ทำให้ตลาดต้องหันมาจับตาอีกครั้ง เมื่อ นักลงทุนสถาบันรายใหญ่เริ่ม “ช้อนซื้อ” อย่างจริงจัง
ข้อมูลจาก Lookonchain ระบุว่า BitMine บริษัทที่วาง Ethereum เป็นสินทรัพย์หลัก ได้เข้าซื้อ ETH เพิ่มมูลค่ามหาศาลกว่า 140.58 ล้านดอลลาร์ ผ่านแพลตฟอร์ม FalconX ซึ่งสะท้อนกลยุทธ์ “Buy the Dip” อย่างชัดเจน ท่ามกลางบรรยากาศที่นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากยังคงระมัดระวัง
เปิดข้อมูล On-Chain: BitMine กวาด Ethereum กว่า 48,000 ETH ในคราวเดียว
Lookonchain แพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน เปิดเผยผ่าน X (Twitter) ว่ามีการโอน Ethereum ขนาดใหญ่ถึง 2 ธุรกรรม ออกจาก Hot Wallet ของ FalconX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเทรดคริปโตสำหรับสถาบันโดยเฉพาะ
ธุรกรรมแรกมีจำนวน 31,867 ETH และธุรกรรมที่สองอีก 16,182 ETH รวมทั้งสิ้น 48,049 ETH คิดเป็นมูลค่าประมาณ 140.58 ล้านดอลลาร์ ณ เวลาที่ทำรายการ โดยปลายทางของธุรกรรมทั้งหมดถูกเชื่อมโยงไปยัง BitMine อย่างชัดเจน
ขณะเดียวกัน X ก็ยังคงเป็นเวทีหลักของการสื่อสารในโลกคริปโต โดยก่อนหน้านี้ Vitalik Buterin ก็ได้ออกมาเรียกร้องให้ X เปิดเผยอัลกอริทึม เพื่อยกระดับความโปร่งใส และผลักดันวิสัยทัศน์ของ Web3 ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
จากเหมือง Bitcoin สู่ “MicroStrategy แห่ง Ethereum”
การเข้าซื้อครั้งใหญ่นี้เกิดขึ้นในช่วงที่ราคา ETH ปรับฐานลงอย่างหนัก ยิ่งตอกย้ำกลยุทธ์การลงทุนสวนกระแสของ BitMine ซึ่งเดิมทีเป็นบริษัทเหมือง Bitcoin ก่อนจะปรับทิศทางครั้งสำคัญในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ภายใต้การนำของ Tom Lee ประธานบริษัท BitMine ได้เปลี่ยนบทบาทสู่การเป็น Ethereum treasury vehicle อย่างเต็มตัว และถูกขนานนามว่าเป็น “MicroStrategy แห่งวงการ ETH” โดยการซื้อรอบล่าสุดอาจทำให้ยอดถือครอง Ethereum ของบริษัท เข้าใกล้ระดับ 4 ล้าน ETH เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
เป้าหมาย 5% ของอุปทาน ETH และความเชื่อมั่นระยะยาว
BitMine ตั้งเป้าหมายระยะยาวไว้อย่างชัดเจน คือการถือครอง Ethereum ให้ได้ถึง 5% ของอุปทานหมุนเวียนทั้งหมด ซึ่งการเข้าซื้อรอบนี้ทำให้บริษัทขยับเข้าใกล้เป้าหมายมากขึ้น โดยปัจจุบันคาดว่าถือครองอยู่แล้วราว 3.3% ของอุปทานทั้งหมด
ด้วยมูลค่าสินทรัพย์คริปโตรวมกว่า 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ทำให้ BitMine กลายเป็นบริษัทที่ถือครองคริปโตมากเป็นอันดับสองของโลก รองจาก MicroStrategy แม้พอร์ต ETH จะยังติดลบในเชิงบัญชี แต่การเดินหน้าซื้ออย่างต่อเนื่องสะท้อนความเชื่อมั่นระยะยาวต่อ Ethereum อย่างไม่สั่นคลอน
ความเชื่อมั่นนี้ยังสอดคล้องกับพัฒนาการในระบบนิเวศ โดยล่าสุดมีรายงานว่า Ripple เตรียมขยาย Stablecoin ของตนสู่ Ethereum L2 ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่ตอกย้ำบทบาทสำคัญของ Ethereum ในอนาคต
ซื้อหนัก แต่ราคาจะไปต่อจริงหรือ?
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จาก CryptoQuant อย่าง Maartunn ได้ตั้งข้อสังเกตที่น่าคิดว่า แม้การเข้าซื้อของ BitMine จะมีขนาดใหญ่มาก แต่กลับไม่สามารถสร้างโมเมนตัมระยะยาวให้กับราคาได้
เขาชี้ว่า หลังจากแรงซื้อช่วงแรก ราคามักรีบาวด์เพียงชั่วคราว ก่อนจะนิ่งและปรับตัวลงในเวลาต่อมา พร้อมสรุปสั้น ๆ ว่า “Big buys ≠ sustained momentum” หรือ การซื้อครั้งใหญ่ ไม่ได้แปลว่าจะเกิดโมเมนตัมที่ยั่งยืนเสมอไป
ภาพนี้สะท้อนสถานการณ์ปัจจุบันได้เป็นอย่างดี หลังราคา Ethereum ร่วงกลับมาอยู่แถว $2,930 จากจุดฟื้นตัวเหนือ $3,400 เมื่อสัปดาห์ก่อน ซึ่งทำให้นักลงทุนจำนวนมากเริ่มหันมาโฟกัสที่ การวิเคราะห์แนวโน้มราคา Ethereum ระยะยาว มากขึ้น เพื่อประเมินว่าการ “ช้อนซื้อ” ของสถาบันในรอบนี้ อาจเป็นจุดเริ่มต้นของรอบใหญ่ถัดไปหรือไม่
ข่าวเด่นห้ามพลาด
in numbers
