Bitcoin ดิ่งแรงใน 3 เดือน แต่ยังชนะทุกเซกเตอร์! Altcoin กลุ่มไหนก็ไม่สู้?

Bitcoin (BTC) ปรับตัวลดลงอย่างหนักในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา แต่ข้อมูลล่าสุดกลับชี้ให้เห็นว่า BTC ยังคงมีประสิทธิภาพเหนือกว่าสินทรัพย์ดิจิทัลกลุ่มอื่น ๆ ในตลาดแทบทุกประเภท สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของนักลงทุนที่หันมามอง BTC เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ท่ามกลางสภาวะตลาดที่ไม่แน่นอน
วิเคราะห์ภาพรวมตลาด: ทำไม Altcoin ดิ่งหนักกว่า Bitcoin?
ข้อมูลจาก Glassnode บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล on-chain เปิดเผยว่า ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ราคา BTC ได้ปรับตัวลดลงประมาณ 26% และลดลงราว 30% จากจุดสูงสุดตลอดกาล (ATH) ที่เคยทำไว้ใกล้ 126,200 ดอลลาร์ โดยปัจจุบันซื้อขายอยู่เหนือระดับ 85,000 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม แม้จะร่วงลง แต่ BTC กลับทำผลงานได้ดีกว่าตลาดในภาพรวมอย่างเห็นได้ชัด
เมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมที่ลดลงประมาณ 27.5% จะเห็นว่า Bitcoin มีการปรับตัวลงน้อยกว่าเล็กน้อย ขณะที่เหรียญอื่น ๆ กลับเผชิญกับการเทขายที่รุนแรงกว่ามาก
Ethereum (ETH) ร่วงลงถึง 36% ตั้งแต่กลางเดือนกันยายน ส่วนกลุ่มเหรียญตามกระแส (Narrative-driven) ยิ่งหนักกว่า ไม่ว่าจะเป็นเหรียญกลุ่ม AI ที่ร่วง 48%, กลุ่ม Meme coin ที่มูลค่าตลาดหายไป 56% และกลุ่ม Real-World Asset (RWA) ที่ลดลง 46% ส่วนกลุ่ม DeFi ก็ลดลงไปเกือบ 38% เช่นกัน

เจาะลึกข้อมูล Glassnode: BTC ยืนหนึ่งในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ข้อมูลเชิงลึกจาก Glassnode แสดงให้เห็นว่าการเทขายครั้งใหญ่เริ่มขึ้นในช่วงต้นเดือนตุลาคม ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนของตลาดคริปโต
กลุ่มสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง (High-beta) เช่น Layer 1, Layer 2, AI, Gaming, NFTs และ Meme coin ต่างเผชิญกับการปรับตัวลงที่ลึกกว่า ในขณะที่ BTC ลดลงในอัตราที่น้อยกว่า จึงทำหน้าที่เป็น “ที่หลบภัย” ให้นักลงทุน

แม้จะมีความพยายามฟื้นตัวในช่วงกลางเดือนตุลาคม แต่ก็ไม่สามารถกลับไปสู่ระดับเดิมได้ ข้อมูลชี้ชัดว่าเงินทุนกำลังไหลออกจากตลาดแทนที่จะหมุนเวียนไปยังสินทรัพย์อื่น ๆ (Capital Withdrawal) พอถึงช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน หลายกลุ่มสินทรัพย์ก็ได้เข้าสู่ภาวะยอมจำนน (Capitulation) แต่ BTC ก็ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ขาดทุนน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น ๆ
จับตาพฤติกรรมนักลงทุน: “ฉลาม” แห่ช้อนซื้อ Bitcoin สวนทาง “วาฬ”
สถานการณ์ยิ่งน่าสนใจขึ้นเมื่อดูข้อมูล on-chain เกี่ยวกับพฤติกรรมของนักลงทุน Glassnode พบว่านักลงทุนกลุ่ม “ฉลาม” (Sharks) ซึ่งถือครอง BTC ระหว่าง 100 – 1,000 BTC ได้เข้าสะสมเหรียญเพิ่มถึง 54,000 BTC ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ยอดถือครองรวมของกลุ่มนี้อยู่ที่ประมาณ 3.575 ล้าน BTC ซึ่งเป็นการสะสมในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2012 สะท้อนถึงการช้อนซื้ออย่างหนักแน่นจากนักลงทุนรายใหญ่และสถาบัน
ในทางกลับกัน แรงเทขายกลับมาจากกลุ่มผู้ถือครองระยะยาวและกลุ่ม “วาฬดั้งเดิม” (OG Whales) ที่มี BTC ในครอบครองมากกว่า 10,000 BTC และการกระจายเหรียญออกจากผู้ถือครองเก่าแก่เหล่านี้ได้หักล้างกับแรงซื้อจากสถาบัน ทำให้ราคา BTC ยังไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้อย่างเต็มที่และยังคงมีความเสี่ยงด้านขาลงอยู่

วิเคราะห์อนาคต Bitcoin Dominance และทิศทางตลาดคริปโต
ความแข็งแกร่งของ BTC สะท้อนผ่านดัชนี BTC Dominance (สัดส่วนมูลค่าตลาดของ BTC เทียบกับตลาดรวม) ซึ่งเคยพุ่งขึ้นไปแตะ 65% ในช่วงต้นปี แต่หลังจากนั้นก็เริ่มลดลงในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมเมื่อเงินทุนหมุนไปยังกลุ่ม Altcoin
อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์ล้างพอร์ตครั้งใหญ่ในเดือนตุลาคม (October Deleveraging Event) เงินทุนก็ไหลกลับเข้าสู่ BTC อีกครั้ง

ปัจจุบัน BTC Dominance เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ระหว่าง 59% – 61% ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดยังขาดทิศทางที่ชัดเจน แต่การที่ BTC ยังคงทำผลงานได้ดีกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ ก็เป็นการตอกย้ำสถานะของมันในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง ซึ่งสามารถรักษามูลค่าได้ดีกว่า Altcoin ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง