Bitcoin เสี่ยงเจอ Long Squeeze ก่อนประชุม Fed! ตลาดปั่นป่วน?

Bitcoin (BTC) กำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิดท่ามกลางความผันผวนรุนแรงของตลาดคริปโต ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของสหรัฐ (FOMC) โดยมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการล้างพอร์ตสถานะ Long (Long Liquidations) ขณะที่ราคาทองคำพุ่งแรง สะท้อนความกังวลของนักลงทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง ก่อนการตัดสินใจสำคัญจาก Fed
จับตาการประชุม Fed! ปัจจัยสำคัญชี้ชะตาตลาด BTC
การประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ถือเป็นอีเวนต์ใหญ่ที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญ เนื่องจากผลการประชุม โดยเฉพาะการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อตลาดการเงินทั้งหมด รวมถึงตลาดคริปโตเคอร์เรนซีด้วย
โดยทั่วไปแล้ว หาก Fed ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงหรือส่งสัญญาณที่จะดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อไป อาจสร้างแรงกดดันให้กับสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง BTC เนื่องจากทำให้นักลงทุนรู้สึกว่าการถือครองสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทนในรูปแบบของดอกเบี้ยอย่าง BTC มีความน่าสนใจน้อยลง และหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่า นี่จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ตลาดเกิดความกังวลและชะลอการลงทุนก่อนจะมีความชัดเจนจาก Fed
วิเคราะห์สถานการณ์ Bitcoin เสี่ยง Long Liquidations แค่ไหน?
สถานการณ์ของ BTC ในปัจจุบันมีความเปราะบางสูง โดยข้อมูลจากตลาดฟิวเจอร์สชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิด ‘Long Liquidations’ หรือการบังคับปิดสถานะซื้อ (Long Position) จำนวนมาก หากราคา BTC ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากนี้
ภาวะดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อนักเทรดจำนวนมากเปิดสถานะ Long โดยคาดการณ์ว่าราคา BTC จะปรับตัวสูงขึ้น แต่เมื่อมีข่าวร้ายหรือปัจจัยลบเข้ามากระทบ เช่น การประกาศนโยบายที่เข้มงวดของ Fed จนทำให้ราคาดิ่งลงอย่างฉับพลัน ระบบจะบังคับขายสถานะเหล่านั้นเพื่อตัดการขาดทุน ก่อให้เกิดแรงเทขายมหาศาลและฉุดให้ราคา BTC ร่วงลงไปอีกเป็นทอดๆ หรือที่เรียกว่า ‘Long Squeeze’ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนกำลังหวาดหวั่นก่อนการประชุมครั้งนี้
ทองคำพุ่งแรงสวนทาง BTC สะท้อนความกังวลของนักลงทุน
ในขณะที่ Bitcoin กำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนัก มีรายงานว่าราคาทองคำกลับพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรม ‘Flight to Safety’ ของนักลงทุนอย่างชัดเจน โดยนักลงทุนเลือกที่จะย้ายเงินทุนออกจากสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงอย่าง BTC ไปยังสินทรัพย์ที่ถูกมองว่าเป็น ‘หลุมหลบภัย’ (Safe Haven) ที่มั่นคงกว่าอย่าง “ทองคำ”

ในขณะที่ BTC ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางที่ไม่แน่นอน ทองคำกลับพุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ $3,703 ก่อนจะปรับฐานลงเล็กน้อย
“ทองคำเป็นผู้นำ ส่วน BTC ตามหลัง” Jelle นักเทรดชื่อดังกล่าวไว้ พร้อมชี้ให้เห็นรูปแบบที่เกิดซ้ำของ BTC ที่มักจะล้าหลังการเคลื่อนไหวของทองคำอยู่หลายเดือน
ในปี 2025 นี้ ทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 40% ตั้งแต่ต้นปี ซึ่งแซงหน้า BTC ที่มีการเติบโตอยู่ที่ 23% นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าทั้งสองสินทรัพย์นี้กำลังสะท้อนถึง “ภาวะการเงินที่ผ่อนคลาย” หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เริ่มต้นรอบการลดดอกเบี้ยครั้งใหม่
ปรากฏการณ์นี้ตอกย้ำว่า ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาคที่เกิดจากนโยบายของ Fed นักลงทุนสถาบันและรายย่อยจำนวนมากยังคงให้ความเชื่อมั่นในทองคำมากกว่า BTC ในฐานะสินทรัพย์รักษามูลค่า การเคลื่อนไหวของราคาทองคำจึงเป็นอีกหนึ่งดัชนีที่ช่วยบ่งชี้ระดับความกังวลในตลาดก่อนการประชุม FOMC ได้เป็นอย่างดี
Bitcoin Hyper: Layer-2 ที่จะทำให้ BTC เป็นมากกว่าแค่สินทรัพย์เก็บมูลค่า/เก็งกำไร
แม้ BTC จะมีความผันผวนที่ขึ้นกับการตัดสินใจของ Fed แต่หลายคนก็เชื่อมั่นในราชาคริปโตตัวนี้ในระยะยาว และคงจะดีไม่น้อยถ้า BTC สามารถกลายเป็นมากกว่าแค่สินทรัพย์ดิจิทัลสำหรับการถือครองไว้เฉยๆ หรือการเก็งกำไร ซึ่งนี่คือสิ่งที่โปรเจกต์ใหม่อย่าง Bitcoin Hyper (HYPER) เล็งเห็น
HYPER พัฒนา “canonical bridge” เชื่อม BTC เข้าสู่ Layer-2 โดยตรง ทำให้ BTC มีฟังก์ชันการเขียนโปรแกรมเต็มรูปแบบ แตกต่างจากโปรเจกต์เก่าเพราะใช้ zero-knowledge proofs เพื่อยืนยันธุรกรรมบน BTC และรองรับความเร็วผ่าน Solana Virtual Machine (SVM)
โทเค็นหลักอย่าง $HYPER จะมีบทบาท 3 อย่างหลักๆ คือ เป็น Gas Token, Staking และ Governance Token โดยผู้เชี่ยวชาญรวมถึง 99Bitcoins มองว่ามีโอกาสเติบโตสูงถึง 100x เนื่องจากทุกแอปฯ บน Layer-2 นี้ต้องใช้ HYPER ขับเคลื่อน
ตอนนี้ HYPER ยังอยู่ในช่วง Presale ซึ่งรองรับการซื้อด้วย SOL, ETH, USDT, USDC, BNB และบัตรเครดิต ทั้งนี้ โครงการแนะนำให้ใช้ Best Wallet ในการจัดเก็บและติดตามโครงการผ่านฟีเจอร์ Upcoming Tokens ขณะเดียวกัน คุณยังสามารถติดตามข่าวสารอัปเดตได้บน Telegram และ X (Twitter)