Trump พลิกเกม! ดัน GENIUS Act ผ่านสภาคองเกรสสำเร็จ!

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการลงมติผ่านร่างกฎหมายสำคัญ 3 ฉบับ รวมถึงกฎหมาย Stablecoin ที่หลายคนจับตาอย่าง GENIUS Act ด้วยคะแนนเสียง 215 ต่อ 211
ชัยชนะครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างน่าทึ่งหลังจากการแทรกแซงโดยตรงจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งช่วยพลิกสถานการณ์จากที่เคยพ่ายแพ้ไปก่อนหน้าเพียง 24 ชั่วโมง
การผ่านร่างกฎหมาย GENIUS Act ในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัลในสหรัฐอเมริกา และเป็นสัญญาณบวกที่นักลงทุนทั่วโลกต่างจับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความชัดเจนที่กฎหมาย GENIUS Act จะนำมาสู่อุตสาหกรรม
วิเคราะห์เบื้องหลัง: Trump พลิกสถานการณ์ให้ GENIUS Act
ชัยชนะในการโหวตครั้งนี้ไม่ได้ได้มาโดยง่าย เพราะก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งวัน ร่างกฎหมายคริปโตชุดนี้ รวมถึง GENIUS Act ได้พ่ายแพ้ในการโหวตเบื้องต้นด้วยคะแนน 196 ต่อ 223 ซึ่งสร้างความผิดหวังและสั่นคลอนวาระด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐบาลอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์กลับพลิกผันอย่างรวดเร็วหลังประธานาธิบดีทรัมป์ได้จัดการประชุมด่วนในช่วงค่ำกับสมาชิกพรรครีพับลิกัน 11 คนที่ไม่เห็นด้วย ปรากฏว่าการเจรจาโดยตรงของทรัมป์สามารถเปลี่ยนใจผู้ที่ไม่เห็นด้วยให้กลับมาสนับสนุนร่างกฎหมาย GENIUS Act และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องได้สำเร็จ
การแทรกแซงของทรัมป์ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลในการผลักดันกฎหมายคริปโต โดยเฉพาะกฎหมาย GENIUS Act ที่ผ่านวุฒิสภามาแล้วด้วยการสนับสนุนจากทั้งสองพรรค
การที่ไม่มีสมาชิกพรรคเดโมแครตแม้แต่คนเดียวสนับสนุนญัตติในครั้งนี้ ยิ่งตอกย้ำว่าความเป็นเอกภาพของพรรครีพับลิกันที่เกิดจากการนำของทรัมป์คือปัจจัยตัดสินชัยชนะ การผ่านร่างกฎหมาย GENIUS Act จึงเป็นผลลัพธ์โดยตรงจากการทูตส่วนตัวของประธานาธิบดี
เจาะลึกสาระสำคัญของกฎหมาย GENIUS Act และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
หัวใจหลักของกฎหมาย GENIUS Act คือการสร้างกรอบการกำกับดูแลสำหรับผู้ออกเหรียญ Stablecoin ในระดับรัฐบาลกลาง โดยกำหนดให้ผู้ออกต้องมีใบอนุญาตและต้องมีสินทรัพย์ค้ำประกันเต็มจำนวนด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐหรือสินทรัพย์สภาพคล่องเทียบเท่า
กฎหมาย GENIUS Act ยังให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภค โดยในกรณีที่ผู้ออกล้มละลาย ผู้ถือเหรียญ Stablecoin จะได้รับสิทธิ์ในการชำระหนี้ก่อนเจ้าหนี้รายอื่น ซึ่งเป็นมาตรการที่สร้างความเชื่อมั่นอย่างมากให้กับผู้ใช้งาน
ประเด็นที่น่าสนใจคือ แม้จะมีความกังวลจากฝ่ายอนุรักษ์นิยมบางส่วนเกี่ยวกับอำนาจของธนาคารกลางในการออกสกุลเงินดิจิทัล (CBDC) แต่ในตัวบทของกฎหมาย GENIUS Act ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “กฎหมายนี้จะไม่ถูกตีความว่าเป็นการขยายอำนาจของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการให้บริการโดยตรงต่อสาธารณะ”
นอกจากนี้ การพิจารณาร่างกฎหมาย GENIUS Act ยังเกิดขึ้นพร้อมกับร่างกฎหมาย Anti-CBDC Surveillance State Act ซึ่งห้ามไม่ให้ธนาคารกลางออก CBDC โดยตรง และร่างกฎหมาย CLARITY Act ที่วางโครงสร้างตลาดสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการสร้างความชัดเจนให้กับอุตสาหกรรมผ่านตัวบทกฎหมาย GENIUS Act และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ผลกระทบต่อตลาดคริปโต หลัง GENIUS Act ผ่านโหวต
การผ่านร่างกฎหมาย GENIUS Act ในสภาผู้แทนราษฎร ถือเป็นกฎหมายคริปโตฉบับสำคัญฉบับแรกที่ผ่านการพิจารณาทั้งสองสภาของคองเกรส และคาดว่าจะถูกส่งไปให้ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามได้ภายในสัปดาห์นี้
เหตุการณ์นี้ส่งสัญญาณบวกอย่างมหาศาลไปยังตลาดคริปโตทั่วโลก เพราะมันหมายถึงการยอมรับและการสร้างกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนจากเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก การมีกฎหมาย GENIUS Act จะช่วยลดความไม่แน่นอนทางกฎหมายที่เคยเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม
ยิ่งไปกว่านั้น การเคลื่อนไหวนี้ยังเกิดขึ้นพร้อมกับการที่หน่วยงานกำกับดูแลด้านการธนาคารของรัฐบาลกลางได้ออกแนวทางใหม่ที่อนุญาตให้ธนาคารสามารถให้บริการรับฝากสินทรัพย์คริปโตได้
การเปลี่ยนแปลงนี้ประกอบกับการมีกฎหมาย GENIUS Act จะเป็นการเปิดประตูให้สถาบันการเงินแบบดั้งเดิมสามารถเข้ามาในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างเต็มตัวมากขึ้น ซึ่งอาจนำไปสู่การไหลเข้าของเงินทุนสถาบันและเพิ่มการยอมรับในวงกว้าง อนาคตของ Stablecoin ภายใต้กรอบของ GENIUS Act จึงดูสดใสและมีเสถียรภาพมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน