MicroStrategy ช้อนเพิ่ม! ทุ่ม 27 ล้านดอลลาร์ซื้อ Bitcoin ก่อนตลาดพัง

ล่าสุด MicroStrategy บริษัทของ Michael Saylor ได้สร้างความฮือฮาอีกครั้ง ด้วยการเข้าซื้อ Bitcoin (BTC) เพิ่มเติมมูลค่า 27.2 ล้านดอลลาร์ การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่ตลาดคริปโตจะเผชิญกับการเทขายครั้งใหญ่ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การลงทุนระยะยาวและความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าใน Bitcoin ของเขา แม้ตลาดจะมีความผันผวนสูงก็ตาม
การเคลื่อนไหวของ Saylor สอดคล้องกับความเชื่อมั่นของสถาบันอื่น ๆ เช่นกัน ดังจะเห็นได้จากกรณีที่ MARA Holdings ซื้อ Bitcoin เพิ่มเติม ซึ่งช่วยหนุนให้ราคากลับมายืนเหนือระดับสำคัญได้
เจาะลึกการเข้าซื้อ Bitcoin ของ Michael Saylor สวนกระแสตลาด
ตามรายงานล่าสุด Strategy บริษัทด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของ Michael Saylor ได้เข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 220 BTC คิดเป็นมูลค่า 27.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการซื้อดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 6 ถึง 12 ตุลาคม ที่ราคาเฉลี่ยสูงถึง 123,561 ดอลลาร์ต่อเหรียญ
ช่วงเวลาของการเข้าซื้อครั้งนี้มีความน่าสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากเกิดขึ้นก่อนเหตุการณ์ ‘Crypto Meltdown’ ในวันศุกร์ ซึ่งตลาดคริปโตโดยรวมสูญเสียมูลค่าไปกว่า 400,000 ล้านดอลลาร์ในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ราคา Bitcoin ร่วงลงอย่างรุนแรงกว่า 10% หลุดระดับ 110,000 ดอลลาร์ หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรกับจีน 100% ส่งผลให้เกิดการล้างพอร์ตครั้งใหญ่ทั่วทั้งตลาด ซึ่งเหตุการณ์นี้สะท้อนถึงสัปดาห์ที่ Bitcoin เผชิญความผันผวนอย่างหนัก ก่อนจะดีดตัวกลับขึ้นมาอีกครั้ง
การตัดสินใจเข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มเติมของ Michael Saylor ก่อนตลาดจะร่วงหนัก แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ไม่หวั่นไหวต่อความผันผวนระยะสั้น โดยเงินทุนที่ใช้ในการซื้อครั้งนี้มาจากโปรแกรม ATM equity ของบริษัท ได้แก่ STRF, STRK และ STRD ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การสะสมสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง
ขณะเดียวกัน ในภาพรวมทางเทคนิค ราคา Bitcoin กำลังทดสอบสัญญาณ Golden Cross ซึ่งเป็นสัญญาณบวกในอดีตที่นักลงทุนจับตา แม้จะต้องเผชิญกับปัจจัยกดดันจากสงครามการค้าก็ตาม
ภาพรวมพอร์ต Bitcoin ของ Strategy และผลกระทบจากตลาดขาลง
ปัจจุบัน Strategy (MSTR) ซึ่งจดทะเบียนในตลาด Nasdaq ถือเป็นบริษัทมหาชนที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุดในโลก โดยล่าสุดบริษัทมี Bitcoin ในคลังจำนวนมหาศาลถึง 640,250 BTC คิดเป็นมูลค่า ณ ปัจจุบันประมาณ 73,690 ล้านดอลลาร์
แม้การเข้าซื้อครั้งล่าสุดจะอยู่ในช่วงราคาสูง แต่ต้นทุนเฉลี่ยในการถือครอง Bitcoin ทั้งหมดของบริษัทอยู่ที่เพียง 74,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญเท่านั้น โดยมีมูลค่าการเข้าซื้อรวมทั้งสิ้น 47,380 ล้านดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่าพอร์ตการลงทุนใน Bitcoin ของบริษัทยังคงมีกำไรมหาศาลในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม หลังจากการฟื้นตัวจากจุดต่ำสุด ราคา Bitcoin ก็ต้องเผชิญกับแนวต้านสำคัญ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนกำลังจับตามองว่าจะสามารถผ่านไปได้หรือไม่
เหตุการณ์ตลาดร่วงในวันศุกร์ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อ Bitcoin เท่านั้น แต่ยังลุกลามไปยังตลาด Altcoin ด้วย โดยเหรียญชั้นนำอย่าง Ethereum (ETH) และ Solana (SOL) มีราคาลดลงระหว่าง 15% ถึง 30% อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ของ Strategy ยังคงแน่วแน่ในการใช้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรองหลักเพียงหนึ่งเดียวของบริษัท ตอกย้ำความเชื่อมั่นที่มีต่อราชาแห่งคริปโตเคอร์เรนซี
แม้ตลาด Altcoin จะเผชิญกับความผันผวน แต่สถานการณ์เช่นนี้ก็อาจเป็นโอกาสให้นักลงทุนได้พิจารณา เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนสำหรับปี 2025 ซึ่งอาจมีศักยภาพเติบโตสูงเมื่อตลาดกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้ง
สำหรับผู้ที่สนใจภาพรวมและทิศทางในอนาคต สามารถศึกษาบทวิเคราะห์แนวโน้มราคา Bitcoin อย่างละเอียดเพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนได้
นอกเหนือจากเหรียญกระแสหลักแล้ว ตลาดคริปโตยังเต็มไปด้วยโอกาสจากโครงการใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหรียญ Presale ที่มีอนาคตและน่าจับตามอง ซึ่งมักจะดึงดูดนักลงทุนที่มองหาผลตอบแทนสูงในช่วงเริ่มต้นของโปรเจกต์