Bitcoin ล้มลุกคลุกคลาน หลังเจอแนวต้านหิน จะผ่านไปได้หรือไม่?

Bitcoin (BTC) กลับมาเคลื่อนไหวอย่างน่าจับตาอีกครั้ง หลังจากที่สามารถฟื้นตัวขึ้นมายืนเหนือระดับ $114,000 ได้สำเร็จชั่วคราว อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่ง่ายนัก เมื่อราคา BTC กำลังเผชิญกับแรงกดดันและแนวต้านสำคัญหลายจุด นักลงทุนและนักวิเคราะห์ต่างจับตามองว่า BTC จะสามารถทะลุผ่านไปได้หรือไม่ หรือจะกลับตัวเป็นแนวโน้มขาลงอีกครั้ง
วิเคราะห์สถานการณ์ราคา Bitcoin หลังฟื้นตัว
ในช่วงที่ผ่านมา ราคา BTC ได้เริ่มมีคลื่นการฟื้นตัว (recovery wave) หลังจากดีดตัวขึ้นจากแนวรับสำคัญที่ระดับ $110,000 โดยราคา BTC สามารถไต่ระดับกลับขึ้นมาเหนือแนวต้าน $112,500 และ $113,200 ได้สำเร็จ
การฟื้นตัวนี้แข็งแกร่งพอที่จะทำให้ราคาทะลุผ่านระดับ 50% Fib retracement ของการปรับตัวลงครั้งใหญ่จากจุดสูงสุดที่ $123,750 สู่จุดต่ำสุดที่ $100,000 ได้ โดยแรงซื้อจากฝั่งกระทิงสามารถผลักดันราคาให้ขึ้นไปยืนเหนือโซน $114,000 ได้ แต่ถึงกระนั้น เส้นทางข้างหน้าก็ยังคงเต็มไปด้วยอุปสรรคสำคัญที่รอทดสอบอยู่

BTC เผชิญแนวต้านสำคัญ! จับตา $116,000 และ $120,000
ในปัจจุบัน ราคา Bitcoin กำลังซื้อขายอยู่ต่ำกว่าระดับ $116,000 และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 ชั่วโมง (100 hourly Simple Moving Average) ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงแรงขายที่ยังคงมีอยู่
นอกจากนี้ จากการวิเคราะห์กราฟรายชั่วโมงของคู่เทรด BTC/USD ยังพบว่ามีเส้นแนวโน้มขาลง (bearish trend line) ก่อตัวขึ้น พร้อมกับแนวต้านที่ระดับ $119,250
สำหรับแนวต้านระยะสั้นที่ต้องจับตาคือบริเวณ $115,000 และแนวต้านหลักแรกอยู่ที่ $116,000 หากราคาสามารถทะลุผ่านไปได้ แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ $118,150 ซึ่งตรงกับระดับ 76.4% Fib retracement ของการปรับตัวลงครั้งก่อนหน้า
หากราคา BTC สามารถปิดเหนือแนวต้าน $118,150 ได้สำเร็จ อาจเป็นสัญญาณบวกที่ส่งให้ราคาทะยานขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ $119,250 และเส้น trend line ต่อไป และหากแรงซื้อยังคงแข็งแกร่ง มีโอกาสที่ราคาจะพุ่งขึ้นไปสู่ระดับ $120,000 โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ $122,500
แนวรับสำคัญของ BTC หากราคากลับตัวเป็นขาลง
ในทางกลับกัน หาก BTC ไม่สามารถทะลุแนวต้าน $115,000 ไปได้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะเริ่มปรับตัวลงอีกครั้ง โดยมีแนวรับแรกอยู่ที่บริเวณ $113,600 และแนวรับหลักที่สำคัญกว่าคือ $112,500
หากราคายังคงร่วงลงอย่างต่อเนื่อง แนวรับถัดไปจะอยู่ที่โซน $111,200 และแนวรับหลักสุดท้ายที่สำคัญที่สุดในระยะสั้นคือ $110,000 ซึ่งหากราคาหลุดระดับนี้ไป อาจทำให้ BTC เข้าสู่ภาวะที่ยากลำบากในการฟื้นตัวกลับขึ้นมา
สัญญาณทางเทคนิคจากอินดิเคเตอร์รายชั่วโมงก็สนับสนุนมุมมองนี้เช่นกัน โดย MACD เริ่มแสดงโมเมนตัมในแดนลบมากขึ้น ขณะที่ RSI (Relative Strength Index) สำหรับ BTC/USD ก็ปรับตัวลงมาอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งสะท้อนถึงแรงขายที่กำลังเพิ่มขึ้น
BTC ราคาร่วง แต่ Bitcoin Hyper ยังคงระดมทุนต่อเนื่อง
Bitcoin Hyper (HYPER) กำลังกลายเป็นหนึ่งในโปรเจกต์เหรียญต้นน้ำที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปี 2025 หลังระดมทุนทะลุ $29.95M ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน

จุดเด่นของ HYPER คือการเป็น Layer-2 บน Solana Virtual Machine (SVM) ที่ออกแบบมาเพื่ออัปเกรด BTC จากการเป็นแค่สินทรัพย์เก็บมูลค่า ไปสู่ระบบที่รองรับการใช้งานจริงในโลก DeFi, dApps และเกมมีม
แพลตฟอร์มนี้รองรับธุรกรรมหลายหมื่นรายการต่อวินาที ด้วยค่าธรรมเนียมเฉลี่ยไม่ถึง 0.001 ดอลลาร์ พร้อมใช้เทคโนโลยี Zero-Knowledge Proof (ZKP) เพื่อคงความปลอดภัยสูงสุดก่อนเชื่อมกลับสู่เครือข่ายหลักของ BTC
นักพัฒนาสามารถสร้างโทเค็นใหม่บนเครือข่าย Bitcoin, ใช้ BTC เป็นหลักประกันใน DeFi และเชื่อมต่อกับระบบ Solana ได้ผ่าน Rust SDK และ API ที่คุ้นเคย
นอกจากนี้ ระบบ Cross-Chain Bridge ยังเปิดให้โอนสินทรัพย์ระหว่าง BTC, ETH และ SOL ได้อย่างปลอดภัย โดยสินทรัพย์จะถูกแปลงเป็น Wrapped BTC (WBTC) เพื่อใช้งานใน Layer-2 ก่อนแลกกลับได้ตลอดเวลา
ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมได้จากบทวิเคราะห์ราคา และดูคู่มือวิธีซื้อ HYPER พร้อมติดตามอัปเดตและกิจกรรมล่าสุดผ่าน X และ Telegram ของโปรเจกต์
ยอดระดมทุนล่าสุด
ราคาจะถูกปรับขึ้นอีกครั้งภายใน: