ETH ร่วงเบา ๆ รับแรงขาย หลังลุยไม่ผ่าน $4,800

ราคา Ethereum (ETH) กำลังเผชิญกับช่วงเวลาสำคัญ หลังจากที่พยายามฝ่าแนวต้านที่ระดับ $4,800 แต่ไม่สำเร็จ ส่งผลให้ราคาย่อตัวลงกว่า 3% ในวันอังคารที่ผ่านมา การปรับฐานครั้งนี้ทำให้ Ethereum ต้องกลับมาทดสอบแนวรับสำคัญที่โซน $4,400 ซึ่งอาจเป็นตัวชี้วัดทิศทางราคาในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางแรงกดดันจากการขาย ยังมีสัญญาณบวกในระยะยาวที่น่าจับตา โดยเฉพาะปริมาณเหรียญบน Exchange ที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง
ETH ย่อลึกแต่ยังไม่จบเกม! จับตาสัญญาณเทคนิคขาขึ้น
การเคลื่อนไหวของราคา Ethereum ชะลอตัวลงในสัปดาห์นี้ หลังจากพุ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ $4,759 แต่ไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน $4,800 ได้ ทำให้เกิดแรงเทขายกดดันราคาให้ร่วงลงมาต่ำกว่า $4,500 การปรับตัวลงครั้งนี้ยังเป็นการหลุดแนวรับสำคัญหลายระดับ ตั้งแต่ $4,620, $4,600 และเส้นแนวโน้มขาขึ้น (Bullish Trend Line) ที่ $4,560

สัญญาณทางเทคนิคบนกราฟ 4 ชั่วโมงยังแสดงให้เห็นถึง Bearish Divergence ซึ่งบ่งชี้ว่าแรงซื้อเริ่มอ่อนกำลังลง แม้ว่า Bitcoin จะทำสถิติสูงสุดใหม่ไปก่อนหน้านี้ แต่ Ethereum กลับไม่สามารถรักษาระดับโมเมนตัมขาขึ้นไว้ได้ ข้อมูลตลาดเผยให้เห็นสัญญาณที่ขัดแย้งกัน โดย Spot Cumulative Volume Delta (CVD) แสดงแรงขายสุทธิจากนักเทรดในตลาด Spot อย่างชัดเจน แต่ในทางกลับกัน Futures Open Interest และ Futures CVD ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งชี้ว่านักเทรดในตลาดฟิวเจอร์สยังคงคาดหวังความผันผวนและเตรียมพร้อมสำหรับทิศทางราคาในอนาคต
นอกจากนี้ ยังมีบทวิเคราะห์ที่เจาะลึกถึงปัจจัยหลักที่ทำให้ราคา Ethereum ยังไม่พุ่งทะยาน ซึ่งอาจให้มุมมองเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ปัจจุบัน ราคา Ethereum ซื้อขายอยู่ต่ำกว่าระดับ $4,550 และเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 100 ชั่วโมง (100-hourly SMA) โดยลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ $4,440 ก่อนจะเริ่มเข้าสู่ช่วงพักตัว แนวรับสำคัญที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิดคือโซน $4,400 – $4,420 หากราคาสามารถยืนเหนือโซนนี้ได้ อาจเป็นการยกเลิกภาพขาลงและกลับไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากหลุดแนวรับนี้ไป อาจเห็นการปรับฐานต่อไปยัง $4,250 หรือ $4,100
ETH ถูกดูดออกจาก Exchange ต่อเนื่อง! หนุนแนวโน้มราคาพุ่ง
แม้ว่าราคา Ethereum ในระยะสั้นจะเผชิญกับแรงกดดัน แต่ปัจจัยพื้นฐานในระยะยาวยังคงมีสัญญาณบวกที่น่าสนใจ โดยข้อมูลจาก CryptoQuant เผยว่าปริมาณเหรียญ ETH ที่สำรองไว้บน Exchange ลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 16.1 ล้าน ETH ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่า 25% นับตั้งแต่ปี 2022 แนวโน้มนี้สะท้อนถึงแรงกดดันในการขายที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนมีการเคลื่อนย้ายเหรียญออกจาก Exchange ไปเก็บในกระเป๋าเงินส่วนตัว (Self-custody) และนำไป Staking มากขึ้น ในขณะเดียวกัน การ Staking ก็มีความสำคัญมากขึ้น โดยล่าสุด VanEck ได้ออกมาเตือนผู้ถือเหรียญ Ethereum ที่ไม่ Staking ว่าอาจเสียเปรียบในระยะยาวหลังการอัปเกรดครั้งสำคัญ

การไหลออกของ Ethereum จาก Exchange (Net Exchange Flows) ที่ยังคงติดลบอย่างต่อเนื่อง ช่วยลดอุปทานหมุนเวียนในตลาด ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อราคาในระยะยาว เมื่อเปรียบเทียบกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณเงิน M2 ของสหรัฐฯ ที่แตะระดับ 22.2 ล้านล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของ XWIN Research ซึ่งส่งผลให้ราคา Bitcoin ปรับตัวขึ้นกว่า 130% ตั้งแต่ปี 2022 แต่ราคา Ethereum กลับเพิ่มขึ้นเพียง 15% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งอาจบ่งชี้ว่า ETH ยังมีช่องว่างให้เติบโตได้อีกมาก มุมมองนี้สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของปัญญาประดิษฐ์ โดย Claude AI คาดการณ์ว่าตลาดคริปโตอาจทำสถิติใหม่ได้ในปี 2025 หากมีปัจจัยบวกเข้ามาสนับสนุน
นักวิเคราะห์บางรายชี้ว่า การทดสอบแนวต้าน $4,700 – $4,800 ในครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สี่แล้ว หาก Ethereum สามารถทะลุและยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้อย่างมั่นคง จะเป็นสัญญาณกระทิงที่แข็งแกร่งสำหรับทิศทางราคาในอนาคต นักลงทุนจึงต้องจับตาดูว่าแรงซื้อจะสามารถกลับมาผลักดันราคาให้ทะลุแนวต้านสำคัญนี้ไปได้หรือไม่ ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าหากปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งต่อเนื่อง ราคา Ethereum ก็มีศักยภาพแตะ $10,000 ได้ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทายอย่างยิ่ง
MAXI มาเหนือ! เหรียญมีมสายเทรด ดึงดูดนักลงทุนทั่วโลก
Maxi Doge (MAXI) เหรียญมีมบน Ethereum สร้างกระแสแรงด้วยยอดระดมทุนกว่า 2.8 ล้านดอลลาร์ในช่วง Presale ภายในไม่กี่สัปดาห์ โดดเด่นด้วยภาพลักษณ์ “เหรียญมีมสายกล้าม” ที่เน้นวัฒนธรรมนักเทรดและกลยุทธ์การตลาดผ่าน MAXI Fund ซึ่งถือครอง 25% ของอุปทานโดยไม่มีการขายล่วงหน้า เพิ่มความเท่าเทียมให้ผู้ใช้งาน ขณะเดียวกัน โครงการยังโปร่งใสด้วย Smart Contract ที่ผ่านการตรวจสอบ และมีบริษัทจดทะเบียนรองรับ

นอกจากนี้ MAXI ยังเตรียมขยายการใช้งานจริงผ่านการร่วมมือกับแพลตฟอร์ม Futures และ Leverage Trading พร้อมมอบผลตอบแทนจากการ Staking สูงถึง 150–250% APY สำหรับผู้ลงทุนช่วงแรก ด้วย Tokenomics ที่ออกแบบอย่างรอบคอบและ Hard Cap ที่ 15.7 ล้านดอลลาร์ โครงการนี้จึงถูกจับตามองในฐานะเหรียญมีมที่มีศักยภาพเติบโตระยะยาว ไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราวในตลาดคริปโต
ถ้าคุณกำลังรวบรวมข้อมูล Maxi Doge ขอแนะนำให้เริ่มที่ บทวิเคราะห์/รีวิว Maxi Doge หรือดูคู่มือวิธีซื้อ Maxi Doge แบบละเอียด เพื่อจัดลำดับประเด็นสำคัญ
ศึกษารายละเอียดผลิตภัณฑ์ที่ เว็บไซต์ทางการของ Maxi Doge แล้วเชื่อมต่อกับผู้ใช้จริงใน X และ ช่อง Telegram
ยอดระดมทุนล่าสุด
ราคาจะถูกปรับขึ้นอีกครั้งภายใน: