ยังไม่จบ! โด ควอน อาจเจอคุกเพิ่ม 30 ปีที่เกาหลีใต้

ดูเหมือนว่ามหากาพย์ของ โด ควอน (Do Kwon) ผู้ร่วมก่อตั้ง Terraform Labs จะยังไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ แม้จะถูกศาลสหรัฐฯ ตัดสินจำคุก 15 ปีไปแล้ว ล่าสุดมีรายงานว่าอัยการเกาหลีใต้กำลังเตรียมการฟ้องร้องเพิ่มเติมในประเทศ ซึ่งอาจทำให้เขาต้องรับโทษจำคุกเพิ่มอีกกว่า 30 ปี จากความผิดในคดีการล่มสลายของ Terra-LUNA ที่สร้างความเสียหายครั้งประวัติศาสตร์

จับตา! อัยการเกาหลีใต้จ่อฟ้อง โด ควอน เพิ่ม โทษหนักกว่าเดิม

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา อัยการเกาหลีใต้ได้เปิดเผยว่ากำลังเตรียมการดำเนินคดีเพิ่มเติมกับ โด ควอน หลังจากที่เขาถูกส่งตัวไปรับโทษที่สหรัฐอเมริกา โดยสำนักงานอัยการเขตใต้ของกรุงโซลได้ออกหมายจับเขาไว้แล้วตั้งแต่เดือนกันยายน 2022 ในข้อหาละเมิดกฎหมายตลาดทุน (Capital Markets Act)

หาก โด ควอน ถูกส่งตัวกลับมาดำเนินคดีที่เกาหลีใต้และถูกตัดสินว่ามีความผิดจริง เขาอาจต้องเผชิญกับโทษจำคุกเพิ่มอีก 30 ปีหรือมากกว่านั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอัยการเกาหลีใต้ระบุผ่าน Korea Times ว่า “การดำเนินคดีกับเขาในประเทศเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการเยียวยาความเสียหายให้กับเหยื่อในประเทศ” ซึ่งคาดว่ามีจำนวนราว 200,000 คน และมีความเสียหายรวมกว่า 3 แสนล้านวอน

วิเคราะห์เส้นทางกฎหมาย: จากมอนเตเนโกรสู่สหรัฐฯ และโอกาสกลับเกาหลีใต้

เรื่องราวทางกฎหมายของ โด ควอน มีความซับซ้อน โดยเขาถูกจับกุมที่ประเทศมอนเตเนโกรในเดือนมีนาคม 2023 ขณะพยายามเดินทางโดยใช้หนังสือเดินทางปลอม หลังจากนั้นทั้งสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้ต่างพยายามยื่นเรื่องขอส่งตัวเขาเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งในท้ายที่สุด ศาลได้ตัดสินให้ส่งตัวเขาไปยังสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2024

อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสที่ โด ควอน จะได้กลับมารับโทษที่เกาหลีใต้ โดยเขาสามารถยื่นขอใช้โครงการโอนตัวนักโทษระหว่างประเทศ (International Prisoner Transfer Program) ได้หลังจากรับโทษในสหรัฐฯ ไปแล้วครึ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงที่อัยการสหรัฐฯ จะไม่คัดค้านคำขอดังกล่าว นี่จึงเป็นช่องทางที่อาจทำให้เขาต้องกลับมาเผชิญหน้ากับกระบวนการยุติธรรมในบ้านเกิดอีกครั้ง

ย้อนรอยหายนะ Terra-LUNA ความเสียหาย 4 หมื่นล้านดอลลาร์

การล่มสลายของระบบนิเวศ Terra ซึ่งประกอบด้วยสเตเบิลคอยน์ Terra (UST) และเหรียญ LUNA ในเดือนพฤษภาคม 2022 ได้สร้างความเสียหายให้กับนักลงทุนทั่วโลกเป็นมูลค่ามหาศาลถึงประมาณ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ และเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่สั่นคลอนความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตเคอร์เรนซีอย่างรุนแรง

จากการสืบสวนของอัยการสหรัฐฯ พบว่า โด ควอน และ Terraform Labs ไม่ได้โปร่งใสอย่างที่กล่าวอ้าง โดยก่อนการล่มสลายครั้งใหญ่ เคยเกิดเหตุการณ์ที่ UST หลุด Peg จากเงินดอลลาร์ในเดือนพฤษภาคม 2021 แต่ทีมงานได้ว่าจ้างบริษัทลงทุนแห่งหนึ่งให้เข้ามาช้อนซื้อ UST จำนวนมหาศาลอย่างลับๆ เพื่อพยุงราคาเอาไว้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวได้กลายเป็นหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงเจตนาฉ้อโกงนักลงทุน จนผู้พิพากษา พอล เอ็นเกลเมเยอร์ (Paul Engelmayer) แห่งศาลรัฐบาลกลางสหรัฐฯ กล่าวว่าเป็น “การฉ้อโกงครั้งประวัติศาสตร์”