MetaMask เพิ่ม Native Bitcoin แล้ว! เตรียมเดินเกมข้ามเชนอย่างจริงจัง
MetaMask กระเป๋าเงินคริปโตยอดนิยมที่เชื่อมโยงกับเครือข่าย Ethereum มาอย่างยาวนาน ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้วงการอีกครั้ง ด้วยการประกาศเพิ่มการรองรับ Bitcoin (BTC) แบบ Native อย่างเป็นทางการ
การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญนี้ไม่ได้เป็นเพียงการอัปเดตฟีเจอร์ แต่คือการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ MetaMask สู่การเป็นกระเป๋าเงิน Multichain อย่างเต็มตัว และอาจส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของ BTC ในวงกว้าง
เจาะลึกฟีเจอร์ใหม่! จัดการ BTC โดยตรงบน MetaMask ได้แล้ว!
การอัปเดตล่าสุดนี้ทำให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อ, ขาย, แลกเปลี่ยน (Swap) และส่ง-รับ BTC ได้โดยตรงจากกระเป๋า MetaMask ของตนเอง ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญที่แตกต่างจากการใช้งานในอดีตที่ต้องพึ่งพา Wrapped Bitcoin (wBTC) ซึ่งมีความเสี่ยงจาก Smart Contract และต้องอาศัยตัวกลางในการทำงาน การรองรับแบบ Native นี้จึงช่วยลดความซับซ้อนและเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้งาน
MetaMask ได้ชี้แจงว่าธุรกรรมของ BTC จะใช้เวลาในการยืนยันนานกว่าธุรกรรมบนเชนที่เข้ากันได้กับ EVM หรือ Solana ซึ่งเป็นไปตามการออกแบบของเครือข่าย Bitcoin เอง และเพื่อกระตุ้นการใช้งานในช่วงแรก ทาง MetaMask ยังได้จัดแคมเปญมอบคะแนนสะสม (Reward Points) สำหรับผู้ใช้ที่ทำการ Swap เหรียญอื่นมาเป็น BTC ผ่านกระเป๋าอีกด้วย
ก้าวสู่ Multichain เต็มตัว: ยุทธศาสตร์ใหม่ของ MetaMask หลังเพิ่ม Bitcoin
การเพิ่ม BTC เข้ามาในระบบไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่เป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายตัวสู่การเป็น Multichain Wallet อย่างเต็มรูปแบบของ MetaMask โดยก่อนหน้านี้ได้มีการรองรับเชนอื่นๆ นอกเหนือจาก Ethereum ไปแล้ว ได้แก่ Solana, Monad และ Sei
การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นในวันจันทร์ ซึ่งเป็นเวลาราว 10 เดือนหลังจากที่ Dan Finlay ผู้ร่วมก่อตั้ง MetaMask ได้เคยเปรยถึงฟีเจอร์นี้ไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ และคาดการณ์ว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2025
ทาง MetaMask ยืนยันว่า “การรองรับ BTC ถือเป็นก้าวล่าสุดในการขยายสู่ Multichain ของเรา” พร้อมทั้งส่งสัญญาณว่าจะมีแผนการเพิ่มเครือข่ายบล็อกเชนอื่นๆ เข้ามาอีกในอนาคตภายในปี 2026 ซึ่งเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ที่จะไม่จำกัดตัวเองอยู่แค่ในโลกของ Ethereum อีกต่อไป
MetaMask รุกตลาด Prediction Market และเตรียมออกเหรียญ MASK!
นอกจากการรองรับ BTC แล้ว MetaMask ยังขยายขอบเขตการใช้งานไปสู่ตลาดการคาดการณ์ หรือ Prediction Market ผ่านการร่วมมือกับ Polymarket ทำให้ผู้ใช้สามารถเทรดผลลัพธ์ของเหตุการณ์ในโลกจริงได้โดยตรงจากกระเป๋า
การร่วมมือครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ Polymarket กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี 2024 และมีรายงานว่ากำลังพิจารณามูลค่าบริษัทสูงถึง 15,000 ล้านดอลลาร์
ขณะเดียวกัน Consensys บริษัทแม่ของ MetaMask ก็กำลังเตรียมการสำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต โดยมีธุรกิจธนาคารเพื่อการลงทุนยักษ์ใหญ่อย่าง JPMorgan และ Goldman Sachs เป็นที่ปรึกษา พร้อมกับการเตรียมเปิดตัวเหรียญ MASK ซึ่งเป็น Native Token ของแพลตฟอร์มเอง สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและกลยุทธ์เชิงรุกของบริษัท
รู้จัก Bitcoin Hyper: Layer-2 ที่จะปลดล็อกศักยภาพ BTC ให้เหนือกว่าเดิม
Bitcoin Hyper หรือ HYPER ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ pain point สำคัญของ BTC แบบดั้งเดิม โดยเฉพาะเรื่องความเร็วและต้นทุนการทำธุรกรรม ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการใช้งานในชีวิตจริง ดังนั้น ระบบของ HYPER จึงเน้นการประมวลผลที่เร็วขึ้น ค่าธรรมเนียมต่ำลง และรองรับการใช้งานในวงกว้างมากขึ้น
HYPER สร้างขึ้นบนเทคโนโลยี Solana Virtual Machine (SVM) และใช้ Zero-Knowledge Proof (ZKP) เพื่อแก้ปัญหาคอขวดของ BTC โดยตรง โดยสามารถเพิ่มความเร็วจากเดิมที่ประมาณ 7 TPS ไปสู่ระดับหลายหมื่น TPS และลดค่าธรรมเนียมลงเหลือเฉลี่ยไม่ถึง 0.001 ดอลลาร์
อีกด้านหนึ่งคือการเปิดประตูให้ BTC เข้าไปมีบทบาทในโลกของ DeFi และแอปพลิเคชันบนบล็อกเชนได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างผลตอบแทน การใช้งานร่วมกับโปรเจกต์อื่น หรือการพัฒนา use case ใหม่ ๆ ที่ก่อนหน้านี้ทำได้ยากบนเครือข่ายหลักของ BTC
เมื่อการใช้งานจริงเพิ่มขึ้น ความต้องการในระบบนิเวศก็มีแนวโน้มเติบโตตาม ซึ่งทำให้หลายคนมองว่า HYPER อาจเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่ได้อานิสงส์จากกระแสการขยายตัวของ Bitcoin ในระยะถัดไป และเป็นอีกเหรียญคริปโตที่น่าลงทุนวันนี้
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ทาง X และ Telegram
ยอดระดมทุนล่าสุด
ราคาจะถูกปรับขึ้นอีกครั้งภายใน:
ข่าวเด่นห้ามพลาด
in numbers
