ฟองสบู่ AI กำลังก่อตัว? นักวิเคราะห์ชี้ผลกระทบต่อราคา Bitcoin ปี 2026

ความกังวลในตลาดโลกกำลังก่อตัวขึ้นว่า ตลาดหุ้นอาจกำลังเข้าสู่ภาวะฟองสบู่อีกครั้ง โดยมีเชื้อเพลิงจากกระแสความคลั่งไคล้ในเทคโนโลยี AI อย่างไม่หยุดยั้ง และหากฟองสบู่ลูกนี้แตกในปี 2026 สินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง Bitcoin และตลาดคริปโตในภาพรวม อาจเป็นกลุ่มแรกที่ต้องเผชิญกับผลกระทบอย่างรุนแรง
คำถามสำคัญคือ ราคา BTC จะร่วงลงไปได้ลึกแค่ไหน และแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันจะช่วยพยุงตลาดไว้ได้หรือไม่
เปิดสัญญาณเตือน “ฟองสบู่ AI” ความเสี่ยงใหญ่สุดของตลาด
ผลสำรวจผู้จัดการกองทุนโดย Bank of America (BofA) ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ชี้ให้เห็นว่า 45% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองว่า “ฟองสบู่ AI” คือความเสี่ยงท้ายแถว (tail risk) ที่ใหญ่ที่สุดของตลาด ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าตกใจจากเพียง 11% ในเดือนกันยายน

นอกจากนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามกว่าครึ่งหนึ่งเชื่อว่าหุ้นกลุ่ม AI กำลังซื้อขายอยู่ในเขตฟองสบู่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากมีการใช้จ่ายเงินลงทุนมหาศาลแต่กลับให้ผลตอบแทนที่ต่ำ
บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ (Hyperscalers) อย่าง Meta, Amazon, Microsoft, Alphabet และ Oracle ได้เพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI อย่างหนักในปี 2025 โดย Alexander Joshi หัวหน้าฝ่ายการเงินเชิงพฤติกรรมจาก Barclays UK คาดการณ์ว่าค่าใช้จ่ายด้านทุน (capex) ของบริษัทเหล่านี้จะพุ่งสูงขึ้นถึง 64% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะระดับมากกว่า 500,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2026

เขาเสริมว่า “ศูนย์ข้อมูล AI กลายเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของ GDP สหรัฐฯ ซึ่งแม้จะไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่ก็ยังเป็นความเสี่ยงหากกระแส AI หยุดชะงัก และอาจเกิดการปรับฐานอย่างรุนแรง”
วิเคราะห์ความเสี่ยงฟองสบู่ AI ทำไมถึงน่ากลัวกว่ายุค Dot-com
นักวิเคราะห์การเงิน HedgieMarkets ได้ออกมาเตือนว่า การเติบโตของ AI อาจนำไปสู่วิกฤตที่รุนแรงกว่าฟองสบู่ดอทคอมในช่วงปี 2000 โดยให้เหตุผลว่าในปี 2025 ภาคส่วนนี้ใช้เงินลงทุนไปราว 400,000 ล้านดอลลาร์ แต่สร้างรายได้กลับมาเพียง 60,000 ล้านดอลลาร์ และบริษัทส่วนใหญ่ยังไม่มีผลตอบแทนจากการลงทุนเลย
จุดที่น่ากังวลที่สุดคือ ความแตกต่างจากยุคดอทคอมที่ใช้เงินทุนจากตลาดหุ้น (equity-funded) แต่การขยายตัวของ AI ในปัจจุบันกลับขับเคลื่อนด้วยหนี้ (debt-driven) สิ่งนี้เพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดความล้มเหลวเป็นทอดๆ (cascading failures) กระทบทั้งบริษัทไพรเวทอิควิตี้, ธนาคาร, บริษัทประกัน และผู้บริโภคที่กำลังเปราะบางอยู่แล้ว
หากการเติบโตไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ซึ่งนักประวัติศาสตร์เศรษฐกิจอย่าง Carlota Perez ถึงกับเตือนว่าการล่มสลายของ AI และคริปโตอาจนำไปสู่หายนะทางเศรษฐกิจทั่วโลกในระดับที่ “เกินจะจินตนาการ”
จับตาผลกระทบต่อ Bitcoin หากฟองสบู่ AI แตกในปี 2026
Paolo Ardoino ซึ่งเป็น CEO ของ Tether ได้เตือนว่าการปรับฐานของภาคส่วน AI อาจส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในปี 2026 และเรียกมันว่าเป็น “ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดสำหรับ Bitcoin” ในปีนั้น โดยอ้างอิงจากความสัมพันธ์เชิงบวก (positive correlation) ระหว่าง “ราคาสินทรัพย์ดิจิทัล” กับ “ตลาดหุ้นสหรัฐฯ”

อย่างไรก็ตาม Ardoino เสริมว่าการปรับฐานของราคา BTC ในครั้งนี้อาจไม่รุนแรงเท่ากับตลาดหมีในปี 2022 ที่ร่วงลง -77% หรือในปี 2018 ที่ดิ่งลงถึง -84% เนื่องจากปัจจุบัน BTC ได้รับการยอมรับและมีนักลงทุนสถาบันเข้ามาถือครองมากขึ้น ซึ่งอาจเป็นปัจจัยช่วยจำกัดความสูญเสียได้
ข้อมูลล่าสุด ณ เดือนธันวาคม ราคา BTC ได้ปรับตัวลดลงมาแล้วประมาณ 30% จากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ $106,200
คาดการณ์ราคา Bitcoin: แนวรับสำคัญอยู่ตรงไหน?
เมื่อพูดถึงแนวรับสำคัญ นักวิเคราะห์ Nomad Bullstreet ให้ความเห็นว่าราคา BTC อาจไม่ลดลงต่ำกว่าต้นทุนการผลิตเฉลี่ยต่อเหรียญ ซึ่งอยู่ในช่วง $71,000-$75,000 ซึ่งเป็นโซนราคาที่สอดคล้องกับเป้าหมายของรูปแบบกราฟ Bearish Flag ที่ปรากฏก่อนหน้านี้
ในขณะเดียวกัน รายงานที่อ้างอิงถึง Fundstrat Global Advisors และ Fidelity ได้คาดการณ์ว่าราคาอาจปรับตัวลงไปทดสอบแนวรับในโซน $60,000–$65,000 ในปี 2026 ซึ่งตัวเลขเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองของนักวิเคราะห์ที่มองว่า แม้จะมีการปรับฐาน แต่ก็ยังมีแนวรับสำคัญที่แข็งแกร่งรออยู่ ซึ่งอาจเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2025 เพื่อเข้าสะสมในระยะยาว