Elon Musk จับมือ El Salvador ดัน Grok เข้าโรงเรียนรัฐกว่า 5,000 แห่ง

วงการเทคโนโลยีต้องจับตา! เมื่อ Elon Musk และบริษัท xAI ของเขา ประกาศความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์กับรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ เตรียมส่งแชทบอท AI สุดล้ำ (และสุดดราม่า) อย่าง ‘Grok‘ เข้าสู่ระบบการศึกษาทั่วประเทศ สร้างความฮือฮาทั้งในแง่ของนวัตกรรมและความกังวลถึงผลกระทบที่อาจตามมา
เจาะลึกแผน Elon Musk และ xAI ปฏิรูปการศึกษาด้วย Grok
ตามประกาศอย่างเป็นทางการจาก xAI เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อนำ Grok ไปใช้ในโรงเรียนรัฐบาลกว่า 5,000 แห่งทั่วเอลซัลวาดอร์ภายในระยะเวลา 2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะครอบคลุมนักเรียนมากกว่า 1 ล้านคน ภายใต้ชื่อโครงการ “AI-powered education program”
โดยประธานาธิบดี Nayib Bukele ผู้ซึ่งเคยสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการทำให้ Bitcoin เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย ได้กล่าวถึงความร่วมมือนี้ว่า “เอลซัลวาดอร์ไม่ได้รอให้อนาคตเกิดขึ้น แต่เราสร้างมันขึ้นมา” ซึ่งสะท้อนวิสัยทัศน์ผู้นำที่ต้องการผลักดันประเทศด้วยเทคโนโลยีอย่างเต็มที่
ด้าน Elon Musk เองก็ได้โปรโมตความร่วมมือนี้ผ่านแพลตฟอร์ม X ของเขาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการรีโพสต์ข้อความจาก Katie Miller ภรรยาของที่ปรึกษาอาวุโสของทรัมป์ ที่สนับสนุนการใช้เครื่องมือการศึกษาแบบ “non-woke” หรือไม่เอนเอียงไปทางแนวคิดเสรีนิยมฝ่ายซ้าย ซึ่งการเคลื่อนไหวของ Elon Musk ครั้งนี้ถูกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงทิศทางและอุดมการณ์ที่เขาต้องการจะปลูกฝังผ่านเทคโนโลยี AI ของตนเอง
จับตา! ความเสี่ยงและดราม่า เมื่อ AI สุดโต่งอย่าง Grok เข้าห้องเรียน
อย่างไรก็ตาม Grok ซึ่งเป็น AI ในโครงการนี้กลับมีประวัติที่น่ากังวลพอสมควร เพราะตลอดปีที่ผ่านมา แชทบอทตัวนี้เคยสร้างประเด็นดราม่าจากการเรียกตัวเองว่า “MechaHitler” เผยแพร่เนื้อหาต่อต้านชาวยิว (antisemitic) สนับสนุนทฤษฎีสมคบคิดเรื่อง “white genocide” และเคยให้ข้อมูลเท็จว่า Donald Trump ชนะการเลือกตั้งปี 2020 ซึ่งทำให้เกิดคำถามใหญ่ว่า AI ที่มีพฤติกรรมสุดโต่งเช่นนี้เหมาะสมที่จะเป็นเครื่องมือสร้างหลักสูตรการศึกษาให้แก่เยาวชนหรือไม่
กรณีนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่นำ AI เข้าสู่ระบบการศึกษา โดยก่อนหน้านี้ OpenAI เคยร่วมมือกับเอสโตเนียเพื่อนำ ChatGPT ไปใช้ในโรงเรียน หรือกรณีของ Meta ในโคลอมเบีย ที่ท้ายที่สุดแล้วครูผู้สอนกลับออกมาตำหนิว่า AI เป็นสาเหตุที่ทำให้นักเรียนมีผลการเรียนที่ตกต่ำลง ประสบการณ์จากประเทศอื่นจึงเป็นบทเรียนที่น่าจับตาว่าการเดิมพันครั้งใหญ่ของ Elon Musk และเอลซัลวาดอร์กับ AI ครั้งนี้จะลงเอยอย่างไร
BlockchainFX ($BFX): โอกาสใหม่ในโลก Trading Super App

นอกเหนือจากการจับตาความเคลื่อนไหวของ AI แล้ว ในโลกของสินทรัพย์ดิจิทัลก็มีโปรเจกต์ใหม่ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นั่นคือ BlockchainFX ($BFX) แพลตฟอร์ม Trading Super App ที่ตั้งเป้าเติบโต 1,000 เท่า และประสบความสำเร็จในการระดมทุนไปแล้วกว่า 10 ล้านดอลลาร์ ด้วยแนวคิดที่รวมทุกสินทรัพย์การลงทุนทั้งคริปโต, หุ้น, และฟอเร็กซ์กว่า 500+ รายการไว้ในแอปเดียว
จุดเด่นที่ทำให้ BlockchainFX แตกต่างคือโมเดลการแบ่งปันผลตอบแทนให้ผู้ถือเหรียญ โดยรายได้จากค่าธรรมเนียมการเทรดสูงถึงประมาณ 70% จะถูกแจกจ่ายคืนให้กับผู้ที่ถือโทเค็น BFX ในรูปแบบของ USDT และ BFX ผ่านระบบ Staking & Fee-Sharing ทำให้ผู้ถือเหรียญมีโอกาสสร้างรายได้แบบ Passive Income อย่างต่อเนื่อง
BFX ถือเป็นหนึ่งใน เหรียญ Presale ที่มีโมเดลธุรกิจชัดเจน ยิ่งไปกว่านั้นยังมี Utility ที่จับต้องได้จริง ด้วยแผนการเปิดตัวบัตร Visa สำหรับให้ผู้ถือโทเค็น BFX สามารถนำไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้ โดยมี Roadmap ที่จะลิสต์เหรียญเข้าสู่ Exchange และเปิดตัวแพลตฟอร์มเต็มรูปแบบในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2025 ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์และแผนงานที่ชัดเจนในระยะยาว
ตรวจสอบสถิติจากเว็บไซต์ทางการของ BlockchainFX ขณะติดตามบทสนทนาล่าสุดบน X และ Telegram
ไปยัง BlockchainFX