Bitcoin ผันผวนต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ตลาด Crypto โตเต็มวัย?

Bitcoin (BTC) สกุลเงินดิจิทัลอันดับหนึ่ง ได้เข้าสู่ช่วงที่มีความผันผวนต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยข้อมูลชี้ว่า BTC อยู่ในภาวะนี้มานานกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งตัวชี้วัดความผันผวนในรอบ 60 วันยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50% มาตั้งแต่ต้นปี 2023
ปรากฏการณ์นี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนมุมมองของนักลงทุนที่มีต่อ BTC แต่ยังบ่งชี้ว่าตลาดอาจกำลังเติบโตขึ้นและมีเสถียรภาพมากกว่าที่เคยเป็นมา
วิเคราะห์สาเหตุ BTC ผันผวนต่ำสุดในรอบหลายปี
ข้อมูลล่าสุดเผยให้เห็นภาพที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในตลาด Bitcoin โดยตลอดช่วงปี 2023-2024 แม้มูลค่าตลาดของ BTC จะขยายตัวขึ้น แต่ความผันผวนที่เกิดขึ้นจริง (Realized Volatility) กลับลดลงประมาณ 20% ซึ่งสวนทางกับภาวะกระทิงในอดีตที่มักจะมาพร้อมกับความผันผวนที่รุนแรงเสมอ

นักวิเคราะห์ชี้ว่าปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังความนิ่งของราคา BTC ในครั้งนี้ มาจากการที่ตลาดมีพัฒนาการไปมาก ไม่ว่าจะเป็นตลาดตราสารอนุพันธ์ (Derivatives) ที่ลึกและซับซ้อนขึ้น การเกิดขึ้นของกลยุทธ์การลงทุนอย่างเป็นระบบ และการเข้ามาของผู้เล่นที่ขายความผันผวน (Volatility-Selling) มากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ทำหน้าที่เป็นเหมือนกันชนช่วยลดแรงกระแทกของราคา
Bitcoin vs. สินทรัพย์อื่น: เมื่อความเสี่ยงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
แม้ว่าโดยธรรมชาติแล้ว BTC จะยังคงมีความผันผวนสูงกว่าสินทรัพย์ดั้งเดิมอย่างทองคำหรือหุ้น แต่ช่องว่างดังกล่าวก็เริ่มแคบลงอย่างเห็นได้ชัด
ข้อมูลจาก iShares ระบุว่าความผันผวนรายปีของ BTC อยู่ที่ประมาณ 54% ในขณะที่ทองคำอยู่ที่ 15% และหุ้นทั่วโลกอยู่ที่ 10% ตัวเลขนี้ทำให้ลักษณะของ BTC ในปัจจุบันคล้ายคลึงกับหุ้นเทคโนโลยีขนาดกลางมากกว่าสินทรัพย์เพื่อการเก็งกำไรล้วนๆ เหมือนในอดีต

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากการปรับฐานรุนแรง ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวัง ดังที่เห็นได้จากเหตุการณ์เดือนกันยายน 2025 ที่ตลาดคริปโตสูญเสียมูลค่าไปถึง 162,000 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าในครั้งนั้น BTC จะปรับตัวลงน้อยกว่า Altcoins ส่วนใหญ่ก็ตาม
นอกจากนี้ ปัจจัยด้านความสามารถในการทำกำไรของนักขุด ซึ่งวัดจาก Puell Multiple ก็เป็นอีกตัวแปรที่สามารถกระตุ้นให้ความผันผวนดีดตัวสูงขึ้นได้
คาดการณ์อนาคตราคา BTC ท่ามกลางความนิ่งของตลาด
แม้ความผันผวนที่เกิดขึ้นจริงจะลดลง แต่ตลาด Options กลับสะท้อนภาพที่ต่างออกไป โดยยังคงมีการตั้งราคาความผันผวนโดยนัย (Implied Volatility) ในระดับสูง โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีข่าวสำคัญเกี่ยวกับกองทุน ETF หรือปัจจัยเศรษฐกิจมหภาค
ในด้านการคาดการณ์ราคา โมเดลที่อิงตามผลกระทบของเครือข่าย (Network Effects) ได้ประเมินเป้าหมายราคา BTC ในช่วงปลายปี 2025 ไว้ที่ช่วง 130,000-163,000 ดอลลาร์ และอาจสูงถึง 200,000 ดอลลาร์ หากสภาพคล่องและการยอมรับยังคงขยายตัวต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี หากภาวะเศรษฐกิจมหภาคกลับมาตึงตัวอีกครั้ง ก็อาจผลักดันให้ความผันผวนกลับไปสู่ระดับ 80% หรือสูงกว่านั้นได้
สำหรับตอนนี้ ความเคลื่อนไหวที่นิ่งสงบของ BTC ถือเป็นสัญญาณของตลาดที่เติบโตขึ้น แต่นักลงทุนก็ต้องไม่ลืมบทเรียนในอดีตที่ว่า ช่วงเวลาที่เงียบสงบมักจะเป็นลางบอกเหตุของพายุลูกใหญ่ที่กำลังจะมาถึง
Bitcoin Hyper เหรียญ Layer-2 ที่พลิกโฉมการใช้งาน BTC
Bitcoin Hyper ($HYPER) เปิดตัวเป็น Layer-2 บน Solana Virtual Machine (SVM) เพื่อต่อยอดบทบาทของ BTC จากสินทรัพย์เก็บมูลค่า สู่โครงสร้างที่รองรับธุรกรรมความเร็วสูง รวมถึงการใช้งานในโลก DeFi, dApps และกระแส Meme Culture ภายในเวลาเพียงไม่กี่เดือน โครงการนี้สามารถระดมทุนได้กว่า $29.89M แล้ว ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในช่วงที่ตลาด Altcoin กำลังได้รับความสนใจ

จุดเด่นสำคัญของ HYPER คือการแก้ไขข้อจำกัดเดิมของ BTC ไม่ว่าจะเป็นความเร็วที่ต่ำ ค่าธรรมเนียมสูง และข้อจำกัดในการเขียนโปรแกรม
Layer-2 ตัวนี้รองรับธุรกรรมได้หลายหมื่นครั้งต่อวินาที มีค่าธรรมเนียมเฉลี่ยไม่ถึง 0.001 ดอลลาร์ พร้อมคงความปลอดภัยผ่านเทคโนโลยี Zero-Knowledge Proof (ZKP) ทำให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง Meme Coin ได้, สามารถใช้ BTC เป็นหลักประกันใน DeFi, ทำ Micropayment หรือดึงชุมชน Solana เข้ามาในระบบ Layer-2 ได้ทันที
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่เพิ่มความแข็งแกร่งให้โครงการคือระบบ Cross-Chain Bridge ซึ่งเปิดให้โอนย้ายสินทรัพย์ระหว่าง BTC, ETH และ SOL ได้อย่างปลอดภัย การเชื่อมโยงข้ามเครือข่ายเช่นนี้ช่วยให้ HYPER มีความยืดหยุ่นและเพิ่มการใช้งานได้จริงในหลายมิติ
โครงสร้าง Presale ที่โปร่งใสและการมี Utility Token ที่หลากหลายทำให้ HYPER ถูกจับตามองว่าเป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2025 แถมเหรียญนี้ยังสามารถใช้เป็นค่า Gas, รางวัล Staking และ Governance Token ที่เปิดโอกาสให้ผู้ถือมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบนิเวศ ขณะที่การเชื่อมสะพานระหว่าง BTC กับ Layer-2 ยังสร้างความต้องการใช้เหรียญเพิ่มขึ้นอีกด้วย
สำหรับผู้ที่อยากเข้าใจจุดเด่นของโครงการ HYPER แนะนำให้เริ่มจาก บทวิเคราะห์ราคา Bitcoin Hyper หรือดูคู่มือวิธีซื้อเหรียญ $HYPER แบบละเอียด เพื่อเตรียมแนวทางที่เหมาะสม
แวะไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ทางการของโปรเจกต์ หรือโซเชียลมีเดียอย่าง X และ Telegram