Bitcoin ดีดกลับหลัง Fed ลดดอกเบี้ย! สัญญาณกระทิงปลายปีมาแล้วยัง?

ตลาดคริปโตกลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยครั้งที่สามของปี ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่งผลให้ราคา Bitcoin (BTC) ดีดตัวกลับอย่างน่าจับตา นักวิเคราะห์หลายสำนักมองว่านี่อาจเป็นสัญญาณบวกในระยะยาว และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นรอบใหม่หลังจากที่ตลาดซึมซับข่าวมาระยะหนึ่ง
เจาะลึกปฏิกิริยาตลาด BTC: ทำไมราคาถึงดีดกลับหลัง Fed ลดดอกเบี้ย?
หลังจาก Fed ดำเนินการลดอัตราดอกเบี้ยติดต่อกัน 3 ครั้งในช่วง 3 เดือน (กันยายน-ธันวาคม) รวมทั้งสิ้น 0.75% ตลาดคริปโตได้แสดงปฏิกิริยาตามรูปแบบคลาสสิก “ซื้อตามข่าวลือ แล้วขายเมื่อข่าวจริงออก” (buy the rumor, sell the news) ตามการวิเคราะห์ของ Santiment บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลบนบล็อกเชน ซึ่งมักจะตามมาด้วยการเทขายในระยะสั้น
อย่างไรก็ตาม Santiment ชี้ว่า “โดยทั่วไปแล้วมักจะมีการดีดตัวกลับหลังจากที่สถานการณ์คลี่คลาย” ซึ่งสร้างโอกาสในการเทรดที่คาดการณ์ได้ การลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุดนี้ก็ไม่มีข้อยกเว้น โดยราคา BTC ได้ปรับตัวลงไปต่ำกว่า $90,000 ก่อนจะฟื้นตัวกลับขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นรูปแบบที่นักลงทุนเฝ้ารอเพื่อยืนยันการสิ้นสุดของแรงเทขายระยะสั้น
วิเคราะห์มุมมองเซียน: อนาคต Bitcoin หลังนโยบายการเงิน Fed
Jeff Ko หัวหน้านักวิเคราะห์จาก CoinEx ให้ความเห็นว่า การลดดอกเบี้ยครั้งนี้เป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์ไว้อยู่แล้วและได้สะท้อนให้เห็นผ่านราคา (priced in) แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือการที่ Fed เข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งแม้จะเป็นเพียงมาตรการทางเทคนิคเพื่อ “เสริมสภาพคล่อง” แต่ตลาดกลับตีความว่าเป็นหนึ่งใน “ปัจจัยบวก” ช่วยให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และราคา BTC ฟื้นตัวขึ้นตามไปด้วย
ในขณะเดียวกัน Jurrien Timmer ผู้อำนวยการฝ่าย Global Macro ของ Fidelity Investments มองในภาพระยะยาวว่า แม้ในปีนี้ผลตอบแทนของ BTC จะยังตามหลังตลาดหุ้น แต่ตลาดคริปโตก็กำลังแสดงให้เห็นถึงวุฒิภาวะที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับวัฏจักรก่อนๆ ซึ่งเป็นสัญญาณว่าโครงสร้างเครือข่ายของ BTC กำลังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
จับตาแนวต้านสำคัญ! BTC จะทะลุ $93,500 ได้หรือไม่?
ในช่วงเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคา BTC ได้ฟื้นตัวจากจุดต่ำสุดหลังการประกาศของ Fed โดยพุ่งขึ้นไปแตะระดับ $93,500 บน Coinbase อย่างไรก็ตาม แนวต้านที่ระดับราคานี้ยังคงแข็งแกร่งและส่งผลให้ราคาย่อตัวกลับมาอยู่ที่ประมาณ $92,300 ณ เวลาที่เขียนบทความนี้
การที่ BTC ยังไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญไปได้ ทำให้นักลงทุนต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ในภาพรวม การที่อัตราดอกเบี้ยลดลงและต้นทุนการกู้ยืมที่ถูกลง มักจะกระตุ้นให้นักลงทุนกล้ารับความเสี่ยงมากขึ้น และเพิ่มเงินทุนไหลเข้าสู่สินทรัพย์เก็งกำไรอย่างคริปโต ซึ่งอาจเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดการปรับตัวขึ้นของตลาดในรอบใหญ่ต่อไป รวมถึงปลุกกระแส Altcoin ให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
Bitcoin Hyper: Layer-2 ที่อาจเป็นหนึ่งใน เหรียญคริปโตใหม่ ที่น่าจับตา

กระแส BTC ยังเป็นขาขึ้น และหนึ่งในโปรเจกต์ที่ถูกพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ คือ Bitcoin Hyper (HYPER) ซึ่งกำลังถูกมองว่าเป็น Layer-2 ที่เข้ามาปลดล็อกข้อจำกัดของ BTC แบบจริงจัง หลังระดมทุนไปแล้วราว 30 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนทั่วโลกอย่างชัดเจน
จุดเด่นของโครงการนี้คือการนำ Solana Virtual Machine (SVM) มาใช้ ทำให้เครือข่ายรองรับธุรกรรมได้เร็วระดับหลายหมื่น TPS พร้อมค่าธรรมเนียมเฉลี่ยต่ำกว่า 0.001 ดอลลาร์ แตกต่างจาก BTC ดั้งเดิมที่ยังติดปัญหาความเร็วและต้นทุน ซึ่งแนวทางนี้ช่วยเปิดทางให้ BTC สามารถต่อยอดไปสู่ DeFi, dApps และ NFT ได้มากขึ้น
ในมุมของนักลงทุน HYPER ยังดึงดูดด้วยรอบ Presale ที่เปิดโอกาสให้เข้าซื้อในราคาต้นๆ รวมถึงระบบ Staking ที่ให้ผลตอบแทนเริ่มต้นสูงสุดถึง 40% APY เพื่อจูงใจการถือระยะยาวและสร้างความแข็งแกร่งให้กับ ecosystem จึงไม่น่าแปลกใจที่หลายคนเริ่มยกให้โปรเจกต์นี้เป็นหนึ่งในเหรียญคริปโตใหม่ที่น่าจับตาในปี 2025
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม แนะนำให้อ่านบทวิเคราะห์ราคา Bitcoin Hyper และคู่มือวิธีซื้อ HYPER เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน รวมถึงติดตามอัปเดตจากเว็บไซต์ทางการของ HYPER ควบคู่กับ X และ Telegram เพื่อไม่พลาดความเคลื่อนไหวสำคัญ
ยอดระดมทุนล่าสุด
ราคาจะถูกปรับขึ้นอีกครั้งภายใน: