วิเคราะห์ Bitcoin วันนี้ ราคา BTC สะท้อนข่าว BOJ ไปแล้ว หรือจะร่วงอีกรอบ?

ตลาดคริปโตกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด เมื่อธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 basis points สู่ระดับ 0.75% ในวันที่ 19 ธันวาคม 2025 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสามทศวรรษ ท่ามกลางบรรยากาศที่คุ้นเคยนี้ Bitcoin ซึ่งกำลังซื้อขายอยู่ที่ราว 90,000 ดอลลาร์ หลังปรับฐานลงมา 27% จากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 126,000 ดอลลาร์ ก็ต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านสภาพคล่องอีกครั้ง คำถามคือ นี่เป็นเพียงการสร้างความกลัว หรืออาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ตลาดกระทิงต้องสะดุดจริงๆ? เรามาเจาะลึกประวัติศาสตร์ ปัจจัยหนุน และข้อเท็จจริงกัน

วิเคราะห์อดีต: BOJ ขึ้นดอกเบี้ยทีไร Bitcoin ร่วงทุกที?

ในอดีต การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ BOJ เปรียบเสมือนคริปโตไนต์ของ Bitcoin ที่มักจะกระตุ้นให้เกิดการเทขายอย่างรุนแรง ผ่านกลไกการปลดล็อก Yen Carry Trades ซึ่งนักลงทุนจะกู้เงินเยนราคาถูกไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงสูงอย่างคริปโต เมื่อดอกเบี้ยเยนสูงขึ้น การกู้ยืมจึงไม่คุ้มค่าและเกิดแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อนำเงินกลับไปคืน

เหตุการณ์ในเดือนมีนาคม 2024 ที่ BOJ ยุติยุคดอกเบี้ยติดลบ ได้ส่งผลให้ราคา BTC ร่วงลงถึง 23% จาก 73,800 ดอลลาร์ ไปอยู่ที่ 56,500 ดอลลาร์ภายในสองสัปดาห์ แม้จะอยู่ในช่วงกระแส Post-Halving ก็ตาม

How bad will the Yen carry unwind be?
Here's an interesting chart (credit: @DefiWimar)

It shows Bitcoin gets hit 20% to 30% with each BOJ rate hike.

But it also suggests we already took our beating in advance.

Dec 19th will be interesting. pic.twitter.com/LYFkx0ts6U

— Cairo – Reinvent Ideal (@reinventideal) December 13, 2025

ต่อมาในเดือนกรกฎาคม 2024 การปรับขึ้นดอกเบี้ยสู่ระดับ 0.25-0.5% ยิ่งส่งผลรุนแรงกว่าเดิม ฉุดให้ราคา BTC ดิ่งลง 30% ไปอยู่ที่ 49,000 ดอลลาร์ภายในสัปดาห์เดียว ซ้ำเติมด้วยความผันผวนของตลาดโลกและมูลค่าการล้างพอร์ตกว่า 1.14 พันล้านดอลลาร์ และล่าสุดในเดือนมกราคม 2025 การขึ้นดอกเบี้ยสู่ 0.5-0.75% ก็ทำให้การปรับฐานยืดเยื้อต่อไปอีกเดือน โดยราคาปรับลง 31% สู่ระดับ 74,000 ดอลลาร์ ซึ่งทุกครั้งรูปแบบจะชัดเจนคือ เงินเยนแข็งค่าขึ้น, เกิดการบังคับล้างพอร์ต (Deleveraging) และความเชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยงลดลง ซึ่งนักวิเคราะห์จาก AInvest ชี้ว่าเหตุการณ์เหล่านี้ได้ลบมูลค่าตลาดไปหลายแสนล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะกลุ่ม Altcoin ที่ร่วงหนักกว่า 40-50%

ครั้งนี้ไม่เหมือนเดิม? ทำไมตลาดมอง Bitcoin อาจไม่สะเทือน

อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์จาก Yahoo Finance ชี้ว่าการขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้กลับมีบรรยากาศที่แตกต่างออกไป หรืออย่างน้อยตลาดก็เชื่อเช่นนั้น ด้วยอัตราต่อรองบน Polymarket ที่สูงถึง 98% และตลาดฟิวเจอร์สเงินเยนที่ส่งสัญญาณล่วงหน้าอย่างชัดเจน

ที่มา: Polymarket

กราฟจาก Polymarket อาจกำลังชี้ให้เห็นว่าราคา Bitcoin รับ priced in หมดแล้ว ทำให้ปัจจัยช็อกตลาดแบบไม่คาดฝันนั้นลดน้อยลงไปมาก ต่างจากครั้งก่อนๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดยังคงคึกคัก

Bitcoin ได้ผ่านการเทขายเพื่อลดความเสี่ยงล่วงหน้ามาแล้ว สะท้อนจากตัวเลขเงินไหลเข้า Exchange ที่พุ่งสูงขึ้นและ Funding Rate ที่เริ่มไม่เสถียร ซึ่งเป็นสัญญาณของการลดการใช้เลเวอเรจ นอกจากนี้ ข้อมูล On-chain ยังแสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ถือระยะยาว (HODLers) เริ่มกลับเข้ามาสะสมที่ระดับราคานี้ ขณะที่แรงขายจากนักขุดเริ่มแผ่วลง และมีแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณ 85,000-88,000 ดอลลาร์ ความเชื่อมั่นที่อยู่ในระดับ “กลัวสุดขีด” (Fear & Greed Index ที่ 22) ก็ตรงกันข้ามกับช่วง “โลภสุดขีด” ในการขึ้นดอกเบี้ยครั้งก่อนๆ

ยิ่งไปกว่านั้น การที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เพิ่งลดดอกเบี้ยลง 25 bps และดัชนีดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ก็เป็นปัจจัยถ่วงดุลที่อาจช่วยลดแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินเยนและจำกัดการพุ่งขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกได้

เสียงจากนักวิเคราะห์: Bitcoin จะไปต่อหรือพอแค่นี้?

นักวิเคราะห์บางส่วนยังคงไม่เชื่อในทฤษฎี “ตลาดรับรู้ราคาไปแล้ว” โดยให้เหตุผลว่าประวัติศาสตร์ไม่เคยโกหก แม้จะเป็นการเคลื่อนไหวที่คาดการณ์ไว้แล้ว แต่ก็อาจบานปลายเป็นความโกลาหลได้หากผู้ว่าการ BOJ อย่าง Ueda ส่งสัญญาณว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเพื่อสู้กับเงินเฟ้อ 3% และการเติบโตของค่าจ้างในญี่ปุ่น ซึ่งอาจจุดชนวนให้เกิดการเทขายจาก Yen Carry Trade อีกครั้ง และผลักดันให้ราคา Bitcoin ร่วงลงสู่ระดับ 70,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นการปรับฐานราว 20-30% ตามรูปแบบในอดีต

RATE HIKE INCOMING! 🇯🇵

– Last two times they started raising rates… $BTC shortly fell 24% and 31%.

But why is this time different?

We know it's coming and the rate cut is already priced in at 98%. We may still get some short term volatility, but I see it as an opportunity… pic.twitter.com/6BDTLulpnl

— Investor Jordan 🌪️ (@InvestorJordann) December 15, 2025

ในทางกลับกัน การวิเคราะห์เช่นนี้ให้น้ำหนักกับญี่ปุ่นมากเกินไป และมองข้ามบทบาทของ Bitcoin ที่เติบโตขึ้นในฐานะสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงจากปัจจัยมหภาค ด้วยเม็ดเงินจาก ETF ที่ไหลเข้าอย่างต่อเนื่องและการยอมรับจากสถาบัน (เช่น การเข้าซื้อไม่หยุดของ MicroStrategy) ทำให้ความอ่อนไหวของ Bitcoin ต่อสภาพคล่องอาจลดลง เหลือเพียงการปรับฐานระยะสั้น 5-10% ก่อนที่จะเกิดปรากฏการณ์ “Buy the Fact” และดีดตัวกลับขึ้นไป แต่แน่นอนว่านักเทรดรายย่อยที่ไล่ตามเลเวอเรจสูงๆ อาจต้องเจ็บตัวหนักหากความผันผวนพุ่งสูงขึ้น

จับตาสัญญาณสำคัญ ชี้ชะตา Bitcoin ปลายปี 2025

บทสรุปที่แท้จริงอาจอยู่ที่การดำเนินนโยบายของธนาคารกลางเอง การที่ BOJ ค่อยๆ เปลี่ยนจากนโยบายผ่อนคลายพิเศษได้สร้างแรงกระเพื่อมที่ส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์นวัตกรรมอย่าง Bitcoin แต่ในขณะเดียวกัน ความสามารถในการฟื้นตัวของคริปโตที่กลับไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้ทุกครั้งหลังการเทขาย ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง (Antifragility) ของมัน หากการขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ส่งผลกระทบจำกัด ก็อาจเร่งให้ Bitcoin แยกตัวออกจากตลาดการเงินดั้งเดิมได้เร็วขึ้น แต่หากไม่เป็นเช่นนั้น ก็อาจเป็นโอกาสให้นักลงทุนระยะยาวได้เข้าซื้อในราคาที่ถูกลง

สำหรับอนาคตอันใกล้นี้ สิ่งที่ต้องจับตาคือคู่เงินเยน, อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) และข้อมูล On-chain หากราคา Bitcoin หลุดแนวรับ 85,000 ดอลลาร์ อาจเป็นสัญญาณยืนยันฝั่งหมี แต่หากสามารถยืนเหนือแนวรับนี้ได้ ก็อาจเป็นแรงส่งให้ราคากลับขึ้นไปทดสอบ 110,000 ดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ได้เช่นกัน เพราะในโลกคริปโต ความผันผวนคือราคาที่ต้องจ่ายเพื่อโอกาสในการเติบโตเสมอ

Bitcoin Hyper: Layer-2 ที่อาจเป็นดาวเด่นรับปีใหม่

ท่ามกลางความผันผวนของตลาดมหภาค นวัตกรรมในโลกคริปโตยังคงเดินหน้าต่อไป และหนึ่งในโปรเจกต์ที่น่าจับตาคือ Bitcoin Hyper ($HYPER) ซึ่งเป็นโปรเจกต์ Layer-2 ที่ระดมทุนไปได้เกือบ 30 ล้านดอลลาร์ในเวลาไม่ถึง 5 เดือน สะท้อนถึงความเชื่อมั่นอย่างล้นหลามจากนักลงทุนทั่วโลก

Bitcoin Hyper เป็น Altcoin ในคราบมีม เป็นลูกผสมที่ถูกสร้างขึ้นบนเทคโนโลยี Solana Virtual Machine (SVM) เพื่อแก้ปัญหาคอขวดของ Bitcoin ทั้งในด้านความเร็วและค่าธรรมเนียม โดยสามารถรองรับธุรกรรมได้หลายหมื่นครั้งต่อวินาที (TPS) ด้วยค่าธรรมเนียมเฉลี่ยต่ำกว่า 0.001 ดอลลาร์ ทำให้ Bitcoin ไม่ได้เป็นแค่สินทรัพย์เก็บมูลค่าอีกต่อไป แต่ยังสามารถรองรับ DeFi, dApps และ NFT ได้อย่างเต็มรูปแบบ สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสเติบโต โปรเจกต์นี้มอบผลตอบแทนจากการ Staking สูงถึง 49% ต่อปี (APY) ในช่วงแรก ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำคัญในการถือเหรียญระยะยาว ด้วยโครงสร้าง Presale ที่โปร่งใสและเปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม นี่อาจเป็นหนึ่งใน เหรียญคริปโตที่น่าลงทุนวันนี้ ที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะเมื่อตลาด Altcoin กำลังรอจังหวะกลับมาคึกคักอีกครั้ง

หากคุณต้องการเจาะลึกศักยภาพระยะยาวของ Bitcoin Hyper สามารถศึกษา บทวิเคราะห์ราคา Bitcoin Hyper หรือศึกษาวิธีซื้อ Bitcoin Hyper ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพื่อประเมินโอกาสอย่างรอบด้าน

อัปเดตบทความเชิงลึกผ่าน เว็บไซต์ทางการของ Bitcoin Hyper และติดตามประกาศสั้น ๆ ทาง X และ ช่อง Telegram

ยอดระดมทุนล่าสุด

ราคาจะถูกปรับขึ้นอีกครั้งภายใน:

ไปยัง Bitcoin Hyper