Bull Trap คืออะไร? สังเกตให้ชัวร์ถ้าไม่อยากโดนหลอก!

Bull Trap คือสถานการณ์ที่ราคาสินทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้นชั่วคราวในลักษณะคล้ายกับการกลับตัวขึ้นจากแนวโน้มขาลง ส่งผลให้นักลงทุนหลงเชื่อว่าเป็นสัญญาณซื้อที่แท้จริง และรีบเข้าซื้อในปริมาณมาก

แต่ในความเป็นจริงแล้ว การปรับตัวขึ้นเป็นเพียงสัญญาณหลอกและราคาได้มีการลดลงอย่างมากต่อมา ส่งผลนักลงทุนที่หลงเข้าไปซื้อจึงประสบภาวะขาดทุน

Bull Trap มักเกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดยังคงอยู่ในภาวะขาลง หรือมีปัจจัยพื้นฐานที่ยังไม่เอื้อต่อการฟื้นตัวที่แท้จริง

ทั้งนี้ แรงดีดตัวของราคาในระยะสั้นอาจเกิดจากข่าวเชิงบวกชั่วคราว การเก็งกำไรระยะสั้น หรือการปิดสถานะขาย (Short Covering) ของนักลงทุนบางกลุ่ม

วิธีสังเกต Bull Trap

1. ปริมาณการซื้อขายไม่รองรับ

ปริมาณการซื้อขายไม่รองรับหมายถึงราคาสินทรัพย์ขึ้นหรือลงในช่วงเวลาหนึ่ง แต่การเคลื่อนไหวของราคานั้นไม่ได้รับการสนับสนุนจากปริมาณการซื้อขายจริง ๆ หรือเป็นเพียงการเคลื่อนไหวที่เกิดจากการเก็งกำไรชั่วคราว

2. แนวต้านสำคัญยังไม่ถูกยืนยัน

แนวต้านสำคัญยังไม่ถูกยืนยันหมายถึงราคาสินทรัพย์ปรับตัวขึ้นจนใกล้ถึงระดับราคาที่เคยมีการทดสอบหรือมีการหยุดการขึ้นของราคามาก่อน (ระดับแนวต้าน) แต่ยังไม่สามารถทะลุหรือผ่านไปได้อย่างมั่นคง ซึ่งทำให้ไม่สามารถยืนยันได้ว่าราคาจะเปลี่ยนแนวโน้มจากขาลงไปเป็นขาขึ้นได้จริง

3. ดัชนีเทคนิคแสดงภาวะ Divergence

ดัชนีเทคนิคแสดงภาวะ Divergence คือสัญญาณที่เกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์และตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น Relative Strength Index, Moving Average Convergence Divergence หรือ Stochastic เคลื่อนไหวไม่สอดคล้องกัน เป็นสัญญาณเตือนว่าแนวโน้มราคานั้นอาจจะไม่ยั่งยืน และอาจมีการดิ่งตัวลงในอนาคต

การรู้เท่าทัน Bull Trap ช่วยให้นักลงทุนสามารถหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในการตัดสินใจลงทุน และวางกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น