BTC เสี่ยงร่วงต่อ! ส่อง 2 สาเหตุหลักจากนักวิเคราะห์ชื่อดัง

Bitcoin (BTC) กำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนักในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยปรับตัวลดลงกว่า 7% ในรอบสองสัปดาห์ และพยายามทรงตัวเหนือระดับ $110,000 ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนนี้ มีสัญญาณเตือนที่สำคัญ 2 ประการที่บ่งชี้ว่าราคา Bitcoin อาจปรับตัวลดลงอีกในระยะสั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเคลื่อนไหวของนักลงทุนรายใหญ่หรือ ‘วาฬ’ และปริมาณ Bitcoin ที่ไหลเข้าสู่กระดานเทรด ซึ่งสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนในตลาดไม่น้อย
แรงเทขายจากวาฬ กดดันราคา Bitcoin อย่างมหาศาล
ปัจจัยลบประการแรกที่ต้องจับตามองคือการเทขายครั้งใหญ่จากกลุ่มวาฬ โดยข้อมูลล่าสุดจาก Ali Martinez นักวิเคราะห์ชื่อดังบน X เปิดเผยว่าในช่วง 14 วันที่ผ่านมา วาฬได้เทขาย Bitcoin ไปแล้วกว่า 50,000 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าสูงถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
การเทขายในปริมาณมหาศาลเช่นนี้ส่งผลโดยตรงต่อตลาด โดยเป็นการเพิ่มอุปทานของเหรียญ Bitcoin ในตลาดเปิด ซึ่งหากความต้องการซื้อไม่สามารถดูดซับได้ทัน ก็อาจนำไปสู่การปรับฐานของราคาที่รุนแรงยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การกระทำของวาฬยังอาจสร้างความตื่นตระหนกให้กับนักลงทุนรายย่อย และกระตุ้นให้เกิดการเทขายตามมาเป็นลูกโซ่ ทำให้แรงกดดันต่อราคาเหรียญเพิ่มขึ้นไปอีก
BTC ไหลเข้า Exchange และสัญญาณลบจาก Spot ETF?
ปัจจัยที่สองที่น่ากังวลคือการเคลื่อนย้าย Bitcoin จำนวน 20,000 เหรียญ (มูลค่าประมาณ 2.2 พันล้านดอลลาร์) จากกระเป๋าเงินส่วนตัวแบบ self-custody เข้าสู่กระดานเทรดคริปโตในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะโดยปกติแล้ว การเคลื่อนไหวลักษณะนี้มักเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงแรงขายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเตรียมที่จะขายเหรียญในตลาดนั่นเอง
ในขณะเดียวกัน กองทุน Spot Bitcoin ETF ก็เผชิญกับภาวะเงินทุนไหลออกติดต่อกันยาวนานที่สุดในรอบหลายเดือนถึง 6 วันทำการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนสถาบันที่ลดลง และอาจเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม ในอดีตภาวะเงินทุนไหลออกในลักษณะนี้เคยเป็นสัญญาณของจุดต่ำสุดของตลาดก่อนที่จะเกิดการฟื้นตัวครั้งใหญ่
สวนกระแสขาลง! สัญญาณ RSI และมุมมองนักวิเคราะห์ชี้ BTC อาจฟื้นตัว
แม้จะมีปัจจัยลบกดดัน แต่ก็ยังมีมุมมองในแง่ดีจากนักวิเคราะห์หลายรายที่เชื่อว่าตลาดกระทิงของ Bitcoin ยังไม่จบลง โดยนักวิเคราะห์อย่าง CRYPTOWZRD มองว่าหากราคาสามารถกลับตัวขึ้นจากระดับปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว ก็มีโอกาสที่จะพุ่งขึ้นไปทดสอบระดับ $120,000 และอาจทำจุดสูงสุดใหม่ที่ $131,000 ได้
นอกจากนี้ ดัชนี Relative Strength Index (RSI) ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค ก็กำลังส่งสัญญาณว่าการฟื้นตัวอาจอยู่ไม่ไกล ปัจจุบันค่า RSI ของ Bitcoin อยู่ที่ประมาณ 36 ซึ่งเข้าใกล้โซน ‘Oversold’ (ขายมากเกินไป) ที่ระดับ 30 ซึ่งโดยทั่วไปแล้วมักเป็นสัญญาณว่าสินทรัพย์นั้นอาจถึงจุดต่ำสุดและพร้อมที่จะดีดตัวกลับขึ้นมา

นักลงทุนจึงควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินว่าแรงกดดันในปัจจุบันจะเป็นเพียงการปรับฐานระยะสั้น หรือเป็นจุดเริ่มต้นของแนวโน้มขาลงที่ยาวนานกว่าเดิม