คิวถอน Ethereum ทำสถิติสูงสุด 2.4 ล้าน ETH กว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ เสี่ยงกระทบตลาดคริปโตระยะสั้น

ในสัปดาห์นี้ Ethereum กำลังเผชิญกับการถอนตัวจากฝั่งผู้ตรวจสอบเครือข่าย (Validator) ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยมีการขอถอนรวมกว่า 2.4 ล้าน ETH คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ รอคิวออกจากระบบ Proof-of-Stake แม้ตัวเลขนี้จะสร้างความกังวลด้านแรงขาย แต่ขณะเดียวกันก็มีสถาบันการเงินรายใหญ่และกองทุนเข้ามาเพิ่ม Validator อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดภาพที่ซับซ้อนของแรงกดดันและแรงหนุนในเวลาเดียวกัน
ข้อมูลจาก ValidatorQueue.com ระบุว่าคิวการถอน ETH ที่พุ่งสูงนี้ทำให้ระยะเวลารอคิวออกยาวนานกว่า 41 วัน 21 ชั่วโมง ขณะที่ Validator ยังคงมีบทบาทสำคัญต่อการเพิ่มบล็อกใหม่และตรวจสอบธุรกรรมบนเครือข่าย Ethereum ถือเป็นหัวใจหลักที่ทำให้ระบบเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นคง

แรงขายจากคิวถอน 1 หมื่นล้านดอลลาร์ อาจกดดันราคา Ethereum
ปริมาณ ETH ที่รอถอนมหาศาลสร้างความกังวลว่าอาจเกิดแรงขายออกมาบางส่วน เพราะในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ETH ปรับตัวขึ้นถึง 83% จากข้อมูลดัชนีราคาของ Cointelegraph อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าผู้ตรวจสอบทุกรายต้องการขายทำกำไรทั้งหมด แต่ความจริงที่ว่าคิวถอนมีขนาดใหญ่กว่าคิวฝากใหม่ถึง 5 เท่า (คิวฝากมีเพียง 490,000 ETH และต้องรอ 8 วัน 12 ชั่วโมง) ยิ่งตอกย้ำภาพแรงกดดันในระยะสั้น

แม้จะมีความเสี่ยงด้านแรงขาย แต่เครือข่าย Ethereum ยังคงมั่นคง ด้วยจำนวน Validator ที่ยังทำงานอยู่มากกว่า 1 ล้านราย และมี ETH ถูกนำไป Stake อยู่กว่า 35.6 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็น 29.4% ของอุปทานทั้งหมด นั่นหมายความว่าโครงสร้างของเครือข่ายยังแข็งแกร่ง และไม่ถูกสั่นคลอนโดยง่ายจากการถอนเพียงระลอกเดียว
บทบาทของสถาบันและกองทุน ETF หนุนเสถียรภาพ
ในขณะที่คิวถอนพุ่งสูง Grayscale กลับสร้างความประหลาดใจด้วยการ Stake ETH มูลค่า 150 ล้านดอลลาร์ในวันอังคารที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีการนำ ETH อีก 272,000 เหรียญ (คิดเป็น 1.21 พันล้านดอลลาร์) เข้าคิวรอ Stake เพิ่มเติม ทำให้บริษัทนี้กลายเป็นผู้ถือส่วนใหญ่ในฝั่งที่รอเปิดใช้งานการ Stake ใหม่
Iliya Kalchev นักวิเคราะห์จาก Nexo ระบุว่า ปัจจุบันสถาบันการเงินและบริษัทมหาชนถือครอง ETH รวมกันมากกว่า 10% ของอุปทานทั้งหมด อีกทั้งเพียงเดือนตุลาคมเดือนเดียว มีกระแสเงินไหลเข้าจาก ETF เกิน 620 ล้านดอลลาร์แล้ว นี่เป็นสัญญาณชัดเจนว่า Ethereum กำลังพัฒนาไปสู่การเป็นสินทรัพย์ที่สถาบันยอมรับ ใช้ทั้งในฐานะโครงสร้างพื้นฐานและหลักประกันทางการเงิน
ราคา ETH และทิศทางในอนาคต
แม้จะมีแรงกดดันจากการถอน แต่ราคาของ ETH ยังคงได้รับแรงหนุนจากกระแสสถาบัน อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวระยะสั้นก็ยังมีความผันผวน เช่น กรณีล่าสุดที่ ETH ร่วงเบา ๆ รับแรงขาย หลังลุยไม่ผ่าน $4,800 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดยังคงเปราะบางต่อแรงกดดันด้านเทคนิค
ในระยะยาว Ethereum ยังคงถูกจับตามองในฐานะหนึ่งใน เหรียญ Altcoin ชั้นนำ ที่ขับเคลื่อนทั้งนวัตกรรมด้าน DeFi และโครงสร้างพื้นฐานบล็อกเชน หากสามารถรักษาความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันและผู้พัฒนาเครือข่ายได้ ความเสี่ยงเรื่องแรงขายจาก Validator อาจถูกชดเชยด้วยแรงซื้อจากกองทุนและบริษัทมหาชน
Snorter Token โดดเด่นท่ามกลางความผันผวนของตลาด ETH
แรงขายมหาศาลในฝั่ง Ethereum ทำให้นักลงทุนเริ่มหาทางเลือกใหม่เพื่อกระจายความเสี่ยง หนึ่งในโปรเจกต์ที่กำลังได้รับความสนใจคือ Snorter Token (SNORT) ที่สามารถเชื่อม Utility เข้ากับความนิยมของ เหรียญมีมมาแรง ผ่าน Telegram Bot ที่เน้นความเร็ว ความปลอดภัย และต้นทุนค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า

ขณะที่นักวิเคราะห์ยังจับตาว่าแรงขายในตลาดอาจกดดันราคา ETH ระยะสั้น Snorter Token กลับมีจังหวะเติบโตในกระแส Uptober ด้วยยอด Presale กว่า 4.4 ล้านดอลลาร์ และฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์นักเทรด ทำให้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งใน เหรียญ Presale ที่น่าจับตา ที่มีโอกาสสร้างผลตอบแทนสูงเมื่อเปิดตัวในตลาด
หากคุณเตรียมเข้าลงทุนใน Snorter Token โปรดศึกษา บทวิเคราะห์/รีวิว Snorter Token หรือศึกษาวิธีซื้อ Snorter Token ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพื่อวางกลยุทธ์ที่เหมาะสม
แวะไปดูรายละเอียดจาก เว็บไซต์ทางการของ Snorter Token หรือพูดคุยกันต่อใน X และ ช่อง Telegram
ยอดระดมทุนล่าสุด
ราคาจะถูกปรับขึ้นอีกครั้งภายใน:
สรุป
ภาพรวมในปัจจุบันสะท้อนถึงความขัดแย้งของ Ethereum ระหว่างแรงขายจากการถอน Validator และแรงหนุนจากสถาบันการเงิน ความสมดุลนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางราคาในระยะกลางถึงยาว นักลงทุนจึงควรติดตามทั้งฝั่ง On-chain และการเคลื่อนไหวจาก ETF อย่างใกล้ชิด เพราะนี่อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มองหา เหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2025 ที่ยังคงมีศักยภาพเติบโตสูงท่ามกลางการปรับฐานของตลาด
เรามุ่งมั่นในการให้ความโปร่งใสกับผู้อ่าน เนื้อหาบางส่วนอาจมี Affiliate Links ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่น เพื่อความโปร่งใสสามารถอ่าน Affiliate Disclosure เพิ่มเติม