Bitstamp จับมือ LTP เพิ่มสภาพคล่อง & โซลูชันการเทรดสำหรับสถาบัน

ลูกค้าของ LTP จะสามารถเข้าถึง liquidity pools ของ Bitstamp ได้ง่ายขึ้น รวมถึงตัวเลือกการให้ยืมและเครดิตด้วย

Bitstamp ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเคอร์เรนซีและ LTP ซึ่งเป็นโบรกเกอร์สินทรัพย์ดิจิทัล ได้ร่วมมือกันเพื่อมอบโซลูชันการซื้อขายที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นให้กับลูกค้าสถาบัน พร้อมทั้งเพิ่มการเข้าถึง liquidity pool (พูลสภาพคล่อง) ที่มากกว่าเดิม

ความร่วมมือนี้จะช่วยให้ลูกค้าของ LTP สามารถเข้าถึง liquidity pools ขนาดใหญ่ของ Bitstamp ได้ง่ายดายยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้งานโซลูชันการให้กู้ยืมและเครดิตไลน์ด้วย

We’re partnering with @LTP_primebroker, a leading digital asset prime broker. 🤝 This collab brings Bitstamp’s liquid markets to more institutions while enhancing their execution and capital efficiency. Together, we’re elevating the digital asset trading ecosystem!

🔗… pic.twitter.com/SiCW094rKn

— Bitstamp (@Bitstamp) November 28, 2024

ตามข่าวประชาสัมพันธ์ที่แชร์กับ CryptoNews ระบุว่า LTP มีแผนที่จะมอบโครงสร้างพื้นฐานการเทรดระดับแนวหน้าให้กับนักลงทุนสถาบันในวงการคริปโต และความร่วมมือกับ Bitstamp นี้ถือเป็นส่วนสำคัญของแผนดังกล่าว

“ด้วยการเข้าถึง liquidity pools ของ Bitstamp และการใช้ประโยชน์จากฟังก์ชัน Post-Trade Settlement ลูกค้าของเราจะสามารถจัดการสินทรัพย์ได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” Jack Yang ผู้ก่อตั้งและ CEO ของ LTP กล่าว

นอกจากนี้ Bitstamp และ LTP จะเดินหน้าร่วมมือกันต่อไปและ “สำรวจโซลูชันใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับระบบนิเวศการเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล”

Bitstamp ได้รับใบอนุญาต MTF

Bitstamp ก่อตั้งขึ้นในปี 2011 ถือเป็นหนึ่งในศูนย์ซื้อขายคริปโตที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

ในเดือนตุลาคมปี 2024 นี้ Bitstamp ได้รับใบอนุญาต MiFID Multilateral Trading Facility (MTF) จากหน่วยงานตลาดหลักทรัพย์ของสโลวีเนีย ซึ่งภายใต้ใบอนุญาตนี้ Bitstamp ได้รับอนุญาตให้สามารถให้บริการอนุพันธ์คริปโต เช่น perpetual swaps และสามารถขยายการให้บริการไปสู่การซื้อขายหุ้น สินค้าโภคภัณฑ์ พันธบัตร และผลิตภัณฑ์ทางการเงินแบบโครงสร้างได้อีกด้วย

ในเดือนมิถุนายน Bitstamp ถูกเข้าซื้อกิจการโดย Robinhood ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคจากสหรัฐฯ ในข้อตกลงมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวคาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงต้นปี 2025 โดยมีเป้าหมายเพื่อขยายการให้บริการด้านคริปโตของ Robinhood และเพิ่มการเข้าถึงในระดับโลก โดยเฉพาะในเอเชีย สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป

We’re accelerating Robinhood Crypto’s worldwide expansion. Robinhood has officially entered into an agreement to acquire @Bitstamp, a global cryptocurrency exchange with customers across the EU, UK, US and Asia.

More details: https://t.co/wk3x02z0rU pic.twitter.com/aadKzhCxlx

— Robinhood (@RobinhoodApp) June 6, 2024

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ Robinhood ได้เผชิญกับความท้าทายในการขยายบริการด้านคริปโตของตน โดยในเดือนพฤษภาคม บริษัทได้รับ Wells notice จาก U.S. Securities and Exchange Commission (SEC) ซึ่งกล่าวหาว่ามีการละเมิดกฎระเบียบด้านหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคริปโตของบริษัท

Traditional Finance เริ่มยอมรับคริปโต

ความสนใจของนักลงทุนระดับสถาบันต่อสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดแบบดั้งเดิมและโบรกเกอร์จำนวนมากเริ่มเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต เพื่อตอบสนองความต้องการนี้

ตัวอย่างที่ชัดเจนของแนวโน้มนี้คือ Chicago Mercantile Exchange (CME) Group ที่ได้เปิดตัว Bitcoin Friday Futures (BFF) ในช่วงปลายเดือนกันยายน ซึ่ง BFF ทำสถิติวันแรกได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยจำนวนการซื้อขายมากกว่า 31,498 สัญญาใน 2 สัปดาห์ของการซื้อขาย

ในวันที่ 25 พฤศจิกายน MIAX Sapphire Options Exchange ได้ยื่นกฎที่ปรับปรุงใหม่เพื่อเริ่มการเปิดตัวออปชั่นบนกองทุน Bitcoin exchange-traded funds (ETFs) 3 ตัวได้แก่ Grayscale Bitcoin Trust (GBTC), Grayscale Bitcoin Mini Trust (BTC) และ Bitwise Bitcoin ETF (BITB)
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นหลังจากการดำเนินการจดทะเบียนที่คล้ายกันโดยแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนใหญ่ๆ เช่น Nasdaq, Cboe และ NYSE ซึ่งก็เริ่มขยายการซื้อขายออปชันสำหรับคริปโต ETFs เช่นกัน