วาฬ Bitcoin รุ่นเก่าขยับครั้งใหญ่! เทขายกว่า 400 BTC ไปซื้อ Ethereum

วาฬ Bitcoin (BTC) ที่หลับใหลมานานกว่า 7 ปี กลับมาเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ ทำเอาตลาดฮือฮาอีกครั้ง โดยได้ทำการเทขาย BTC จำนวนมหาศาลเพื่อสวอปเป็น Ethereum (ETH) บนแพลตฟอร์ม Hyperliquid
การกระทำดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการย้ายพอร์ตครั้งใหญ่ แต่ยังรวมถึงการเปิดสถานะ Long ที่มีมูลค่าเกือบ 300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งส่งสัญญาณถึงความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าต่ออนาคตของ ETH และจุดประกายการถกเถียงในหมู่นักลงทุนทั่วโลก
เจาะลึกการเคลื่อนไหว: จาก Bitcoin สู่ Ether
ข้อมูลจาก Onchain Lens เผยให้เห็นว่าวาฬ BTC รายนี้ ซึ่งเคยถอน BTC ออกจากกระดานเทรดไปเมื่อ 7 ปีก่อน ได้กลับมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวที่น่าจับตา โดยเริ่มต้นด้วยการฝาก 660 BTC เข้าไปยัง Decentralized Exchange อย่าง Hyperliquid และตามมาด้วยการฝากเพิ่มอีก 400 BTC คิดเป็นมูลค่ากว่า 45.5 ล้านดอลลาร์
สิ่งที่น่าสนใจคือ วาฬรายนี้ไม่ได้ถือ BTC ไว้เฉยๆ แต่ได้ทำการเทขาย BTC ทั้งหมดในตลาดสปอตเพื่อแลกเปลี่ยนเป็น ETH จากนั้นได้ทำการบริดจ์เหรียญ ETH ทั้งหมดกลับมายัง Ethereum mainnet ทำให้ปัจจุบันมียอดถือครองรวม 11,744 ETH หรือประมาณ 50.6 ล้านดอลลาร์เลยทีเดียว ซึ่งการย้ายสินทรัพย์จากพี่ใหญ่อย่าง Bitcoin ไปยัง Ethereum ในปริมาณมากขนาดนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ตลาดคริปโตต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
เดิมพันครั้งใหญ่บน Ethereum ด้วย Leverage มูลค่า $295M!
การเคลื่อนไหวไม่ได้หยุดอยู่แค่การสลับสินทรัพย์จาก BTC ไปเป็น ETH เท่านั้น แต่ข้อมูลเชิงลึกยังพบว่าวาฬรายนี้ได้ทำการเปิดสถานะ Long (เดิมพันว่าราคาจะขึ้น) บน Ethereum ด้วยมูลค่ามหาศาลถึง 68,130 ETH หรือคิดเป็นเงินกว่า 295 ล้านดอลลาร์ โดยใช้ Leverage ที่ระดับ 3x ถึง 10x ผ่านกระเป๋าเงินคริปโต 4 ใบที่แตกต่างกัน
การกระทำนี้บ่งชี้ว่าวาฬไม่ได้เพียงแค่เชื่อมั่นในพื้นฐานของ Ether ในระยะยาว แต่กำลังคาดหวังผลตอบแทนก้อนโตจากการเพิ่มขึ้นของราคา ETH ในระยะสั้นถึงกลางด้วย การใช้ Leverage สูงขนาดนี้แสดงถึงความมั่นใจอย่างยิ่งยวด และเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าผู้เล่นรายใหญ่บางส่วนกำลังมองเห็นศักยภาพการเติบโตของ ETH ที่อาจจะสูงกว่า BTC ในช่วงเวลานี้
มุมมองสวนทาง: ความผันผวนของ ETH และคำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความตื่นเต้นนี้ ตลาด ETH เองก็กำลังเผชิญกับความผันผวนอย่างหนัก โดยล่าสุดมีเงินไหลออกจาก ETF ของ Ether รวมกันกว่า 678 ล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 3 วัน ซึ่งกดดันราคาอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ Samson Mow ซีอีโอของ Jan3 และผู้สนับสนุน Bitcoin ตัวยง ได้ออกมาให้ความเห็นว่าการเคลื่อนไหวของวาฬอาจเป็นเพียงกลยุทธ์ระยะสั้นเท่านั้น
Mow เชื่อว่านักลงทุนรายใหญ่ที่ถือทั้ง BTC และ ETH มาตั้งแต่ยุคแรกๆ กำลังหมุนเวียนเงินจาก BTC มาปั่นราคา ETH ด้วยเรื่องเล่าใหม่ๆ และเมื่อราคาพุ่งสูงขึ้น พวกเขาก็จะเทขาย ETH เพื่อทำกำไรและนำเงินกลับไปสู่ BTC ในท้ายที่สุด ทิ้งให้นักลงทุนรายใหม่ต้องติดดอย
นอกจากนี้ Vitalik Buterin ก็ได้ออกมาเตือนว่าการใช้เลเวอเรจที่มากเกินไปใน ETH treasury จากสถาบันต่างๆ อาจสร้างปัญหาในระยะยาวได้
เขากล่าวว่า “ถ้าคุณปลุกผมขึ้นมาอีก 3 ปีข้างหน้าแล้วบอกว่าคลังเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้ ETH ล้มเหลว… สิ่งที่ผมคาดเดาได้ก็คือพวกเขาอาจเปลี่ยนมันให้กลายเป็นเกมที่ใช้เลเวอเรจมากเกินไป”
มุมมองนี้สร้างความกังขาว่าการย้ายพอร์ตครั้งนี้เป็นสัญญาณขาขึ้นของ ETH จริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงเกมการเงินของวาฬเท่านั้น ดังนั้น นักลงทุนจึงควรติดตามสถานการณ์ของทั้ง Bitcoin และ Ethereum อย่างใกล้ชิด เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบ