Solana มีลุ้น $500? หลังรางวัลโทเค็น $3B เสี่ยงถูกตัดออกจากซัพพลาย

Solana (SOL) กำลังลุกเป็นไฟ! หลังมีข้อเสนอใหม่จากนักพัฒนาที่อาจเปลี่ยนเกมของเหรียญ SOL ไปตลอดกาล ข้อเสนอที่ชื่อว่า SIMD-0411 นี้ มีเป้าหมายเพื่อ “เร่งลดอัตราเงินเฟ้อของเครือข่าย” ซึ่งหากผ่านการอนุมัติ อาจทำให้อุปทาน SOL ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคตหายไปเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
คำถามสำคัญคือ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้จะเป็นปัจจัยที่ส่งให้ราคา SOL พุ่งทะยานสู่เป้าหมายในฝันที่ 500 ดอลลาร์ได้จริงหรือไม่? บทความนี้จะพาไปเจาะลึกทุกแง่มุม
เปิดข้อเสนอ SIMD-0411: ลดอุปทาน SOL เกือบ 3 พันล้านดอลลาร์
เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้มีการเสนอเอกสารปรับปรุง “Solana Improvement Document (SIMD)” ที่มีรหัสว่า SIMD-0411 บน GitHub โดยมีสาระสำคัญคือการเร่งตารางการลดภาวะเงินเฟ้อ (disinflation) ของเครือข่ายให้เร็วขึ้นเป็น 2 เท่า จากเดิมที่อัตราผลตอบแทนจากการ Staking จะลดลงปีละ 15% ถูกเสนอให้เปลี่ยนเป็นลดลงปีละ 30%

การเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ SOL บรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อระยะยาวที่ 1.5% ได้เร็วขึ้นอย่างมาก จากเดิมที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2032 จะถูกเลื่อนเข้ามาเป็นช่วงต้นปี 2029 แทน
ผลที่ตามมาคือ จะมีเหรียญ SOL ถูกผลิตออกมาน้อยลงประมาณ 22.3 ล้านเหรียญในอีก 6 ปีข้างหน้า ซึ่งคิดเป็นมูลค่าเกือบ 3 พันล้านดอลลาร์ ณ ราคาปัจจุบัน การลดอุปทานใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดนี้เองที่ทำให้นักลงทุนคาดหวังว่ามันจะช่วยลดแรงเทขายและเป็นปัจจัยบวกต่อราคาเหรียญในระยะยาว
ดาบสองคมของ Solana: ผลกระทบต่อ Validator และความเสี่ยงที่ต้องจับตา
แม้ข้อเสนอนี้จะดูสวยหรูบนกระดาษ แต่ก็มาพร้อมกับผลกระทบที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะการลดอัตราเงินเฟ้อที่เร็วขึ้นหมายความว่าผลตอบแทนจากการ Staking ก็จะลดลงเร็วขึ้นเช่นกัน โดยคาดว่าผลตอบแทนที่ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 5% ต่อปี อาจลดลงเหลือประมาณ 2.4% ภายใน 3 ปีข้างหน้า

ประเด็นนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐศาสตร์ของ Validator โดยเฉพาะ “รายย่อย” ที่พึ่งพารายได้จาก Staking rewards เป็นหลักเพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน หากรายได้ลดลงเร็วเกินไป อาจบีบให้ Validator เหล่านี้ต้องปิดตัวลงหรือขึ้นค่าธรรมเนียม ซึ่งจะนำไปสู่การรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ผู้ให้บริการรายใหญ่เพียงไม่กี่ราย และอาจบั่นทอนความน่าเชื่อถือในด้านการกระจายอำนาจของเครือข่ายได้
อย่างไรก็ตาม ก็มี Validator บางส่วนที่ไม่ได้พึ่งพารายได้ส่วนนี้เพียงอย่างเดียว และล่าสุด defidevcorp (DFDV) ก็ได้ออกมาส่งสัญญาณสนับสนุนข้อเสนอนี้แล้ว
วิเคราะห์ราคา SOL และสัญญาณบวกจากตลาด ETF
ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดโดยรวม Solana ETF กลับมีสัญญาณที่น่าสนใจ โดยล่าสุด Bitwise SOL ETF สามารถดึงดูดเงินทุนไหลเข้าได้สูงถึง 39.5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการไหลเข้าครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัว ส่งผลให้ Solana ETF มีเงินทุนไหลเข้าต่อเนื่องกันถึง 20 วันติดต่อกัน และเฉพาะในวันที่ 24 พฤศจิกายนวันเดียว ตลาด ETF โดยรวมมีเงินไหลเข้าราว 58 ล้านดอลลาร์
ในเชิงเทคนิค ราคา SOL ได้สร้างฐานแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณ 124-127 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนปลอดภัยสำคัญหากราคาย่อตัวลงมาต่ำกว่า 130 ดอลลาร์ ขณะที่ฝั่งกระทิงกำลังจับตาการเบรกแนวต้านสำคัญที่ 140 ดอลลาร์อย่างมีนัยสำคัญ
หากทำได้สำเร็จและโมเมนตัมจาก ETF ยังคงอยู่ เป้าหมายถัดไปที่ 160 ดอลลาร์ก็มีความเป็นไปได้สูง นอกจากนี้ ปริมาณการซื้อขายยังพุ่งขึ้นราว 15% สู่ระดับ 5.33 พันล้านดอลลาร์ในวันล่าสุด ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของโมเมนตัมที่กำลังก่อตัว

ข้อเสนอนี้จะผ่านหรือไม่? ปัจจัยชี้ขาดอนาคตราคา SOL
อนาคตของข้อเสนอ SIMD-0411 และผลกระทบต่อราคา SOL ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียรายใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม Validator และผู้ให้บริการ Liquid Staking เพราะพวกเขาคือกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบด้านรายได้มากที่สุดจากการลดลงของ Staking rewards
การตัดสินใจครั้งนี้จึงเป็นการชั่งน้ำหนักระหว่างผลประโยชน์ระยะสั้น (รายได้ที่ลดลง) กับสุขภาพของระบบนิเวศเครือข่ายในระยะยาว (อุปทานที่ลดลงและมูลค่าเหรียญที่อาจเพิ่มขึ้น)
หากกลุ่มผู้มีอำนาจตัดสินใจเหล่านี้ยอมรับการแลกเปลี่ยนดังกล่าว ข้อเสนอนี้ก็มีแนวโน้มสูงที่จะผ่านการอนุมัติ แต่หากมีการต่อต้านอย่างหนัก ข้อเสนอก็อาจถูกปัดตกไป ซึ่งการตัดสินใจของพวกเขาจะเป็นตัวชี้ขาดทิศทางของเหรียญ SOL ในอนาคตอันใกล้นี้
Bitcoin Hyper: เมื่อความเร็วของ Solana มาผสานกับความปลอดภัยของ Bitcoin

ในขณะที่ SOL กำลังเผชิญกับการถกเถียงภายในเกี่ยวกับทิศทางของเครือข่าย มีอีกหนึ่งโปรเจกต์ที่กำลังสร้างโมเมนตัมขึ้นมาอย่างเงียบๆ นั่นคือ Bitcoin Hyper (HYPER) ซึ่งเป็นโปรเจกต์ Bitcoin Layer 2 ที่สร้างขึ้นโดยใช้ Solana Virtual Machine (SVM) ทำให้ได้เปรียบทั้งในด้านความเร็วและค่าธรรมเนียมที่ต่ำ ในขณะที่ยังคงใช้ความปลอดภัยของเครือข่าย Bitcoin เป็นหลัก
ดูเหมือนว่านักลงทุนจะให้ความสนใจกับแนวคิดนี้ไม่น้อย โดยโปรเจกต์สามารถระดมทุนในช่วง Presale ไปได้แล้วกว่า 28 ล้านดอลลาร์ พร้อมเสนอผลตอบแทนจากการ Staking สูงถึง 40% APY ซึ่งเป็นแรงจูงใจสำคัญสำหรับนักลงทุนที่มองหาเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน 2025 และต้องการถือครองเหรียญในระยะยาว