Bitcoin จะถึง $250K ทันสิ้นปีไหม? L2 ตัวแรงกวาดยอดขายไม่พัก

Bitcoin (BTC) ร่วงลงแตะ $113,000 ก่อนดีดกลับมาอยู่ที่ $116,000 หลังสหรัฐเผยตัวเลข ISM Services PMI ออกมาต่ำกว่าที่คาด
แม้ราคายังต่ำกว่าจุดสูงสุดราว 7.1% แต่ Tom Lee หุ้นส่วนจาก Fundstrat ยังคงมองบวกว่า BTC อาจพุ่งแตะ $200,000 ถึง $250,000 ได้ก่อนสิ้นปี
หนึ่งในปัจจัยหนุนสำคัญอาจเป็น Bitcoin Hyper (HYPER) เชน Layer-2 รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาให้เร็วที่สุดบนเครือข่ายบิทคอยน์โดยใช้เทคโนโลยี Solana Virtual Machine (SVM) ซึ่งนับเป็นการผสานกันครั้งแรกในวงการ
นักลงทุนกลุ่มแรกตอบรับอย่างดี ยอดระดมทุนล่าสุดทะลุ $7.2 ล้าน และอาจแตะ $7.5 ล้านในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ท่ามกลางกระแสฟื้นตัวที่ Layer-2 กำลังเป็นผู้นำ
ขณะนี้ราคาโทเค็นอยู่ที่ $0.01255 และเตรียมปรับขึ้นในรอบถัดไป
สัญญาณเดิม-เทคโนโลยีใหม่ ยังหนุนเป้าหมาย Bitcoin ที่ $250K
หลังตัวเลขจ้างงานถูกปรับลดเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ข้อมูล ISM Services PMI ล่าสุดก็ออกมาต่ำกว่าคาดอยู่ที่ 50.1 จากที่คาดไว้ 51.5 ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงถูกกดดัน โดยราคา BTC ร่วงแตะ $112,000 ก่อนฟื้นกลับมาที่ $116,000 ในช่วงเทรดเอเชียและออสเตรเลีย
แม้จะดีดกลับ แต่ BTC ยังไม่สามารถกลับไปทดสอบจุดสูงสุดใหม่ที่ $122,838 ซึ่งทำไว้เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมได้ โดยราคาส่วนใหญ่ยังแกว่งต่ำกว่า $120,000 ยกเว้นช่วงสั้น ๆ เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม
ด้าน Tom Lee จาก Fundstrat ยังคงยืนยันเป้าราคา $250,000 ภายในสิ้นปี ซึ่งเขาเพิ่งพูดถึงอีกครั้งในการสัมภาษณ์กับ Natalie Brunell บนพอดแคสต์ล่าสุด
Lee เชื่อว่า Bitcoin กำลังถูกยอมรับมากขึ้นในฐานะสินทรัพย์ทดแทนทองคำ ซึ่งหากแนวโน้มนี้เดินหน้าต่อไป อาจมีมูลค่าสูงถึง $1 ล้านในระยะยาว
เขายังชี้ถึงวัฏจักร 4 ปีของ Bitcoin ซึ่งเคยขับเคลื่อนโดยการ Halving แต่ตอนนี้กำลังพัฒนาไปพร้อมกับการเข้ามาของนักลงทุนสถาบันที่ถือสินทรัพย์ระยะยาว โดยมองว่าการเริ่มสะสมที่ระดับ $120,000 ยังอาจส่ง BTC แตะ $250,000 ได้ภายในสิ้นปี
แม้เป้าหมายนี้อาจจะดูทะเยอทะยาน แต่ประวัติของ BTC มักทำให้คนที่สงสัยต้องประหลาดใจ โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม–พฤศจิกายนของแต่ละปี ซึ่งมักเป็นช่วงเวลาที่ราคาแข็งแกร่งที่สุด
อีกปัจจัยที่อาจเร่งราคาให้เข้าใกล้เป้าคือการเปิดตัว Bitcoin Hyper ซึ่งจะทำให้ BTC สามารถเขียนโปรแกรมและประมวลผลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน
อีกปัจจัยที่ช่วยหนุนมูลค่า BTC คือโทเค็นที่ถูกล็อกไว้ในบริดจ์จะถูกนำออกจากอุปทานหมุนเวียน ส่งผลให้มี BTC เหลืออยู่ในตลาดน้อยลง ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันให้ราคาปรับขึ้นได้
ผู้ใช้งานสามารถดึง BTC กลับมาได้ตลอดเวลา โดยการเบิร์นเวอร์ชัน wrapped แล้วถอนเหรียญจริงที่ถูกล็อกไว้ออกมา
โดยรวมแล้ว BTC ถือเป็นหัวใจของระบบนิเวศ Bitcoin Hyper เพราะหากไม่มี BTC ถูกล็อกไว้ แอปต่าง ๆ บนเชนนี้จะไม่สามารถทำงานได้ ทั้งระบบที่ทำงานเร็วระดับ Solana ยังมีความปลอดภัยระดับ Bitcoin ด้วยการเชื่อมโยงผ่านบริดจ์ นี่จึงเป็น Layer-2 เพียงตัวเดียวที่ผสานจุดแข็งของทั้งสองโลกเข้าด้วยกันอย่างแท้จริง
ทุก dApp ทุกธุรกรรม และทุกการอัปเกรดบน Bitcoin Hyper ขับเคลื่อนด้วยโทเค็น $HYPER
HYPER คือโทเค็นของเครือข่าย Bitcoin Hyper สำหรับใช้จ่ายเป็นค่าธรรมเนียมธุรกรรม รันสมาร์ตคอนแทรกต์ และเชื่อมต่อกับ dApp ต่าง ๆ บนเลเยอร์ 2
แม้ว่า BTC แบบ wrapped จะใช้แลกเปลี่ยนภายใน dApp แต่ HYPER คือโทเค็นที่ใช้จ่ายค่าธรรมเนียม พร้อมทั้งเป็นโทเค็นสำหรับ staking และรับรางวัล ซึ่งเร็ว ๆ นี้จะมีฟีเจอร์โหวตในระบบ governance เพิ่มเข้ามา
นอกจากนี้ HYPER ยังเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงบริการแบบแบ่งระดับ เช่น dApp หรือโปรโตคอล DeFi บางตัวอาจต้องใช้ HYPER ในการเข้าใช้งานหรือปลดล็อกฟีเจอร์ขั้นสูง อีกส่วนจะถูกจัดสรรเป็นทุนพัฒนาเพื่อขยายแอปต่าง ๆ บนเชนนี้
ด้วยเหตุนี้ HYPER จึงเป็นโทเค็นหลักสำหรับผู้ใช้งานที่มองเห็นโอกาสจากระบบนิเวศนี้ และการเติบโตของมันอาจส่งผลโดยตรงต่อมูลค่าของ HYPER เอง
การกลับมาของโทเค็นเลเยอร์ 2 อย่าง Mantle (MNT), Optimism (OP), Arbitrum (ARB) และ Immutable (IMX) บ่งชี้ว่า ตลาดเริ่มหันมาสนใจโซลูชันสาย Scalability อีกครั้ง

เมื่อกระแสเงินทุนเริ่มหลั่งไหลกลับมาสู่เรื่องราวของ Layer-2 (L2) อีกครั้ง ความโดดเด่นของ Bitcoin Hyper ในฐานะ Layer-2 ของ Bitcoin ที่ขับเคลื่อนด้วย SVM เป็นรายแรก ได้สร้างโอกาสอันชัดเจนให้กับแพลตฟอร์มนี้ในการขับเคลื่อนการนำไปใช้งานในพื้นที่การขยายขีดความสามารถของ Bitcoin
Bitcoin Hyper อาจเปิดตัวภายในเดือนนี้?
แม้จะยังไม่มีไทม์ไลน์เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยยอดระดมทุนที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็มีแนวโน้มว่า Layer-2 ของ HYPER อาจเปิดตัวเร็วกว่าที่คาดไว้
คล้ายกับพรีเซลโปรเจกต์อื่น ๆ เมื่อแตะเป้าหมายแล้ว รอบขายมักปิดตัวอย่างรวดเร็ว โดยตอนนี้ยอดระดมทุนกว่า 7.4 ล้านดอลลาร์ก็เพียงพอที่จะพัฒนาเทคโนโลยีจนเสร็จ และหากเปิดใช้งาน mainnet ได้ทันในไตรมาสนี้ อาจส่งผลต่อราคา BTC ทันทีที่เข้าสู่ Q4
แม้ยังไม่มีการยืนยันวันเปิดตัว แต่รอบพรีเซลคือโอกาสสุดท้ายในการซื้อ HYPER ในราคาต่ำ เพราะหลังเปิดตัว L2 แล้ว จะมีขายเฉพาะบนกระดานเทรดคริปโต (crypto exchange) ซึ่งราคามักพุ่งสูงกว่านี้มาก
สามารถเข้าร่วมพรีเซลได้ที่เว็บไซต์ Bitcoin Hyper โดยรองรับการซื้อผ่าน SOL, ETH, USDT, USDC, BNB หรือแม้แต่บัตรเครดิต
แนะนำให้ใช้ Best Wallet เพื่อความสะดวกในการซื้อ จัดการ และรับโทเค็น HYPER ซึ่งตอนนี้ถูกแสดงไว้แล้วในหมวด Upcoming Tokens
ติดตามข่าวสารอัปเดตได้ทาง Telegram และ X
ไปยัง BTC Hyper