Bitcoin สร้างประวัติศาสตร์! มูลค่าที่แท้จริงทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์!

แม้ราคา Bitcoin จะอยู่ในช่วงพักฐานต่ำกว่าระดับจิตวิทยาที่ 120,000 ดอลลาร์ แต่ข้อมูล On-chain ล่าสุดจาก CryptoQuant ได้เปิดเผยข้อมูลสำคัญที่น่าจับตา นั่นคือ มูลค่าที่แท้จริงของเครือข่าย (Realised Cap) ของ Bitcoin ได้พุ่งทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อย่างเป็นทางการแล้ว

ตัวชี้วัดนี้สะท้อนให้เห็นถึงฐานทุนที่แข็งแกร่งและความเชื่อมั่นของนักลงทุนในระยะยาวต่อ Bitcoin ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงการเติบโตรอบใหม่ที่กำลังจะมาถึงสำหรับราชาแห่งคริปโตเคอร์เรนซีอย่าง Bitcoin

สำหรับนักลงทุนที่เล็งเห็นถึงศักยภาพและต้องการเริ่มต้นเข้าสู่ตลาด การศึกษาข้อมูลเบื้องต้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยสามารถศึกษา คู่มือการลงทุนบิทคอยน์สำหรับมือใหม่ เพื่อทำความเข้าใจขั้นตอนการซื้อขายได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย

เจาะลึก Realised Cap ของ Bitcoin สัญญาณความแข็งแกร่งที่ไม่เคยมีมาก่อน

นักวิเคราะห์ชั้นนำอย่าง Axel Adler ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของเหตุการณ์นี้ โดยอธิบายว่า Realised Cap เป็นตัวชี้วัดที่แตกต่างจาก Market Cap ทั่วไป Market Cap คำนวณจากราคาปัจจุบันคูณด้วยจำนวนเหรียญทั้งหมดในระบบ ซึ่งอาจผันผวนไปตามกระแสเก็งกำไรระยะสั้น แต่ Realised Cap จะคำนวณมูลค่าของ Bitcoin แต่ละเหรียญตามราคา ณ เวลาที่มีการเคลื่อนย้ายครั้งล่าสุด ทำให้มันเป็นตัวชี้วัดที่สะท้อนถึง “ต้นทุน” หรือ “เงินทุนที่แท้จริง” ที่ไหลเข้ามาและถูกถือครองไว้ในเครือข่าย Bitcoin อย่างแท้จริง

🎉Big milestone for Bitcoin.

The network’s Realised Cap has surpassed $1 trillion for the first time a new all‑time high.

Unlike simple market capitalization Realised Cap sums the value of each coin at the time of its last transaction, providing a more realistic picture of the… pic.twitter.com/lRTWmfJpBA

— Axel 💎🙌 Adler Jr (@AxelAdlerJr) July 18, 2025

การที่ Realised Cap ของ Bitcoin ทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์จึงเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าเม็ดเงินจำนวนมหาศาลได้ถูกลงทุนและถือครองโดยผู้เข้าร่วมตลาดอย่างจริงจัง ไม่ใช่แค่การเก็งกำไรชั่วคราว

Adler เปรียบเทียบให้เห็นภาพว่า “หากบริษัทหนึ่งทำเงินได้ 1 ดอลลาร์ทุกวินาที จะต้องใช้เวลาถึง 31,710 ปี จึงจะสะสมเงินได้ครบหนึ่งล้านล้านดอลลาร์” การเปรียบเทียบนี้แสดงให้เห็นถึงขนาดของมูลค่าที่ถูกจัดเก็บไว้ในระบบนิเวศของ Bitcoin ซึ่งบ่งบอกถึงความเชื่อมั่นและวุฒิภาวะที่เพิ่มขึ้นของสินทรัพย์ดิจิทัลตัวนี้ การเติบโตของฐานทุนในครั้งนี้จึงเป็นรากฐานที่มั่นคงสำหรับการเติบโตในอนาคต

การเคลื่อนไหวของเหรียญในเครือข่ายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ Realised Cap โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ วาฬ Bitcoin ยุคแรกโอนเหรียญจำนวนมหาศาล ซึ่งมักจะสร้างความเคลื่อนไหวให้กับตลาดและเป็นที่จับตามองของนักลงทุน

วิเคราะห์ราคา Bitcoin หลังสร้างประวัติศาสตร์

ในขณะที่ข้อมูลพื้นฐานแข็งแกร่งขึ้น ราคา Bitcoin (BTC) กำลังอยู่ในช่วงพักฐาน (Consolidation) หลังจากพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จากกราฟราย 12 ชั่วโมง จะเห็นว่าราคา Bitcoin เคลื่อนไหวในกรอบชัดเจน โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 123,230 ดอลลาร์ และแนวรับที่แข็งแกร่งบริเวณ 115,730 ดอลลาร์

การสร้างฐานในลักษณะนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีหลังจากการปรับตัวขึ้นแรง ซึ่งเปิดโอกาสให้ตลาดได้ย่อยข่าวและสะสมพลังเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการพุ่งขึ้นรอบต่อไป

แม้จะมีการย่อตัวลงมาบ้าง แต่ราคา Bitcoin ยังคงยืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) ที่สำคัญทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น 50 SMA (111,306 ดอลลาร์), 100 SMA (108,314 ดอลลาร์) และ 200 SMA (102,603 ดอลลาร์) ซึ่งทั้งหมดกำลังมีทิศทางในเชิงบวก

การเรียงตัวของเส้นค่าเฉลี่ยเช่นนี้บ่งบอกว่าโมเมนตัมขาขึ้นของ Bitcoin ยังคงแข็งแกร่ง ตราบใดที่ราคา BTC ยังสามารถรักษาระดับเหนือโซน 115,000–116,000 ดอลลาร์ได้ ฝั่งกระทิงก็ยังคงคุมตลาดอยู่ และหากสามารถทะลุแนวต้านที่ 123,230 ดอลลาร์ไปได้อย่างมั่นคง ก็มีโอกาสสูงที่จะได้เห็น Bitcoin ทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลอีกครั้ง

นอกจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคในระยะสั้นแล้ว การมองภาพรวมในระยะยาวยังเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักลงทุน ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญได้จัดทำ แนวโน้มราคา Bitcoin ในปี 2025-2030 เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนการลงทุน

ปัจจัยมหภาคหนุน Bitcoin: กฎระเบียบในสหรัฐฯ และความเชื่อมั่นนักลงทุน

นอกเหนือจากข้อมูล On-chain ที่แข็งแกร่งแล้ว ตลาด Bitcoin ยังได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าด้านกฎระเบียบในสหรัฐอเมริกา โดยล่าสุดสภาผู้แทนราษฎรได้ผ่านร่างกฎหมายคริปโตที่สำคัญ 3 ฉบับ รวมถึง GENIUS Act และ Clarity Act ซึ่งเป็นการสร้างความชัดเจนทางกฎหมายที่รอคอยกันมานานสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล ความชัดเจนนี้เป็นกุญแจสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนสถาบันให้เข้ามาในตลาดมากขึ้น เพราะช่วยลดความเสี่ยงด้านกฎระเบียบที่ไม่แน่นอน

นอกเหนือจากความชัดเจนด้านกฎระเบียบแล้ว พื้นฐานสำคัญที่ทำให้นักลงทุนสถาบันเชื่อมั่นคือความปลอดภัยของตัวเครือข่าย ซึ่งเป็นคำถามสำคัญว่า Bitcoin ปลอดภัยสำหรับการลงทุนหรือไม่ และเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง

ความเชื่อมั่นของนักลงทุนระยะยาว (Long-term holder) ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับความสนใจจากสถาบันการเงินที่มากขึ้น เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ Realised Cap ของ BTC เติบโตอย่างก้าวกระโดด นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่าวัฏจักรขาขึ้นของ Bitcoin ในรอบนี้ถูกสร้างขึ้นบนรากฐานที่แข็งแกร่งกว่าในอดีต ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่มั่นคงและสภาพแวดล้อมด้านกฎระเบียบที่ดีขึ้น ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้นของช่วงการเติบโตครั้งใหญ่อีกครั้งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้