ราคา Bitcoin ร่วงกราวถึง $89K! นักวิเคราะห์ชี้อาจจะดิ่งถึง $73K ได้

ตลาด Bitcoin เผชิญความผันผวนอย่างรุนแรงหลังเหตุการณ์แฮ็ก Bybit ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ส่งผลให้ราคาทรุดตัวจาก 99,500 ดอลลาร์ เหลือเพียง 89,500 ดอลลาร์ (ณ ช่วงเวลาที่เขียนบทความ) ซึ่งถือเป็นการลดลงกว่า 6.7% ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

การดิ่งลงของราคาในครั้งนี้ทำให้ Bitcoin ทะลุกรอบการซื้อขายสำคัญในรอบ 97 วันที่เคยอยู่ระหว่าง 91,000 ดอลลาร์ และ 102,000 ดอลลาร์ และหลุดต่ำกว่าเส้นแนวโน้มลงที่เป็นมาตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม

ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ ราคา Bitcoin อาจดิ่งถึง 73,000 ดอลลาร์

Ari Paul ผู้ร่วมก่อตั้ง BlockTower Capital คาดการณ์ว่าตลาดหุ้นจะเจอความผันผวนอีก 4-15 เดือน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์ดิจิทัล เขาชี้ว่าสาเหตุหลักมาจากนโยบายลดเงินเฟ้อของรัฐบาล โดยเฉพาะการขึ้นภาษีนำเข้าและการเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก

แม้ Crypto จะมีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นในระยะสั้น แต่ Paul เชื่อว่ามีจังหวะวัฏจักรที่แตกต่างกัน เขาเน้นย้ำว่า Bitcoin อาจจะทำตัวเหมือนการผสมผสานระหว่างทองคำและ S&P 500 โดยหากทองคำยังแข็งแกร่ง Bitcoin อาจจะทำผลงานได้ดีกว่าตลาดหุ้นที่กำลังขาดทุน แต่การปรับตัวลงไปที่ 73,000 ดอลลาร์ – 77,000 ดอลลาร์ ก็ยังคงเป็นไปได้สูง

My market take: equities in for 4-15 months of pain (I’ll guess 9 months) tied to deflationary government policies (tariffs and mass layoffs mostly). Then it’s a political question – does Trump admin “capitulate” and turn severely inflationary? In vast majority of similar cases…

— Ari Paul ⛓️ (@AriDavidPaul) February 25, 2025

Paul ยังคงมั่นใจว่าตลาดกระทิงของ Crypto ยังไม่จบ แต่วัฏจักรครั้งนี้อาจจะแตกต่างจากรอบก่อนหน้า โดยเป็นไปได้ว่าตลาด Crypto จะนำการเปลี่ยนแปลงเงินเฟ้อในภาพรวมเศรษฐกิจมหภาค ทำให้ตลาดกระทิงอาจจะกลับมาในอีก 6 เดือน ก่อนตลาดหุ้นที่อาจจะฟื้นตัวในอีก 9 เดือน

Arthur Hayes ผู้ก่อตั้ง BitMEX ก็ส่งสัญญาณเตือนในทำนองเดียวกัน โดยชี้ให้เห็นถึงกลไกสำคัญของกองทุน Bitcoin ETFs และการทำ Arbitrage ในตลาด Futures ว่าเป็นตัวเร่งแรงขาย

#Bitcoin goblin town incoming:
Lots of $IBIT holders are hedge funds that went long ETF short CME future to earn a yield greater than where they fund, short term US treasuries.

If that basis drops as $BTC falls, then these funds will sell $IBIT and buy back CME futures.

These… pic.twitter.com/3PskTxrBPR

— Arthur Hayes (@CryptoHayes) February 24, 2025

เขาอธิบายว่ากองทุนเฮดจ์ฟันด์จำนวนมากที่ถือ IBIT ได้ทำ Long ETF และ Short CME Future มาตลอด แต่เมื่อส่วนต่างราคาลดลงตามการลดลงของ BTC กองทุนเหล่านี้จะเทขาย IBIT และซื้อคืน CME Futures เพื่อทำกำไร ซึ่งจะยิ่งเพิ่มแรงกดดันให้ราคาลดลงไปถึงระดับ 70,000 ดอลลาร์

นักลงทุนรายใหญ่ยังคงเข้าซื้อ BTC ท่ามกลางตลาดขาลง

Strategy (อดีต MicroStrategy) นำโดย Michael Saylor ประกาศซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 20,365 BTC มูลค่าเกือบ 2 พันล้านดอลลาร์ ที่ราคาเฉลี่ย 97,514 ดอลลาร์ต่อเหรียญ การเข้าซื้อในช่วงตลาดผันผวนสะท้อนความเชื่อมั่นของบริษัทต่อแนวโน้มระยะยาวของ Bitcoin

Strategy has acquired 20,356 BTC for ~$1.99B at ~$97,514 per bitcoin and has achieved BTC Yield of 6.9% YTD 2025. As of 2/23/2025, we hodl 499,096 $BTC acquired for ~$33.1 billion at ~$66,357 per bitcoin. $MSTR https://t.co/mNWDaXRE7N

— Michael Saylor⚡️ (@saylor) February 24, 2025

การซื้อครั้งนี้ทำให้ Strategy มี Bitcoin รวม 499,096 เหรียญ มูลค่ารวม 33,100 พันล้านดอลลาร์ ที่ราคาเฉลี่ย 66,357 ดอลลาร์ต่อเหรียญ นับเป็นการเข้าซื้อตามแผน “21/21” ที่จะเพิ่มเงินลงทุนอีก 42,000 ล้านดอลลาร์ใน 3 ปีข้างหน้า โดยครึ่งหนึ่งจะมาจากการระดมทุนผ่านหุ้นทุนและอีกครึ่งจากหลักทรัพย์รายได้คงที่

Metaplanet บริษัทลงทุนสัญชาติญี่ปุ่นและรัฐบาล El Salvador ก็เพิ่มการถือครอง Bitcoin ก่อนตลาดร่วงเช่นกัน โดย Metaplanet ซื้อ 135 BTC มูลค่า 13 ล้านดอลลาร์ ที่ราคาเฉลี่ย $96,185 ทำให้มี Bitcoin รวม 2,225 BTC มูลค่ากว่า 205 ล้านดอลลาร์ ด้วยราคาซื้อเฉลี่ย 81,834 ดอลลาร์ต่อเหรียญ สร้างผลตอบแทน 12.7% นับตั้งแต่เริ่มถือ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ในคลังเมื่อเดือนเมษายน

ขณะที่ El Salvador ซื้อเพิ่ม 7 BTC ที่ราคาประมาณ 94,050 ดอลลาร์ต่อเหรียญ รวมเป็น 6,088 BTC มูลค่า 560.7 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการซื้อที่ใหญ่กว่ากลยุทธ์ปกติที่เคยซื้อวันละ 1 Bitcoin การซื้อเกิดขึ้นก่อนที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump จะยืนยันแผนเก็บภาษีนำเข้า 25% จากแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ตลาด Crypto ปรับตัวลง