Bitcoin จะพุ่งทะลุ $118K หรือไม่ ขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ต่อไปนี้

Bitcoin (BTC) เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยการปรับตัวลดลงต่ำกว่า $112,000 และหลังจากนั้นก็เคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ระหว่าง $112,000 ถึง $114,000 สร้างความอึดอัดให้กับนักลงทุนเป็นอย่างมาก ขณะนี้นักลงทุนจำนวนมากกำลังจับตารอทิศทางต่อไปของ BTC อย่างใกล้ชิด ท่ามกลางความระมัดระวังที่เพิ่มสูงขึ้นก่อนการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐอเมริกา 3 ฉบับในสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจเป็นตัวชี้ชะตาการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของราคา BTC ในอนาคตอันใกล้
วิเคราะห์สัญญาณจาก CryptoQuant: ตลาด BTC กำลังรออะไร?
บทวิเคราะห์จาก CryptoQuant ได้ฉายภาพความรู้สึกของนักลงทุนในปัจจุบันผ่าน 3 ตัวชี้วัดหลัก ได้แก่ CME futures, CME options และ Binance funding rates ซึ่งทั้งหมดบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า นักลงทุนกำลังอยู่ในโหมดระมัดระวังและเตรียมพร้อมสำหรับความผันผวน แต่ยังไม่เลือกทิศทางที่ชัดเจน
บนแพลตฟอร์ม Binance พบว่า Funding rates ได้ลดลงสู่ระดับที่เป็นกลางและติดลบเล็กน้อย ซึ่งสะท้อนว่าฝั่งที่มองว่าราคาจะขึ้น (Bullish) ไม่ได้วางเดิมพันด้วยความเสี่ยงสูงอีกต่อไป ข้อดีคือตลาดมีความเสี่ยงที่จะเกิดการล้างพอร์ต (Liquidation) ลดลง แต่ในทางกลับกัน หากไม่มีแรงซื้อที่แข็งแกร่ง ราคา BTC ก็ยากที่จะสร้างแรงผลักดันขาขึ้นได้หากไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามากระตุ้น

ส่องตลาดสถาบัน: CME Futures และ Options ชี้ทิศทาง Bitcoin
เมื่อพิจารณาที่ CME ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับนักลงทุนสถาบัน พบว่าปริมาณสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Open Interest) ของ CME futures ส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในช่วงวันหมดอายุเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่านักเทรดมืออาชีพกำลังทำการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) มากกว่าที่จะไล่ตามราคา และกำลังรอความชัดเจนก่อนที่จะตัดสินใจวางเดิมพันทิศทางราคา BTC
ในขณะเดียวกัน ข้อมูล Open Interest ของ CME options กลับบอกเล่าเรื่องราวที่แตกต่างออกไป ทีมวิจัยของ CryptoQuant ตั้งข้อสังเกตว่ามีการเพิ่มขึ้นของทั้งสัญญา Call (สิทธิ์ในการซื้อ) และ Put (สิทธิ์ในการขาย) ซึ่งหมายความว่านักลงทุนกำลังซื้อ “ความผันผวน” แทนที่จะเดิมพันข้างใดข้างหนึ่งอย่างชัดเจน ด้วยเหตุนี้ ราคา BTC จึงยังคงติดอยู่ในกรอบแคบๆ จนกว่าจะมีเหตุการณ์สำคัญเข้ามาทำลายสมดุลนี้

ปัจจัยชี้ชะตา: ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะพา BTC ไปทางไหน?
สิ่งที่ทำให้สถานการณ์ของ Bitcoin ในปัจจุบันเปราะบางยิ่งขึ้นคือช่วงเวลาสำคัญ โดยในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ หลายรายการ ในวันพฤหัสบดีที่ 25 กันยายนนี้ โดยจะมีการเปิดเผย:
- ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน (Jobless Claims)
- ตัวเลข GDP
- ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน (Durable Goods Orders)
ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะทำให้นักลงทุนเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังชะลอตัวหรือยังคงร้อนแรง
จากนั้นในวันศุกร์ นักลงทุนจะได้ทราบตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Core PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ให้ความสำคัญ ควบคู่ไปกับข้อมูลความเชื่อมั่นของผู้บริโภค
หากตัวเลขต่างๆ ชี้ว่าเงินเฟ้อแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ ราคา BTC อาจถูกลากลงไปสู่แนวรับที่ $107,000 แต่หากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังชะลอตัวและเงินเฟ้อเริ่มผ่อนคลาย ตลาดอาจคาดการณ์ว่า Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง และอาจผลักดันราคา BTC ให้พุ่งขึ้นไปสู่ระดับ $118,000 หรือสูงกว่านั้นได้
Bitcoin Hyper เหรียญ Layer-2 ที่พร้อมโตไปกับ BTC
Bitcoin Hyper ($HYPER) พัฒนาขึ้นเป็น Layer-2 บน Solana Virtual Machine (SVM) เพื่อยกระดับ BTC จากสินทรัพย์เก็บมูลค่าสู่เครือข่ายความเร็วสูง รองรับการใช้งาน DeFi, dApps และ Meme Culture ได้จริง โครงการระดมทุนได้กว่า $29.99M แล้ว

HYPER ถูกออกแบบมาเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของ BTC โดยสามารถประมวลผลธุรกรรมหลายหมื่นรายการต่อวินาที พร้อมค่าธรรมเนียมต่ำกว่า 0.001 ดอลลาร์ และยังคงความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี Zero-Knowledge Proof (ZKP)
แพลตฟอร์มช่วยให้ผู้ใช้งานสร้างโทเค็นบนเครือข่าย BTC ได้ง่ายผ่าน Meme Coin Factory และใช้ BTC เป็นหลักประกันในระบบ DeFi อีกทั้งยังโอนเงินจำนวนน้อยด้วยค่าธรรมเนียมต่ำ
HYPER ยังเชื่อมชุมชน Solana สู่ Bitcoin Layer-2 ผ่าน GameFi และ NFT ตั้งแต่วันแรก พร้อม Cross-Chain Bridge ทำให้สินทรัพย์จาก Ethereum และ Solana สามารถใช้งานบน Layer-2 ของ BTC ได้ทันที โดย BTC ที่ฝากจะถูกล็อกและออกเป็น Wrapped BTC (WBTC) ก่อนที่จะเผา WBTC เพื่อนำ BTC กลับสู่เครือข่ายหลัก
การระดมทุนและโครงสร้าง Presale ที่โปร่งใส เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมรอบแรกได้ราคาดี นอกจากนี้ HYPER ยังทำหน้าที่เป็นค่า Gas, Staking Reward และ Governance Token เพิ่มบทบาทผู้ถือเหรียญในการขับเคลื่อนระบบนิเวศ
ความสามารถในการเชื่อม BTC เข้ากับ Layer-2 ยังช่วยเพิ่มความต้องการใช้เหรียญจริง ทำให้ HYPER เป็นเหรียญที่น่าลงทุนอีกตัว
อย่าลืมอ่านบทวิเคราะห์ Bitcoin Hyper ฉบับเต็ม หรือศึกษาวิธีซื้อ HYPER ด้วยขั้นตอนง่ายๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลสำคัญก่อนตัดสินใจลงทุน
ตรวจสอบประกาศสำคัญได้จากเว็บไซต์ทางการของโปรเจกต์ และติดตามโซเชียลมีเดียผ่าน X หรือ Telegram