Bitcoin สะสมแรงซื้อ! ลุ้นฟื้นเหนือแนวรับ $110,000

ราคา Bitcoin (BTC) เผชิญแรงกดดันในช่วงต้นเดือนสิงหาคม โดยลดลงมาอยู่ที่ระดับ 114,337 ดอลลาร์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาดในวงกว้างที่ถูกกระตุ้นจากสงครามการค้าของ Trump อย่างไรก็ตาม ข้อมูล on-chain ล่าสุดกลับส่งสัญญาณบวกที่น่าสนใจ โดยชี้ว่าแรงเทขายจากนักลงทุนเริ่มแผ่วลง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคา Bitcoin (BTC) เข้าสู่ช่วงพักฐานและมีโอกาสฟื้นตัวได้ในไม่ช้า

แรงขายซาลง! ตัวชี้วัด On-Chain หนุนราคา BTC

ข้อมูลจาก Glassnode เผยให้เห็นว่าตัวชี้วัด ‘อุปทานที่อยู่ในกำไร’ (Supply in Profit) ของ Bitcoin (BTC) ได้ลดลงจากระดับ 95% มาอยู่ที่ 92.5% แล้ว ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี โดยในอดีต เมื่อตัวเลขนี้สูงเกิน 95% มักจะเป็นสัญญาณเตือนถึงจุดสูงสุดของตลาด (Market Top) ที่มาพร้อมกับแรงเทขายอย่างหนัก เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่มีกำไรและพร้อมที่จะเทขายทำกำไร การที่ตัวเลขนี้ลดลงจึงหมายความว่าแรงกดดันในการขายได้บรรเทาลงแล้ว

นอกจากนี้ ตัวชี้วัด ‘การเปลี่ยนแปลงสถานะสุทธิใน Exchange’ (Net Exchange Position Change) แม้จะเคยพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือน ซึ่งสะท้อนถึงกิจกรรมการขายที่เพิ่มขึ้น แต่แนวโน้มดังกล่าวก็เริ่มสูญเสียแรงส่งแล้วเช่นกัน สิ่งนี้บ่งชี้ว่านักลงทุนเริ่มลังเลที่จะเทขาย Bitcoin (BTC) เพิ่มเติม อาจเป็นเพราะรอความชัดเจนจากปัจจัยภายนอก เช่น การตัดสินใจเรื่องภาษีของ Trump การลดลงของแรงขายนี้อาจเปิดโอกาสให้ราคา Bitcoin (BTC) เข้าสู่ช่วงของการสะสมกำลังเพื่อฟื้นตัวต่อไป

นอกจากการวิเคราะห์ภาพรวมแล้ว การจับตาดูกิจกรรมของนักลงทุนรายใหญ่หรือ “วาฬ” ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยล่าสุดมีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ การเคลื่อนไหวของวาฬ Bitcoin บน Binance ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางราคาในระยะสั้น

BTC เคลื่อนไหวทรงตัว! แนวรับสำคัญ $110K ยังแข็งแกร่ง

ในทางเทคนิค ราคา Bitcoin (BTC) ปัจจุบันอยู่ที่ 114,337 ดอลลาร์ และกำลังเผชิญกับแรงกดดันขาลง โดยมีสัญญาณจากอินดิเคเตอร์ Parabolic SAR ที่อยู่เหนือแท่งเทียน อย่างไรก็ตาม เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน (50-day EMA) ยังคงทำหน้าที่เป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง ซึ่งบ่งชี้ว่าภาพรวมตลาดยังไม่ได้เป็นลบทั้งหมด ทำให้มีความเป็นไปได้สูงที่ราคา Bitcoin (BTC) จะเคลื่อนไหวในลักษณะของการพักฐาน (Consolidation) โดยพยายามสร้างเสถียรภาพเหนือระดับ 110,000 ดอลลาร์

หากราคา Bitcoin (BTC) สามารถทะลุแนวต้านที่ 115,000 ดอลลาร์ และยืนเหนือระดับนี้ได้อย่างมั่นคง เป้าหมายถัดไปที่เป็นไปได้คือการขึ้นไปทดสอบที่ 117,261 ดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากแรงกดดันจากปัจจัยภายนอกส่งผลให้ตลาดเป็นหมีและราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ 111,187 ดอลลาร์ ก็อาจจะร่วงลงไปสู่ระดับ 109,476 ดอลลาร์ได้ ซึ่งการหลุดระดับ 110,000 ดอลลาร์ จะเป็นการทำลายภาพรวมเชิงบวกในระยะสั้นของ Bitcoin (BTC) ทันที

สำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิคในระยะยาว นักลงทุนสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แนวโน้มราคา Bitcoin และการคาดการณ์รายปี เพื่อประกอบการตัดสินใจลงทุน

นอกจากนี้ยังมีบทวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญที่ชี้ให้เห็นถึง ปัจจัยเชิงมหภาคที่อาจผลักดันให้ Bitcoin กลับตัว ได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

แม้เศรษฐกิจผันผวน! BTC ยังมีแรงซื้อจากนักลงทุนรายใหญ่

นอกเหนือจากปัจจัยทางเทคนิคและข้อมูล on-chain แล้ว ปัจจัยมหภาคยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อราคา Bitcoin (BTC) โดยเฉพาะความไม่แน่นอนที่เกิดจากสงครามการค้าที่นำโดย Trump ซึ่งสร้างความลังเลใจให้กับนักลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก

แม้ว่าข้อมูลภายในเครือข่ายของ Bitcoin (BTC) จะแสดงสัญญาณการฟื้นตัว แต่ความกลัวในตลาดวงกว้างอาจจำกัดการเติบโตของราคาได้ การประกาศนโยบายภาษีหรือความตึงเครียดทางการค้าที่เพิ่มขึ้นอาจกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึง Bitcoin (BTC) เพื่อถือเงินสด

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความกังวลเรื่องสงครามการค้า ก็ยังมีปัจจัยบวกอื่นๆ ที่ช่วยหนุนตลาดเช่นกัน โดยล่าสุดมีสัญญาณการฟื้นตัวของ Bitcoin, Ethereum, และ XRP จากปัจจัยหนุนสำคัญ ทั้งจากภาครัฐและสถาบันการเงิน

หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนของการเข้าซื้อจากสถาบันคือ การที่ Metaplanet เดินหน้าสะสมบิทคอยน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนสถาบันในระยะยาว

ราคาพักตัว! BTC อาจฟื้นหากยืนเหนือ $110,000 ได้

โดยสรุป สถานการณ์ของ Bitcoin (BTC) ในขณะนี้อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ แม้ว่าแรงเทขายจากนักลงทุนจะเริ่มลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นสัญญาณบวกที่อาจนำไปสู่การพักฐานเพื่อสะสมกำลัง แต่ปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกและสัญญาณทางเทคนิคที่ยังผสมผสานกันอยู่ทำให้นักลงทุนต้องใช้ความระมัดระวัง แนวรับสำคัญที่ต้องจับตาคือ 110,000 ดอลลาร์ หาก Bitcoin (BTC) สามารถรักษาระดับนี้ไว้ได้ ก็ยังมีโอกาสที่จะฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไป

สำหรับนักลงทุนที่มองเห็นโอกาสในช่วงที่ตลาดยังคงพักฐาน การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ การเริ่มต้นลงทุนใน Bitcoin ด้วยเงินจำนวนไม่มาก ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในการสร้างพอร์ตการลงทุน