รีวิว Crypto.com ปี 2025! ฟีเจอร์แน่น ปลอดภัย พร้อมใช้งานทั่วโลก

Somchai Wang
| 38 ใช้เวลาอ่าน (โดยเฉลี่ย)
คำเตือน: คริปโตเป็นสินทรัพย์ประเภทความเสี่ยงสูง บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่ได้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อเป็นการชี้ชวนให้มีการลงทุน การใช้งานเว็บไซต์นี้แสดงว่าคุณยอมรับในข้อกำหนดและเงื่อนไขของเรา เราอาจใช้ลิงค์พันธมิตรภายในเนื้อหาของเราและรับค่าคอมมิชชัน

ในการรีวิว Crypto.com นี้ เราจะพาคุณไปทำความเข้าใจทุกประเด็นสำคัญเพื่อช่วยในการตัดสินใจอย่างมีข้อมูล แพลตฟอร์มระดับ Tier-One แห่งนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลทั้งในสหรัฐฯ และอีกหลายประเทศทั่วโลก พร้อมนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านสินทรัพย์ดิจิทัลที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาย Spot, ฟิวเจอร์สแบบ Perpetual และบัญชีออมทรัพย์แบบ DeFi

เราได้ทดลองใช้งานทั้งบนแพลตฟอร์มเดสก์ท็อปและแอปพลิเคชันมือถือของ Crypto.com เพื่อรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นกลาง โดยคุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประสบการณ์ใช้งานจริงของแพลตฟอร์มนี้ รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลที่รองรับ ค่าธรรมเนียมในการลงทุน และระบบรักษาความปลอดภัยที่มีอยู่

ข้อดีและข้อเสียของ Crypto.com


Crypto.com เป็นแพลตฟอร์มที่มีทั้งจุดแข็งและข้อจำกัดที่ผู้ใช้งานควรพิจารณาก่อนตัดสินใจใช้งาน จุดเด่นสำคัญที่สุดคือความแข็งแกร่งด้านการกำกับดูแล โดยบริษัทได้รับใบอนุญาตในหลายรัฐของสหรัฐฯ และอีกกว่า 10 ประเทศในยุโรป เอเชีย และตะวันออกกลาง ซึ่งสะท้อนถึงมาตรฐานการดำเนินงานที่น่าเชื่อถือ

ในด้านความปลอดภัย แพลตฟอร์มนี้ใช้มาตรการที่เข้มงวด ทั้งระบบตรวจสอบ Proof of Reserves, การยืนยันตัวตนแบบหลายชั้น (Multi-Factor Authentication) และการจัดเก็บสินทรัพย์แบบ Cold Storage นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่การซื้อขายในตลาด Spot, บัญชี Margin ไปจนถึงอนุพันธ์ เช่น Futures และ Options

อย่างไรก็ตามจากการ รีวิว Crypto.com เราก็ยังพบข้อเสียที่ควรพิจารณา โดยเฉพาะค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานกลุ่มเริ่มต้นที่มักใช้ Market Order และมีปริมาณการซื้อขายต่อเดือนไม่มาก แม้จะมีข้อเสนอค่าธรรมเนียมพิเศษและอัตราผลตอบแทน (APY) ของ DeFi ที่สูงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเหรียญ CRO แต่ก็ยังไม่สามารถจูงใจนักลงทุนได้มากนัก นอกจากนี้ ผู้ใช้งานผ่านแพลตฟอร์มเดสก์ท็อปอาจรู้สึกไม่สะดวก เนื่องจากบางฟีเจอร์ เช่น การซื้อเหรียญด้วยบัตรเครดิต มีให้บริการเฉพาะในแอปพลิเคชันเท่านั้น

เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียจากรีวิว Crypto.com ของเรา

ข้อดี

  • ได้รับการควบคุมอย่างเข้มงวดพร้อมใบอนุญาตจาก U.S. และนานาชาติหลายแห่ง
  • มีฟีเจอร์ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง, การรับรอง, และการตรวจสอบทุนสำรองสินทรัพย์ (Audited Asset Reserves)
  • รองรับเหรียญและโทเค็นมากกว่า 400 รายการ
  • มีตลาดหลากหลาย เช่น Spot Trading, Margin Trading, Futures, Perpetuals และ Options
  • การฝากเงินผ่านธนาคารในประเทศ (เช่น ACH) ไม่มีค่าธรรมเนียม
  • ได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนคริปโตกว่า 140 ล้านคน

ข้อเสีย

  • ค่าคอมมิชชั่นการซื้อขายสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม
  • ฟีเจอร์บางอย่างมีให้บริการเฉพาะในแอพมือถือเท่านั้น
  • เทรดเดอร์จากบางประเทศอาจเผชิญข้อจำกัดด้านผลิตภัณฑ์
  • ลูกค้าทุกคนต้องทำ KYC ให้เสร็จสิ้นก่อนทำการซื้อขาย
  • ผู้ใช้จำเป็นต้องมีโทเค็น CRO เพื่อลดค่าธรรมเนียมและเพิ่มผลตอบแทนจาก DeFi
ไปยัง Crypto.com

Crypto.com คืออะไร?


Crypto.com คือแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี (Exchange) ที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดยมีจุดยืนชัดเจนในการให้ความสำคัญกับกฎระเบียบและความปลอดภัย ปัจจุบันให้บริการในกว่า 90 ประเทศทั่วโลก และมีผู้ใช้งานมากกว่า 140 ล้านบัญชี อีกทั้งยังได้รับใบอนุญาตในการดำเนินงานจากหน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐฯ ยุโรป เอเชีย และภูมิภาคอื่นๆ จึงจัดอยู่ในกลุ่ม Exchange ระดับ Tier-One ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ทั้งในด้านกรอบกำกับดูแล ระบบรักษาความปลอดภัย และปริมาณการซื้อขายรายวันที่อยู่ในระดับสูง

หน้าแรกของเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล 15-12-2025

แพลตฟอร์มนี้รองรับการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลมากกว่า 400 รายการ รวมถึงเเหรียญ Altcoins ที่ดีที่สุดอย่าง Ethereum (ETH), Solana (SOL) และ Cardano (ADA) โดยมีบริการครอบคลุมทั้งตลาด Spot และผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ เช่น Perpetual Futures และ Strike Options นอกจากนี้ ผู้ใช้งานยังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ด้านการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) เช่น On-chain Token Swaps, บริการสร้างผลตอบแทนจากสินทรัพย์ดิจิทัล และบัตรเครดิตคริปโตที่ได้รับการสนับสนุนโดยเครือข่าย Visa

Crypto.com มีระบบนิเวศที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้งานที่มีประสบการณ์ จึงอาจดูซับซ้อนสำหรับนักลงทุนมือใหม่ อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มก็มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้เริ่มต้นสามารถซื้อเหรียญด้วยวิธีชำระเงินแบบดั้งเดิม พร้อมบริหารจัดการพอร์ตการลงทุนได้ง่ายผ่านแอป Crypto.com

ไปยัง Crypto.com

ภาพรวมคะแนน Crypto.com จากการรีวิว:


หมวดหมู่ คะแนนของเรา (เต็ม 5) ความคิดเห็น
เหรียญที่รองรับ 4.5 รองรับคริปโตกว่า 400 รายการ ครอบคลุมทั้งเหรียญหลักและ Altcoin ยอดนิยม
ผลิตภัณฑ์การเทรด 4.5 มีผลิตภัณฑ์ให้เลือกหลากหลาย ทั้ง Spot, Perpetual Futures, Strike Options และ Crypto Baskets
ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรม 3.0 ค่าธรรมเนียม Spot สูงสุดอยู่ที่ 0.5% ส่วนผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจจะมีค่าคอมมิชชันตามโครงสร้าง Maker-Taker
ประสบการณ์ผู้ใช้ 4.0 ออกแบบมาเพื่อรองรับนักเทรดขั้นสูงเป็นหลัก ฟีเจอร์ที่ซับซ้อนอาจไม่เป็นมิตรกับผู้เริ่มต้น
ฟีเจอร์ 5.0 โดดเด่นด้วยฟีเจอร์ครบครัน ทั้งเลเวอเรจสูง, DeFi, บัตรคริปโต, บอทเทรด, การเดิมพันกีฬา และตลาดทายผล
การ Staking และรางวัล 4.0 รองรับบัญชีออมทรัพย์กว่า 21 สกุลเงิน โดยอัตราดอกเบี้ยสูงสุดต้องใช้ CRO พร้อมรองรับการ Staking แบบ On-chain
ความปลอดภัย 5.0 อยู่ภายใต้การกำกับดูแลในหลายประเทศ มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยแน่นหนา และมีการตรวจสอบ Proof of Reserves อย่างโปร่งใส
ชื่อเสียง 4.0 คะแนนรีวิว Crypto.com บน TrustPilot และ Reddit ค่อนข้างต่ำ แต่ได้รับคะแนนสูงจาก Google Play และ App Store ด้วยยอดดาวน์โหลดระดับล้าน
บริการลูกค้า 4.0 ให้บริการ 24 ชั่วโมงทุกวัน ผ่านช่องทางแชทในแอปและอีเมล แม้บางรายจะรายงานว่าการตอบกลับล่าช้า

Crypto.com ปลอดภัยไหม?


จากการ รีวิว Crypto.com เราพบว่า Crypto.com เป็นหนึ่งใน Exchange คริปโตที่ดีที่สุด ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงที่สุดในอุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างการกำกับดูแลที่แข็งแกร่ง แตกต่างจากแพลตฟอร์มคู่แข่งหลายราย ซึ่งช่วยให้ Crypto.com ดำเนินการได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายในตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้ยังใช้มาตรการความปลอดภัยในระดับสถาบันเพื่อปกป้องเงินทุนของผู้ใช้งาน และมีระบบ Proof of Reserves ที่ผ่านการตรวจสอบเพื่อสร้างความโปร่งใสเพิ่มเติม

ในส่วนนี้ของรีวิว Crypto.com เราจะเจาะลึกมาตรการด้านความปลอดภัยและการกำกับดูแลของแพลตฟอร์มนี้อย่างละเอียด

การกำกับดูแล


Crypto.com ให้บริการในกว่า 90 เขตอำนาจศาลทั่วโลก และได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแลในหลายประเทศ โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่บริษัทสามารถให้บริการในเกือบทุกรัฐ ยกเว้นนิวยอร์ก นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในไม่กี่แพลตฟอร์มที่ได้รับใบอนุญาตจาก Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ซึ่งเปิดทางให้ลูกค้ารายย่อยในสหรัฐฯ สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ Perpetuals และ Options ภายใต้กรอบที่มีการควบคุม

ในยุโรป แพลตฟอร์มได้รับใบอนุญาตจากประเทศสำคัญในเขตเศรษฐกิจยุโรป ได้แก่ สหราชอาณาจักร ไอร์แลนด์ อิตาลี และไซปรัส รวมถึงการกำกับดูแลในภูมิภาคอื่นๆ ทั่วเอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกาใต้

ด้วยกรอบกำกับดูแลที่เข้มงวด ผู้ใช้ทุกคนจะต้องผ่านขั้นตอนยืนยันตัวตน (KYC) โดยต้องแสดงข้อมูลส่วนตัวและบัตรประจำตัวที่ออกโดยรัฐบาล เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดด้านความโปร่งใสและความปลอดภัย

การรับรอง


Crypto.com ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลด้านความปลอดภัยข้อมูล ซึ่งตอกย้ำสถานะในฐานะ Exchange ที่น่าเชื่อถือ ได้แก่:

  • ISO 22301:2019 ระบบบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ
  • ISO/IEC 27701:2019 และ ISO/IEC 27001:2022 มาตรฐานด้านการจัดการความปลอดภัยของข้อมูล
  • SOC 2 Type II และ NIST Tier 4 ที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของระบบความปลอดภัยทางไซเบอร์ในระดับองค์กร

Proof of Reserves (การพิสูจน์เงินสำรอง)


จากการรีวิว Crypto.com เป็นหนึ่งใน Exchange ชั้นนำที่ให้บริการระบบ Proof of Reserves ซึ่งผ่านการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ โดยใช้เทคโนโลยี Merkle Tree ที่เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองว่าแพลตฟอร์มถือครองเงินสำรองที่เพียงพอจริง

หน้าแรกของเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล 15-12-2025

รายงานล่าสุดเปิดเผยว่า Crypto.com ถือครองสินทรัพย์สำรองในสัดส่วนระหว่าง 101% ถึง 106% ของยอดเงินฝากสำหรับคริปโตเคอร์เรนซีที่ดีที่สุด เช่น Bitcoin, Ethereum, USDT และ USDC ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงความมั่นคงทางการเงินของแพลตฟอร์ม

มาตรการรักษาความปลอดภัย


เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ Crypto.com เก็บคริปโตของลูกค้าไว้ใน Cold Wallets เป็นส่วนใหญ่ โดยใช้เพียงส่วนน้อยเท่านั้นใน Hot Wallets เพื่อรองรับความต้องการสภาพคล่องและการถอนเงินของผู้ใช้งาน

ผู้ใช้สามารถเพิ่มชั้นความปลอดภัยให้บัญชีด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น รหัสผ่าน, การยืนยันตัวตนด้วยลายนิ้วมือหรือใบหน้า (Biometrics), และการยืนยันตัวตนแบบสองหรือหลายปัจจัย (2FA/MFA) อีกทั้งยังสามารถเปิดใช้งาน Address Whitelisting เพื่อกำหนดที่อยู่สำหรับการถอนเงินล่วงหน้า โดยธุรกรรมจะได้รับอนุมัติเฉพาะเมื่อส่งไปยังที่อยู่ที่กำหนดไว้เท่านั้น

Crypto.com เคยถูกแฮกไหม?


แม้ Crypto.com จะมีมาตรการความปลอดภัยระดับสูง แต่ก็เคยเกิดเหตุการณ์การแฮกในปี 2022 เมื่อแฮกเกอร์สามารถเจาะระบบผ่านการยืนยันตัวตนแบบ 2FA และถอนเงินจากบัญชีลูกค้าคิดเป็นมูลค่ารวมประมาณ 34 ล้านดอลลาร์

เหตุการณ์ดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าไม่มี Exchange ใดปลอดภัย 100% อย่างไรก็ตาม การตอบสนองของ Crypto.com ได้รับเสียงชื่นชมจากชุมชนคริปโตอย่างกว้างขวาง โดยบริษัทได้ชดเชยความเสียหายให้ลูกค้าทั้งหมดอย่างรวดเร็ว และดำเนินการอัปเกรดระบบความปลอดภัยเพิ่มเติมหลายด้าน ได้แก่ การยืนยันตัวตนแบบหลายปัจจัย (MFA) ที่มีความปลอดภัยยิ่งขึ้น, การบังคับใช้ Whitelisting พร้อมระยะเวลารอ 24 ชั่วโมงก่อนใช้งาน, การตรวจสอบจากบุคคลที่สาม และการทดสอบ Stress Test เพื่อประเมินความแข็งแกร่งของระบบ

เหรียญและคู่เทรดที่ Crypto.com รองรับ


Crypto.com รองรับการซื้อขายคริปโตมากกว่า 400 สกุล ทำให้แพลตฟอร์มนี้กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างพอร์ตการลงทุนที่หลากหลาย พร้อมเข้าถึงเทรนด์สำคัญต่างๆ ในตลาดคริปโตอย่างครบถ้วน หากคุณต้องการติดตามเหรียญใหม่ที่กำลังจะถูกลิสต์บนแพลตฟอร์ม Crypto.com ก็สามารถอ่านเพิ่มเติมจากคู่มือเหรียญใหม่ของเรา เพื่อค้นหาโอกาสลงทุนก่อนใคร

แพลตฟอร์มนี้มีเหรียญชั้นนำตามมูลค่าตลาดให้เลือกมากมาย เช่น Bitcoin, Ethereum, Solana, BNB, Stellar และ Cardano อย่างไรก็ตาม ยังมีเหรียญบางสกุลที่ยังไม่รองรับ เช่น UNUS SED LEO, Tron และ Monero ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับนักลงทุนบางกลุ่ม

นอกจากนี้ Crypto.com ยังเปิดตลาดให้กับเหรียญมีมที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็น Shiba Inu, Bonk, Pepe, SPX6900 และ Floki ซึ่งตอบโจทย์นักเทรดสายมีมได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะยังไม่มีการลิสต์เหรียญอย่าง Non-Playable Coin, cat in a dog's world และ Baby Doge Coin แต่ก็นับเป็นเรื่องปกติที่แพลตฟอร์มจะไม่สามารถรองรับเหรียญมีมได้ครบทุกสกุล

หน้าแรกของเว็บไซต์ crypto.com ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล 15-12-2025

จากการรีวิว Crypto.com ของเรา ยังพบว่า Crypto.com มีเหรียญในกลุ่ม AI (Artificial Intelligence) ให้เลือกหลากหลายเช่นกัน เช่น Render Token, Bittensor, NEAR Protocol และ Internet Computer รวมถึงโทเคนกลุ่ม AI Agent ที่ครอบคลุมตั้งแต่ Artificial Superintelligence Alliance, Virtual Protocol ไปจนถึง ai16z และ Freysa

ในส่วนของคู่เทรด Crypto.com มีให้เลือกทั้งรูปแบบ Crypto-to-Fiat (คริปโตเทียบสกุลเงินปกติ) และ Crypto-to-Crypto (คริปโตเทียบคริปโต) เพื่อรองรับการใช้งานในแต่ละภูมิภาค ผู้ใช้งานสามารถเทรดเหรียญหลักกับสกุลเงินอย่างดอลลาร์สหรัฐและยูโร รวมถึงคู่เทรดยอดนิยมที่อิงกับ Stablecoin เช่น BTC/USDT และ XRP/USDT

แพลตฟอร์มยังรองรับหลากหลายกลยุทธ์ในการลงทุนและเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งเราจะมาพูดถึงเพิ่มเติมในหัวข้อถัดไปของรีวิว Crypto.com นี้

ฟีเจอร์สำหรับการเทรดบน Crypto.com


Crypto.com เปิดโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงคริปโตด้วยวิธีดั้งเดิมผ่านคำสั่งซื้อขายแบบ Spot รวมถึงการใช้เงินเฟียตในการเริ่มต้นลงทุน สำหรับผู้ใช้ที่มีประสบการณ์มากขึ้น ยังสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ เช่น Futures และ Options ที่เหมาะกับกลยุทธ์การลงทุนที่ซับซ้อนและการใช้เลเวอเรจ

ในหัวข้อนี้ เราจะสำรวจตลาดการเทรดที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน Crypto.com

1. การซื้อทันที (Instant Buy)

หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการซื้อคริปโตบน Crypto.com คือฟีเจอร์ Instant Buy ซึ่งให้บริการเฉพาะในแอปพลิเคชันสำหรับ iOS และ Android โดยผู้ใช้สามารถซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลได้ทันทีผ่านช่องทางการชำระเงินในประเทศ

วิธีชำระเงินที่รองรับ ได้แก่ บัตรเดบิต/เครดิตจาก Visa และ MasterCard รวมถึงการโอนเงินผ่านธนาคาร เช่น ACH, SEPA, NPP และ FPS

ฟีเจอร์นี้ทำหน้าที่คล้ายบริการนายหน้า (Brokerage) มากกว่าตลาดซื้อขายแบบทั่วไป เพราะผู้ใช้ซื้อสินทรัพย์โดยตรงจากคลังของ Crypto.com ไม่ใช่จากผู้ใช้งานรายอื่นในตลาด

2. การเทรดแบบ Spot และ Margin

นักเทรดส่วนใหญ่บนแพลตฟอร์มใช้การเทรดแบบ Spot ซึ่งคำสั่งซื้อและขายจะถูกจับคู่และดำเนินการทันที Crypto.com มีคู่เทรดให้เลือกหลากหลาย พร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ราคา เช่น กราฟแบบปรับแต่งได้ และอินดิเคเตอร์เชิงเทคนิค โดยรองรับคำสั่งประเภทต่างๆ เช่น Limit, Market, Take Profit, Stop Loss และ One-Cancels-the-Other (OCO)

ผู้ใช้ที่ผ่านเกณฑ์สามารถเทรดแบบ Margin ซึ่งเปิดโอกาสให้ซื้อคริปโตด้วยเลเวอเรจ โดยใช้เงินทุนที่ยืมจาก Exchange เพื่อเพิ่มขนาดของโพสิชัน โดยเริ่มจาก Margin ขั้นต่ำที่ 20% หรือเทียบเท่าเลเวอเรจ 5 เท่า

แพลตฟอร์มคริปโตที่ให้บริการการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล 15-12-2025

อย่างไรก็ตาม Margin Trading รองรับเฉพาะสินทรัพย์ขนาดใหญ่ (Large-cap) บางรายการเท่านั้น และผู้ใช้จะไม่สามารถถอนเหรียญที่ซื้อด้วย Margin ออกจากแพลตฟอร์มได้ ทั้งนี้ควรแยกความแตกต่างระหว่าง Margin Trading และ Perpetual Futures เนื่องจากแบบแรกคือการซื้อเหรียญจริง ขณะที่แบบหลังคือการซื้อขายสัญญาอนุพันธ์

3. ฟิวเจอร์ส (Futures)

Crypto.com ให้บริการ Perpetual Futures สำหรับผู้ใช้ในบางประเทศ โดยมีตลาดหลายสิบรายการให้เลือก ทั้งเหรียญหลักอย่าง Ethereum, Polkadot รวมถึงเหรียญมีมอย่าง Floki, Pepe และ Degen

ผู้ใช้งานสามารถเลือกเปิดสถานะทั้งฝั่ง Long และ Short โดย Leverage สูงสุดอยู่ที่ 50 เท่าสำหรับตลาดที่มีสภาพคล่องสูง หมายความว่าการเปิดโพสิชันด้วยเงิน $100 จะสามารถขยายสถานะให้เทียบเท่า $5,000 ได้

สำหรับผู้ที่ต้องการ Leverage สูงกว่านี้ ยังสามารถพิจารณาแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์สชั้นนำอื่น เช่น CoinFutures ที่รองรับสูงสุดถึง 1,000x หรือ MEXC ที่มีถึง 500x

นอกจากนี้ Crypto.com ยังให้บริการ Delivery Futures สำหรับ Bitcoin และ Ethereum โดยมีวันครบกำหนดสัญญาหลายรูปแบบ ได้แก่ รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายไตรมาส

4. ออปชัน (Options)

ลูกค้าในสหรัฐฯ สามารถเข้าถึง Strike Options บนแพลตฟอร์ม Crypto.com ได้ โดยเป็นตลาดที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ CFTC รองรับคริปโต 18 สกุล รวมถึง Bitcoin, Dogecoin, Solana และ Floki

ต่างจาก Options แบบดั้งเดิมที่ต้องซื้อสัญญา Call หรือ Put, Strike Options ใช้รูปแบบ “Up” และ “Down” แทน Long และ Short โดยตรง กรอบเวลาของสัญญามีตั้งแต่ 5 นาทีถึง 1 สัปดาห์ มูลค่าสัญญาเริ่มต้นที่ $10 และสามารถปิดสถานะก่อนหมดอายุเพื่อล็อกกำไรหรือลดขาดทุนได้ โดยผู้ใช้งานจะไม่มีทางขาดทุนเกินจำนวนเงินที่ลงทุนในโพสิชัน

นอกจากคริปโต แพลตฟอร์ม Strike Options ยังรองรับการเทรดคู่สกุลเงิน Forex เช่น EUR/USD, GBP/USD, AUD/USD และ USD/JPY โดยสามารถใช้ Leverage ได้เช่นกัน

5. การแลกเปลี่ยน (Swaps)

แม้ Exchange หลักจะรองรับคริปโตราว 400 สกุล แต่ฟีเจอร์ On-chain Swap เปิดโอกาสให้ผู้ใช้เข้าถึงโทเคนมากกว่า 10,000 รายการ

ฟีเจอร์นี้ต้องใช้งานร่วมกับ Crypto.com Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าแบบไม่รวมศูนย์ (Non-custodial) แยกออกจากระบบหลักของ Exchange โดยมาในรูปแบบแอปมือถือหรือส่วนขยายเบราว์เซอร์ ผู้ใช้งานสามารถถือครองและแลกเปลี่ยนคริปโตด้วยกุญแจส่วนตัวของตนเอง

ระบบ Swap นี้ทำงานร่วมกับ DEX ชั้นนำอย่าง Uniswap และ PancakeSwap โดย Crypto.com จะทำหน้าที่ Aggregator รวมข้อมูลเพื่อให้ผู้ใช้ได้ราคาดีที่สุด มากกว่าจะเป็นผู้พัฒนา DEX ด้วยตนเอง

6. ตะกร้าคริปโต (Crypto Baskets)

แอปของ Crypto.com ยังมีฟีเจอร์ Crypto Baskets ที่ช่วยให้ผู้ใช้ลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงได้ในคลิกเดียว ปัจจุบันมีตะกร้าให้เลือก 24 แบบ โดยแต่ละแบบมีสัดส่วนสินทรัพย์และความเสี่ยงที่แตกต่างกัน

นักลงทุนมือใหม่อาจเริ่มจาก BTC-ETH Duo ซึ่งรวม Bitcoin และ Ethereum ในสัดส่วนที่สมดุล ขณะที่ผู้ที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเลือกตะกร้า Meme ที่มีเหรียญอย่าง Shiba Inu, Bonk, dogwifhat และ Pepe

แพลตฟอร์ม crypto.com สำหรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล 15-12-2025

ผู้ใช้ยังสามารถสร้างตะกร้าแบบกำหนดเองได้ตามเป้าหมายการลงทุน โดยใช้เครื่องมือ Auto-rebalancing เพื่อปรับสมดุลตามผลตอบแทนแบบเรียลไทม์ และสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์ Recurring Buy เพื่อวางแผนซื้อคริปโตอย่างสม่ำเสมอในรูปแบบ Dollar-Cost Averaging (DCA)

เช่นเดียวกับฟีเจอร์อื่นๆ ตะกร้าคริปโตมีให้ใช้งานเฉพาะในแอป iOS และ Android ของ Crypto.com เท่านั้น

การ Staking และรางวัลบน Crypto.com


Crypto.com เปิดโอกาสให้นักลงทุนสร้างรายได้แบบ Passive จากสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้ใช้งานในพอร์ต ด้วยตัวเลือกการลงทุนทั้งแบบ Centralized Finance (CeFi) และ Decentralized Finance (DeFi) ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานหลากหลายกลุ่ม

1. Crypto Earn (CeFi)

สำหรับผู้เริ่มต้น การสร้างผลตอบแทนผ่านผลิตภัณฑ์ CeFi ภายใต้ชื่อ “Crypto Earn” เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากใช้งานง่ายคล้ายบัญชีออมทรัพย์แบบดั้งเดิม ผู้ใช้สามารถฝากเหรียญคริปโตจำนวน 1 ใน 21 สกุลเพื่อรับดอกเบี้ย ซึ่งจะจ่ายในสกุลเหรียญเดียวกัน โดยอัตราผลตอบแทนต่อปี (APY) จะแตกต่างกันไปตามประเภทสินทรัพย์ จำนวนเงินที่ฝาก ระยะเวลาการล็อกเหรียญ และการถือครอง CRO ซึ่งเป็นโทเคนประจำแพลตฟอร์ม

ตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ฝาก Bitcoin และมีการ Stake CRO มูลค่า $40,000 พร้อมล็อกสินทรัพย์ไว้ 3 เดือน จะได้รับ APY สูงสุดถึง 5% แต่หากไม่มีการ Stake CRO และไม่เลือกระยะเวลา Lock-up อัตราผลตอบแทนอาจลดลงเหลือเพียง 0.25% เท่านั้น โดย Crypto.com ยังมีเครื่องคำนวณที่ช่วยให้ผู้ใช้เห็นภาพผลตอบแทนตามเงื่อนไขที่เลือกได้อย่างชัดเจน

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Crypto Earn เป็นบริการแบบ CeFi จึงต้องอาศัยความไว้วางใจในแพลตฟอร์มในการดูแลสินทรัพย์ หากคุณต้องการควบคุมสินทรัพย์ด้วยตนเองอย่างเต็มที่ โดยไม่ผ่านผู้ดูแลบุคคลที่สาม อาจพิจารณาทางเลือกแบบ DeFi แทน

2. การ Staking (DeFi)

Crypto.com ยังรองรับการ Stake แบบ DeFi ซึ่งผู้ใช้งานสามารถนำเหรียญของตนไป Stake บนบล็อกเชนผ่าน Validator ที่ได้รับการรับรอง โดยสามารถ Unstake ได้ทุกเมื่อ และรับผลตอบแทนตามกลไกของเหรียญแบบ Proof-of-Stake

ตัวอย่างของอัตรา APY ที่ได้รับในปัจจุบัน ได้แก่

  • Cardano (ADA): 1.8%
  • Ethereum (ETH): 2.95%
  • Solana (SOL): 5.38%

ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนเป็นแบบแปรผันและอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา โดยคริปโตที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในกลุ่มนี้คือ Kusama (KSM) และ Cosmos (ATOM) ซึ่งมี APY อยู่ที่ 10.42% และ 13.74% ตามลำดับ

โปรดทราบว่า อัตราผลตอบแทนที่แสดงยังไม่รวมค่าธรรมเนียม Validator ซึ่งจะถูกหักออกจากรางวัลเมื่อผู้ใช้ทำการ Unstake เหรียญ

บัตรเครดิต Crypto.com


ลูกค้าในสหรัฐอเมริกามีโอกาสสมัครใช้บัตรเครดิต Crypto.com ซึ่งออกโดยเครือข่าย Visa และทำงานเหมือนกับบัตรเครดิตทั่วไป โดยมีขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติมาตรฐาน เช่น การพิจารณาประวัติเครดิต วงเงิน และอัตราดอกเบี้ย

บัตรใบนี้สามารถใช้ซื้อสินค้าในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ทั้งออนไลน์และหน้าร้าน โดยจะมีสิทธิประโยชน์แตกต่างกันตามระดับของบัตร ระดับเริ่มต้นคือ Midnight Blue ซึ่งไม่จำเป็นต้อง Stake โทเคน CRO และมอบสิทธิ์รับเงินคืน (Cashback) 1.5% ในรูปแบบของ CRO ขณะที่ระดับสูงสุดคือ Obsidian ซึ่งให้เงินคืนสูงถึง 6.5% แต่ต้องมีการ Stake CRO มูลค่าสูงถึง $500,000

จากการรีวิว Crypto.com บัตร Crypto.com Visa Card ของเรา ยังพบว่าสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมของบัตรนี้ครอบคลุมบริการพิเศษหลายด้าน เช่น สิทธิประโยชน์ด้านการเดินทาง บริการผู้ช่วยส่วนตัว (Concierge) ตลอด 24 ชั่วโมง และการคุ้มครองการซื้อสินค้า

ที่สำคัญ บัตรนี้ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี และผู้ใช้งานสามารถจัดการยอดชำระรายเดือนได้อย่างสะดวกผ่านแอปพลิเคชัน Crypto.com

NFTs บน Crypto.com


Crypto.com มีตลาด NFT ในตัวที่เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงคอลเลกชันดิจิทัลยอดนิยมจากแบรนด์และองค์กรชั้นนำทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Aston Martin F1, ลีกฟุตบอลอิตาลี Lega Serie A, ทีมฮอกกี้ LA Kings และทีมบาสเกตบอลชื่อดังอย่าง Philadelphia 76ers

โดยในบรรดา NFT ที่มีการซื้อขายมากที่สุดบนแพลตฟอร์ม ได้แก่ Moonbirds, Pudgy Penguins และ Bored Ape Yacht Club ซึ่งได้รับความนิยมในวงการสะสมดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง

แพลตฟอร์ม crypto.com สำหรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล 15-12-2025

เพื่อให้การค้นหา NFT เป็นเรื่องง่ายและตรงใจมากขึ้น ตลาดของ Crypto.com มีระบบตัวกรองที่ออกแบบมาโดยเน้นประสบการณ์ผู้ใช้งานเป็นหลัก โดยสามารถกรอง NFT ได้ตาม ระดับราคา, หมวดหมู่ และ Ecosystem ที่รองรับ

มาตรฐานบล็อกเชนของ NFT ที่สามารถใช้งานในระบบได้ครอบคลุมทั้ง Ethereum, Polygon, Solana และ Cronos ซึ่งช่วยเปิดโอกาสให้นักสะสมสามารถเข้าถึงคอลเลกชันจากหลากหลายเครือข่ายในที่เดียว

Crypto.com Onchain Wallet


Crypto.com Onchain เป็น Wallet แบบ Non-Custodial ที่รับประกันว่าผู้ใช้สามารถควบคุมและจัดการ Private Keys ของตนเองได้ Wallet นี้มีให้ใช้งานในรูปแบบแอปพลิเคชันบน iOS/Android และส่วนขยายบน Chrome ซึ่งใช้งานได้ฟรี, เป็นส่วนตัว และเป็นมิตรต่อผู้ใช้

Wallet นี้ไม่มีข้อจำกัดด้านประเทศหรือข้อกำหนดในการเปิดบัญชี เนื่องจากทำงานเป็นอิสระจาก Exchange ของ Crypto.com ฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยประกอบด้วย Biometrics และการยืนยันตัวตนแบบสองปัจจัย (Two-Factor Authentication) รวมถึงการเข้ารหัส Keys และวลีกู้คืน (Backup Passphrases)

แอปพลิเคชันและส่วนขยายนี้รองรับเครือข่ายคริปโตยอดนิยม เช่น Bitcoin, Solana, Dogecoin และ XRP พร้อมด้วยสถิติพอร์ตโฟลิโอและราคาตลาดแบบเรียลไทม์ ฟีเจอร์สำคัญ ได้แก่ การเชื่อมต่อกับ dApp, เครื่องมือ Staking และการ Swap โทเค็นได้ทันที

ช่องทางการชำระเงินของ Crypto.com


จากการรีวิว Crypto.com พบว่าผู้ใช้งานสามารถฝากและถอนเงินได้หลากหลายช่องทาง ทั้งในรูปแบบเงินเฟียตและคริปโต พร้อมรองรับหลายสกุลเงิน เพื่อความสะดวกในการใช้งานทั่วโลก โดยช่องทางการชำระเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุดมีดังต่อไปนี้:

Fiat Wallet

ในฐานะ Exchange ที่ได้รับการกำกับดูแลอย่างเป็นทางการ Crypto.com รองรับการฝากเงินในรูปแบบ Fiat โดยตรง ผู้ใช้งานสามารถเติมเงินเข้าสู่ระบบด้วยสกุลเงินหลักอย่าง USD, GBP และ AUD ผ่านการโอนเงินจากบัญชีธนาคาร

การฝากเงินสามารถดำเนินการผ่านระบบธนาคารในประเทศที่เชื่อถือได้ เช่น

  • ACH สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา
  • Faster Payments สำหรับสหราชอาณาจักร
  • New Payments Platform (NPP) สำหรับออสเตรเลีย

ช่องทางเหล่านี้ให้ประสบการณ์การฝากเงินที่รวดเร็วโดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม หลังจากเงินถูกเติมเข้า Fiat Wallet แล้ว ผู้ใช้สามารถนำไปซื้อขายคริปโตผ่านคู่เทรด เช่น BTC/USD หรือ ETH/GBP ได้ทันที

ช่องทางซื้อคริปโตแบบทันที

แอป Crypto.com ยังเปิดให้ผู้ใช้งานซื้อคริปโตได้โดยตรงผ่านวิธีชำระเงินแบบทันที เช่น

  • บัตร Visa และ MasterCard
  • ระบบชำระเงินผ่านมือถือ เช่น Google Pay และ Apple Pay

วิธีนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลได้โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการซื้อขายในกระดาน Spot Exchange ทำให้กระบวนการซื้อขายสะดวก รวดเร็ว และเหมาะกับผู้เริ่มต้น

การชำระเงินด้วยคริปโต

Crypto.com รองรับการชำระเงินแบบ Wallet-to-Wallet เช่นเดียวกับ Exchange ชั้นนำอื่นๆ โดยในแอปพลิเคชัน ผู้ใช้จะได้รับที่อยู่กระเป๋าเฉพาะ (Unique Wallet Address) สำหรับแต่ละเหรียญหรือโทเคนที่ต้องการฝาก

หลังจากโอนเหรียญจากกระเป๋าอื่นมายังที่อยู่ดังกล่าว ระบบจะทำการเพิ่มยอดเงินเข้าสู่บัญชีผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เมื่อธุรกรรมนั้นได้รับการยืนยันบนบล็อกเชนตามจำนวน Block Confirmations ที่กำหนด

การถอนเงิน

ผู้ใช้งานสามารถถอนเงินได้ทั้งในรูปแบบ Fiat และคริปโต โดย:

  • การถอน Fiat รองรับผ่านการโอนเงินไปยังบัญชีธนาคารหรือกระเป๋า E-Wallet โดยมีค่าธรรมเนียมที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับช่องทางและสกุลเงินที่เลือก
  • การถอนคริปโต จะโอนเหรียญไปยัง Wallet ส่วนตัวของผู้ใช้ โดยมีมาตรการด้านความปลอดภัยที่เข้มงวด เช่น การอนุญาตให้โอนเฉพาะไปยังที่อยู่ที่ผ่านการ Whitelist แล้วเท่านั้น หากเพิ่มที่อยู่ใหม่ ผู้ใช้จะต้องรอ 24 ชั่วโมง ก่อนทำธุรกรรมถอนเงินได้

ค่าธรรมเนียมของ Crypto.com


ค่าธรรมเนียมบนแพลตฟอร์ม Crypto.com มีความแตกต่างกันตามประเภทของผลิตภัณฑ์ที่ใช้งาน รวมถึงปัจจัยส่วนบุคคลของผู้ใช้ เช่น ปริมาณการเทรด ประเภทคำสั่งซื้อ และการถือครองเหรียญ CRO

1. ค่าธรรมเนียมการเทรดแบบ Spot

ค่าคอมมิชชันเริ่มต้นที่ 0.5% ต่อรายการ ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับ Exchange อื่นที่มีค่าธรรมเนียมต่ำ เช่น MEXC และ KCEX ที่ให้บริการเทรดแบบไม่มีค่าคอมมิชชัน สำหรับผู้ที่ใช้ Limit Order ค่าธรรมเนียมจะลดลงเหลือ 0.25% และสามารถลดเหลือ 0% หากมีการถือครองโทเคน CRO

ผู้ใช้งานที่มีปริมาณการเทรดสูงในช่วง 30 วันจะได้รับส่วนลดเพิ่มเติมตามโครงสร้างแบบ Tier อย่างไรก็ตาม การจะเข้าสู่ระดับบัญชีขั้นที่สอง ผู้ใช้จะต้องมีปริมาณการเทรด อย่างน้อย 2.5 ล้านดอลลาร์ ภายใน 30 วัน

2. ค่าธรรมเนียมตราสารอนุพันธ์ (Derivatives)

สำหรับตลาดอนุพันธ์ เช่น Perpetual Futures และ Options ค่าธรรมเนียมจะต่ำกว่าการเทรด Spot แม้ว่าจะคำนวณจากมูลค่ารวมของออเดอร์ที่มี Leverage ไม่ใช่เพียง Margin ที่วางไว้ ค่าธรรมเนียมจะอยู่ในช่วง 0% ถึง 0.04% ขึ้นอยู่กับปริมาณการเทรด ยอดคงเหลือของ CRO และระดับบัญชีของผู้ใช้งาน

3. ค่าธรรมเนียมการชำระเงิน

การฝากหรือถอนเงิน Fiat ผ่านช่องทางธนาคารในประเทศ เช่น ACH (สหรัฐฯ), Faster Payments (สหราชอาณาจักร) และ SEPA (ยุโรป) ส่วนใหญ่มัก ไม่มีค่าธรรมเนียม ทั้งในส่วนของการฝากและการถอน ทำให้เป็นตัวเลือกที่สะดวกและคุ้มค่าสำหรับผู้ใช้งานในประเทศที่รองรับ

4. ค่าธรรมเนียมสำหรับ Instant Buy

ฟีเจอร์ Instant Buy ซึ่งให้บริการซื้อคริปโตผ่านบัตรเดบิต/เครดิต มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมแบบผันแปร โดยระบบจะแสดงค่าธรรมเนียมที่แน่นอนเมื่อผู้ใช้ตั้งค่าคำสั่งซื้อ ปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าธรรมเนียม ได้แก่ สภาพตลาดและระดับสภาพคล่องในช่วงเวลานั้น

สำหรับผู้ใช้ใหม่จากบางประเทศ Crypto.com มีโปรโมชั่น ยกเว้นค่าธรรมเนียม การซื้อด้วยบัตรในช่วง 7 วันแรก หลังจากลงทะเบียน

5. ค่าธรรมเนียมการฝากและถอนคริปโต

การ ฝากคริปโต เข้าบัญชี Crypto.com ไม่มีค่าธรรมเนียม อย่างไรก็ตาม การถอนสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากแพลตฟอร์มจะมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในรูปแบบของเหรียญที่ถอน

ค่าธรรมเนียมเหล่านี้อาจสูงกว่าต้นทุนจริงของการทำธุรกรรมบนบล็อกเชน เช่น การถอน Bitcoin มีค่าธรรมเนียมที่ 0.0004 BTC (ประมาณ 47 ดอลลาร์ ตามอัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบัน) ซึ่งสูงกว่าค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมบนเครือข่ายจริงอยู่มาก

เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมการเทรดของ Crypto.com

Limit Order สูงสุด Limit Order ต่ำสุด Market Order สูงสุด Market Order ต่ำสุด
Spot Trading 0.25% 0% 0.50% 0.1584%
Derivatives 0.02% 0% 0.04% 0.0264%
Instant Buy N/A N/A รวมอยู่ในราคาซื้อขาย N/A

เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมที่ไม่ใช่การเทรดของ Crypto.com

[/responsive_table]

เปรียบเทียบค่าธรรมเนียมที่ไม่ใช่การเทรดของ Crypto.com

การฝากเงิน การถอนเงิน
การชำระเงินผ่านธนาคาร โดยทั่วไปไม่มีค่าธรรมเนียม โดยทั่วไปไม่มีค่าธรรมเนียม
การชำระเงินด้วยคริปโต ไม่มีค่าธรรมเนียมจาก Exchange (ผู้ใช้เป็นผู้รับผิดชอบค่าธรรมเนียมเครือข่าย) ขึ้นอยู่กับประเภทสินทรัพย์ (เช่น การถอน Bitcoin คิดค่าธรรมเนียม 0.0004 BTC)

Crypto.com ใช้งานง่ายแค่ไหน?


Crypto.com วางตำแหน่งของตนเองเป็นระบบนิเวศคริปโตแบบครบวงจรที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้หลากหลาย ตั้งแต่นักลงทุนมือใหม่ไปจนถึงนักเทรดระดับสถาบันที่ต้องการความสามารถในการจัดการคำสั่งซื้อขายขนาดใหญ่

จากการทดสอบการใช้งานบนหลากหลายอุปกรณ์และระบบปฏิบัติการ พบว่าแอปพลิเคชันบน iOS และ Android ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับนักลงทุนทั่วไปที่อาจมีประสบการณ์จำกัด ตัวแอปใช้งานได้อย่างลื่นไหล มีอินเทอร์เฟซที่เป็นมิตร ทำให้สามารถซื้อขายคริปโตด้วยสกุลเงินท้องถิ่นได้อย่างสะดวก

แอปพลิเคชัน crypto.com สำหรับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล 15-12-2025

ผู้ใช้งานสามารถเลือกเหรียญคริปโต สกุลเงิน และวิธีการชำระเงินที่ต้องการได้ภายในไม่กี่ขั้นตอน เมื่อธุรกรรมเสร็จสิ้น สินทรัพย์ดิจิทัลจะถูกโอนเข้าบัญชีทันที และผู้ใช้สามารถเลือกเก็บไว้ในระบบ หรือโอนไปยังกระเป๋าส่วนตัว (Private Wallet) ได้ตามต้องการ

สำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการใช้งานผลิตภัณฑ์อนุพันธ์ เช่น Leveraged Perpetuals และ Delivery Futures มักนิยมใช้แพลตฟอร์มผ่านเบราว์เซอร์บนเดสก์ท็อป ซึ่งมาพร้อมเครื่องมือวิเคราะห์ขั้นสูง ทั้งอินดิเคเตอร์ทางเทคนิค เครื่องมือวาดกราฟ และกรอบเวลาแท่งเทียนที่ปรับแต่งได้ตั้งแต่ 1 นาทีไปจนถึง 1 เดือน เพื่อรองรับการวิเคราะห์ราคาที่แม่นยำแบบเรียลไทม์

เหรียญมีมจาก crypto.com ที่น่าสนใจในตลาดคริปโต 15-12-2025

โดยสรุป แม้ Crypto.com จะออกแบบมาให้เข้าถึงได้ง่าย แต่ผู้ใช้งานระดับเริ่มต้นอาจต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกับฟีเจอร์ของตลาด Spot, Margin และ Derivative ซึ่งมีความหลากหลายและซับซ้อนในบางส่วน จนทำให้รู้สึกว่าแพลตฟอร์มมีตัวเลือกมากเกินไปในช่วงเริ่มต้น

Crypto.com ให้บริการในประเทศใดบ้าง?


ปัจจุบัน Crypto.com ให้บริการในมากกว่า 90 ประเทศทั่วโลก รวมถึงในเกือบทุกรัฐของสหรัฐอเมริกา ยกเว้นรัฐนิวยอร์ก นอกจากนี้ แพลตฟอร์มยังรองรับการใช้งานในหลายประเทศหลักในภูมิภาค ยุโรป, เอเชีย, และ อเมริกาใต้

อย่างไรก็ตาม ยังมีบางเขตอำนาจที่ไม่สามารถใช้งานบริการของ Crypto.com ได้ ซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ใน ภูมิภาคแอฟริกา โดยบริษัทได้จัดทำรายชื่อประเทศที่ถูกจำกัดไว้ให้ตรวจสอบได้โดยตรงบนเว็บไซต์ทางการ

ดังนั้น เพื่อความมั่นใจก่อนเริ่มต้นใช้งาน ผู้ใช้ควรตรวจสอบสถานะของประเทศตนเองในรายการประเทศที่รองรับจากแหล่งข้อมูลล่าสุดของ Crypto.com

บริการดูแลลูกค้าของ Crypto.com


ผู้ถือบัญชีสามารถเข้าถึงบริการลูกค้าของ Crypto.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมงทุกวันผ่านแอปพลิเคชันของแพลตฟอร์ม โดยผู้ใช้งานสามารถพูดคุยกับเจ้าหน้าที่จริงผ่านระบบ Live Chat อย่างไรก็ตามเวลารอในการเชื่อมต่ออาจแตกต่างกันไปตามปริมาณการใช้งานในช่วงเวลานั้น บางรายได้รับการตอบกลับภายในไม่กี่นาที ขณะที่บางรายอาจต้องรอนานหลายชั่วโมง

สำหรับผู้ใช้ที่ลงทะเบียนแล้ว ยังสามารถติดต่อทีมสนับสนุนได้ทางอีเมลที่ [email protected] ทั้งนี้ปัจจุบันแพลตฟอร์มยังไม่มีช่องทางการให้บริการลูกค้าทางโทรศัพท์

Crypto.com ควรปรับปรุงในด้านใดบ้าง?


จากผลการรีวิว Crypto.com ของเรา พบว่าหนึ่งในจุดที่ควรปรับปรุงอย่างชัดเจนคือ โครงสร้างค่าธรรมเนียม โดยปัจจุบันนักเทรดส่วนใหญ่ต้องจ่ายค่าคอมมิชชันเริ่มต้นที่ 0.5% ต่อรายการ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมถึง 5 เท่า (เฉลี่ยอยู่ที่ 0.1%) แม้ว่าแพลตฟอร์มจะเสนอส่วนลดสำหรับผู้ที่มีปริมาณการเทรดสูง แต่ต้องมียอดการซื้อขายอย่างน้อย 2.5 ล้านดอลลาร์ภายใน 30 วัน จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ในระดับบัญชีขั้นที่สอง

นอกจากนี้ ค่าธรรมเนียมของฟีเจอร์ Instant Buy ก็มักจะอยู่ในระดับสูง แม้ระบบจะแสดงค่าธรรมเนียมแบบแปรผันตามสภาวะตลาด แต่ผู้ใช้งานจำนวนมากรายงานว่า ค่าธรรมเนียมเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3–4%

อีกประเด็นหนึ่งที่ควรกล่าวถึงคือการผลักดันให้ผู้ใช้งาน ถือครองโทเค็น CRO ซึ่งเป็นเหรียญประจำของแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น:

  • ฟีเจอร์ Crypto Earn ต้องถือครอง CRO มูลค่าขั้นต่ำ 40,000 ดอลลาร์ จึงจะได้รับ APY สูงสุด
  • บัตร Crypto.com Credit Card ในระดับ Obsidian ที่ให้รางวัลคืนสูงสุด 6% ต้องมีการ Stake CRO มูลค่าถึง 500,000 ดอลลาร์

เรายังพบว่าฟีเจอร์สำคัญบางอย่าง เช่น Instant Buy และ Crypto Baskets เปิดให้บริการเฉพาะผ่านแอปบนมือถือเท่านั้น ซึ่งเป็นข้อเสียสำหรับนักลงทุนที่ต้องการใช้งานผ่านอุปกรณ์เดสก์ท็อป

สุดท้ายคือปัญหาเรื่อง ความไม่สม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์ตามภูมิภาค โดยบางฟีเจอร์เปิดให้ใช้เฉพาะในบางประเทศเท่านั้น แม้ข้อจำกัดนี้จะเกิดจากข้อกำหนดด้านกฎระเบียบ แต่ก็อาจสร้างความสับสนให้กับผู้ใช้ที่ไม่แน่ใจว่าฟีเจอร์ใดบ้างที่สามารถใช้งานได้ในพื้นที่ของตน

เปรียบเทียบ Crypto.com กับ Exchange ชั้นนำอื่น ๆ


Crypto.com เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ Exchange สินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมากในตลาดปัจจุบัน ซึ่งนักลงทุนและนักเทรดควรพิจารณาอย่างรอบด้าน โดยเปรียบเทียบจากปัจจัยสำคัญ เช่น ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บ ความหลากหลายของตลาดที่เปิดให้เทรด ช่องทางการชำระเงินที่รองรับ และตัวชี้วัดหลักอื่น ๆ

เพื่อช่วยให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้านล่างนี้คือการเปรียบเทียบระหว่าง Crypto.com กับ Exchange ชั้นนำอื่น ๆ ในอุตสาหกรรม

Crypto.com MEXC OKX Binance
เหรียญที่รองรับ มากกว่า 400 สกุล มากกว่า 4,100 สกุล มากกว่า 345 สกุล มากกว่า 530 สกุล
วิธีการฝากเงิน คริปโต, บัตรเดบิต/เครดิต, E-wallet, บัญชีธนาคาร คริปโต, บัตรเดบิต/เครดิต, บัญชีธนาคาร, P2P, ช่องทางบุคคลที่สาม คริปโต, บัตรเดบิต/เครดิต, บัญชีธนาคาร, P2P, ช่องทางบุคคลที่สาม คริปโต, บัตรเดบิต/เครดิต, บัญชีธนาคาร, P2P, ช่องทางบุคคลที่สาม
ค่าธรรมเนียมการเทรด เริ่มต้นที่ 0.5% (Spot) และ 0.04% (อนุพันธ์) เริ่มต้นที่ 0.05% (Spot) และ 0.04% (อนุพันธ์) เริ่มต้นที่ 0.1% (Spot) และ 0.05% (อนุพันธ์) เริ่มต้นที่ 0.1% (Spot) และ 0.05% (อนุพันธ์)
การเทรด Spot / Derivatives รองรับ Spot, Perpetuals, Futures และ Options รองรับ Spot และ Perpetuals รองรับ Spot, Perpetuals, Futures และ Options รองรับ Spot, Perpetuals, Futures และ Options
ประเทศที่ถูกจำกัด บังกลาเทศ, จีน, เอกวาดอร์, กาบอง, อิหร่าน, อิรัก, นามิเบีย และอื่น ๆ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, คิวบา, ฮ่องกง, อิหร่าน และอื่น ๆ จีน, ญี่ปุ่น, ไทย, ไนจีเรีย, เกาหลีเหนือ และอื่น ๆ แคนาดา, เนเธอร์แลนด์, คิวบา, อิหร่าน และอื่น ๆ
ต้องใช้ KYC จำเป็นต้องยืนยันตัวตน ไม่จำเป็น (แต่มีข้อจำกัดในการใช้งาน) จำเป็นต้องยืนยันตัวตน จำเป็นต้องยืนยันตัวตน

วิธีเริ่มต้นใช้งาน Crypto.com


ในส่วนนี้จะเป็นแนวทางสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นใช้งานแพลตฟอร์ม Crypto.com ตั้งแต่ขั้นตอนการลงทะเบียน การยืนยันตัวตน (KYC) ไปจนถึงการฝากเงินและเริ่มต้นเทรดคริปโต

ขั้นตอนที่ 1: ดาวน์โหลดแอป Crypto.com และเปิดบัญชี

เริ่มต้นโดยเข้าไปที่เว็บไซต์ Crypto.com และดาวน์โหลดแอปพลิเคชันสำหรับระบบปฏิบัติการ iOS หรือ Android

เมื่อเปิดแอปแล้ว ให้กด “Sign Up” จากนั้นกรอก อีเมล และยืนยันตัวตนด้วยรหัสที่ส่งไปยังกล่องข้อความ จากนั้นให้กรอก หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ระบบจะส่งรหัส OTP ไปยังเบอร์โทรที่คุณระบุ ซึ่งต้องนำมากรอกเพื่อดำเนินการต่อ

ลงทะเบียนที่ crypto.com เพื่อเริ่มต้นการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล 15-12-2025

ต่อมา ให้สร้าง รหัสผ่าน 6 หลัก สำหรับบัญชี Crypto.com โดยแนะนำให้ตั้งรหัสผ่านที่คาดเดาได้ยาก เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

ขั้นตอนที่ 2: ยืนยันตัวตน (KYC)

เนื่องจาก Crypto.com เป็นแพลตฟอร์มที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล จึงกำหนดให้ผู้ใช้งานทุกคนต้องผ่านกระบวนการ KYC (Know Your Customer) เพื่อยืนยันตัวตนก่อนเริ่มใช้งาน

การตรวจสอบตัวตนใน crypto.com เพื่อความปลอดภัย 15-12-2025

ระบบจะขอให้คุณกรอก ข้อมูลส่วนบุคคล และอัปโหลดเอกสารที่ออกโดยรัฐบาล ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้ง บัตรประชาชน ใบขับขี่ หรือหนังสือเดินทาง ทั้งนี้คุณจะต้องใช้ กล้องจากสมาร์ทโฟน เพื่อสแกนเอกสารเหล่านี้ตามที่ระบบกำหนด

ขั้นตอนที่ 3: ฝากเงินหรือซื้อคริปโตโดยตรง

หลังจากยืนยันตัวตนเรียบร้อยแล้ว ผู้ใช้งานสามารถเริ่มลงทุนในคริปโตได้ทันทีผ่าน 2 วิธีหลัก ได้แก่การซื้อทันทีด้วยบัตรเดบิต/เครดิต หรือ E-wallet เช่น Google Pay หรือ Apple Pay วิธีนี้สะดวกที่สุดแต่มีค่าธรรมเนียมสูง โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 3–4%

ซื้อสกุลเงินดิจิทัลที่ crypto.com ได้อย่างง่ายดาย 15-12-2025

หรืออีกวิธีคือการฝากเงินผ่านบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่า เช่น ACH สำหรับผู้ใช้งานในสหรัฐฯ และ Faster Payments สำหรับผู้ใช้งานในสหราชอาณาจักร

โดยเมื่อเลือกแล้วให้กดปุ่ม “Deposit” เลือก สกุลเงินที่ต้องการฝาก จากนั้นระบบจะแสดง ข้อมูลบัญชีธนาคาร และ หมายเลขอ้างอิง สำหรับใช้ในการโอนเงิน อย่าลืมระบุหมายเลขอ้างอิงทุกครั้งเพื่อให้การฝากเงินสำเร็จ

เมื่อยอดเงินเข้าระบบแล้ว ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่หน้าการเทรดแบบ Spot Trading เลือกเหรียญคริปโตที่ต้องการ และทำคำสั่งซื้อให้เสร็จสิ้นได้ทันที

สรุปรีวิว Crypto.com: เหมาะสำหรับใครมากที่สุด?


โดยรวมแล้ว Crypto.com เป็นหนึ่งใน Crypto Exchange ที่มีความน่าเชื่อถือสูง ด้วยปริมาณการซื้อขายระดับ Tier-One และสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง แพลตฟอร์มนี้เหมาะสำหรับเทรดเดอร์ที่มองหาสภาพแวดล้อมการซื้อขายที่ปลอดภัยและได้รับการกำกับดูแลอย่างชัดเจน รองรับการซื้อขายสกุลเงินคริปโตหลากหลายรายการ พร้อมช่องทางชำระเงินที่หลากหลายสำหรับผู้เริ่มต้น

ในขณะเดียวกัน นักลงทุนมือใหม่ที่ต้องการซื้อคริปโตด้วย วิธีการชำระเงินแบบดั้งเดิม เช่น บัตรเครดิตหรือบัญชีธนาคาร จะพบว่า Crypto.com ใช้งานได้สะดวกและไม่ซับซ้อน ส่วนเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ก็สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ทางการเงินขั้นสูง เช่น อนุพันธ์ที่มี Leverage ได้ผ่านแพลตฟอร์มเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม จากการรีวิว Crypto.com ของเรา พบว่าหนึ่งในข้อเสียของ Crypto.com คือ โครงสร้างค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าแพลตฟอร์มอื่น โดยเฉพาะในกรณีที่ใช้คำสั่ง Market Order โดยมีปริมาณการซื้อขายรายเดือนที่ไม่สูงมาก

นอกจากนี้ แม้แพลตฟอร์มจะมีเวอร์ชันเดสก์ท็อป แต่หลายฟีเจอร์—including Instant Buy, Crypto Baskets และฟีเจอร์ทางการเงินอื่น ๆ—มีให้ใช้งานเฉพาะบนแอปมือถือเท่านั้น ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการทำธุรกรรมผ่านคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์เดสก์ท็อป

ไปยัง Crypto.com

หลักการที่เราใช้ทดสอบและรีวิว Crypto.com


จากประสบการณ์ในการทดสอบแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลหลายร้อยแห่ง ทีมงานของเราได้นำแนวทางการวิจัยที่เข้มงวดมาใช้ในการรีวิว Crypto.com เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นกลางและมีความน่าเชื่อถือ

กระบวนการเริ่มต้นด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลการเทรดที่สำคัญ เช่น รายการตลาดที่รองรับ, คู่เทรด, ข้อกำหนด Margin, ค่าคอมมิชชั่น, สภาพคล่อง และค่า Spreads โดยเฉลี่ย จากนั้นเรานำตัวชี้วัดเหล่านี้ไปเปรียบเทียบกับ Exchange อื่น ๆ เพื่อประเมินความสามารถในการแข่งขันของแพลตฟอร์ม

ทีมวิจัยยังได้ทดสอบการใช้งานจริงทั้งแอปพลิเคชันบน iOS และ Android รวมถึงเวอร์ชันเว็บเบราว์เซอร์ โดยเน้นการประเมินประสบการณ์ของผู้ใช้ ซึ่งครอบคลุมถึงกระบวนการเปิดบัญชี, การฝากเงิน, การค้นหาสินทรัพย์ และการใช้งานเครื่องมือการเทรดที่มีในตัว

นอกจากนี้ เรายังวิเคราะห์ ความเร็วในการดำเนินการคำสั่งซื้อขาย (Execution Speed) โดยทดสอบคำสั่งซื้อขายในตลาดจำนวนมากเพื่อดูประสิทธิภาพโดยรวม

ผลลัพธ์ทั้งหมดที่นำเสนอในรีวิว Crypto.com นี้ เป็น ข้อมูลที่เป็นกลาง ทันสมัย และถูกต้อง ณ เวลาที่เผยแพร่ อย่างไรก็ตาม Crypto.com มีการปรับปรุงข้อกำหนด, ค่าธรรมเนียม และรายการคู่เทรดอยู่เป็นประจำ ทั้งนี้เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดและกฎระเบียบระดับโลก

รีวิว Crypto.com ฉบับนี้จะมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง เมื่อมีข้อมูลใหม่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตัดสินใจลงทุนได้อย่างมีข้อมูลมากที่สุด

คำถามที่พบบ่อย


Crypto.com ถูกกฎหมายหรือไม่?

Crypto.com มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ไหน?

Crypto.com ใช้งานได้ในสหรัฐอเมริกาหรือไม่?

ต้องฝากขั้นต่ำเท่าไหร่ในการใช้งาน Crypto.com?

Crypto.com อยู่ภายใต้การกำกับดูแลหรือไม่?

ต้องทำ KYC เพื่อใช้งาน Crypto.com หรือไม่?

แหล่งที่มา

  1. Proof of Reserves คืออะไร? ทำงานอย่างไร? (Hacken)
  2. รายงาน Proof of Reserves อย่างเป็นทางการ (Crypto.com)
  3. Contracts & Products (Commodity Futures Trading Commission)
  4. Crypto.com ยอมรับว่าถูกแฮกในปี 2022 และสูญเสียเงินไปกว่า 30 ล้านดอลลาร์ (WIRED)