Trump แต่งตั้ง David Sacks เป็นผู้นำด้าน AI-Crypto ของทำเนียบขาว

ว่าที่ประธานาธิบดี Donald Trump สร้างความฮือฮาในวงการ Cryptocurrency อีกครั้ง ด้วยการประกาศแต่งตั้ง David Sacks นักลงทุนและอดีตผู้บริหารระดับสูงของ PayPal ให้เป็น “ผู้นำด้าน AI และ Crypto ของทำเนียบขาว” ซึ่งถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่ารัฐบาลชุดที่ 2 ของ Trump จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรม Cryptocurrency และ AI อย่างจริงจัง

จาก PayPal Mafia สู่ผู้กำหนดนโยบาย Crypto

David Sacks ไม่ใช่ชื่อใหม่ในวงการเทคโนโลยีแต่อย่างใด ในฐานะหนึ่งในสมาชิก “PayPal Mafia” กลุ่มผู้บริหารและนักลงทุนชั้นนำที่เคยร่วมงานกับ PayPal ในยุคแรก เขามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ Elon Musk และ Peter Thiel

นอกจากนี้ Sacks ยังประสบความสำเร็จในการขาย Yammer บริษัทซอฟต์แวร์ของเขาให้กับ Microsoft ในราคา 1.2 พันล้านดอลลาร์ และปัจจุบันเป็นผู้จัดรายการพอดแคสต์ “All-In” ที่มีผู้ติดตามจำนวนมาก

ความน่าสนใจอยู่ที่การเปลี่ยนท่าทีของ Sacks จากผู้วิจารณ์ Trump อย่างรุนแรงหลังเหตุการณ์ 6 มกราคม มาเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญ โดยเขาได้จัดงานระดมทุนขึ้นที่คฤหาสน์ของเขาในซานฟรานซิสโก ซึ่งสามารถระดมเงินไปได้มากกว่า 12 ล้านดอลลาร์

วิสัยทัศน์และความท้าทายในการกำกับดูแล

Trump ระบุว่าภารกิจสำคัญของ Sacks คือการสร้างกรอบกฎหมายที่ชัดเจนสำหรับอุตสาหกรรม Crypto เพื่อให้สามารถเติบโตได้ในสหรัฐฯ ซึ่งสอดคล้องกับการแต่งตั้ง Paul Atkins อดีตกรรมการ SEC ให้เป็นประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์คนใหม่ การเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งทะลุ 100,000 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังนโยบายที่เป็นมิตรต่อ Crypto มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Sacks จะทำหน้าที่เป็นประธานคณะที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (PCAST) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการให้คำแนะนำด้านนโยบายนวัตกรรมแก่ประธานาธิบดีอีกด้วย

การแต่งตั้งครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามของ Trump ในการดึงดูดความเชี่ยวชาญจาก Silicon Valley เข้ามาร่วมกำหนดนโยบายด้านเทคโนโลยีของประเทศ โดยเฉพาะในด้าน AI และ Cryptocurrency ที่กำลังมีบทบาทสำคัญต่อการแข่งขันในระดับโลก

การสร้างคลังสำรอง Bitcoin แห่งชาติ

แนวคิดการสร้างคลังสำรอง Bitcoin แห่งชาติของ Trump มีเป้าหมายในการทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นศูนย์กลางของการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล โดยมีการเสนอให้กระทรวงการคลังและธนาคารกลางซื้อ Bitcoin จำนวน 200,000 เหรียญต่อปีเป็นระยะเวลา 5 ปี ซึ่งจะทำให้มี Bitcoin ในคลังสำรองรวมถึง 1 ล้านเหรียญ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจ แต่ยังสามารถใช้เป็นเกราะป้องกันต่อการลดค่าของเงินดอลลาร์อีกด้วย

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของการมีที่ปรึกษาด้านคริปโตในทำเนียบขาว ซึ่งจะช่วยในการกำหนดนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างกรอบการกำกับดูแลที่ชัดเจนและเป็นมิตรต่ออุตสาหกรรม การแต่งตั้งบุคคลที่สนับสนุนคริปโตเคอเรนซีในตำแหน่งสำคัญ เช่น ประธาน SEC คนใหม่ จะช่วยให้เกิดความมั่นใจในตลาดและส่งเสริมการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติ

อนาคตของภาคส่วนคริปโต

การแต่งตั้ง David Sacks และ Paul Atkins เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงทิศทางนโยบายด้านเทคโนโลยีของ Trump ในสมัยที่ 2 โดยเฉพาะการสนับสนุนอุตสาหกรรม Crypto และ AI ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการเติบโตของตลาด Cryptocurrency และการพัฒนานวัตกรรมในสหรัฐฯ ได้อย่างมีนัยสำคัญ

อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้ยังมีเสียงวิจารณ์จากผู้เชี่ยวชาญบางคนที่มองว่าแนวทางของ Trump อาจจะนำไปสู่นโยบายที่เสี่ยงต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากการลงทุนใน Bitcoin และสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นๆ อาจจะมีความผันผวนสูง การพัฒนานโยบายที่เหมาะสมจะต้องใช้เวลาและความร่วมมือจากหลายฝ่ายเพื่อให้เกิดความมั่นใจในตลาดและรักษาผลประโยชน์ของนักลงทุน

บทความ Bitcoin ที่เกี่ยวข้อง

• วิธีซื้อบิทคอยน์ (Bitcoin)
• รีวิว 10 กระเป๋า Bitcoin อันไหนดีที่สุด
• แนวโน้มราคาบิทคอยน์
• เว็บขุด Bitcoin