Bitcoin กำลังจะดิ่งหนัก? ข้อมูล On-Chain และ Options ฟ้องอะไรอยู่?
ตลาดคริปโตกำลังเผชิญกับแรงกดดันอย่างหนัก หลังจากราคา Bitcoin (BTC) ร่วงลงสู่ระดับ 89,000 ดอลลาร์ในช่วงเช้าของตลาดเอเชีย ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวมหายไปกว่า 160,000 ล้านดอลลาร์ จาก 3.22 ล้านล้านดอลลาร์ เหลือเพียง 3.06 ล้านล้านดอลลาร์
การปรับตัวลงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุม FOMC ที่แม้จะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps แต่ท่าทีโดยรวมของประธาน Fed อย่าง Jerome Powell กลับส่งสัญญาณที่แข็งกร้าว (Hawkish) ทำให้นักลงทุนกังวลว่าตลาดอาจเข้าสู่ภาวะขาลงครั้งใหญ่ โดยมีข้อมูลจากตลาด Derivatives และ On-Chain เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ต้องจับตา
วิเคราะห์ท่าที Fed กดดันราคา Bitcoin และตลาดคริปโต
การประชุม FOMC ครั้งล่าสุดได้จุดประกายความกังวลเกี่ยวกับทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อีกครั้ง แม้จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 25 bps ตามคาด แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ Fed บางส่วนที่ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ Jerome Powell ประธาน Fed ยังส่งสัญญาณว่าจะระงับการลดดอกเบี้ยเพิ่มเติมไปจนถึงการประชุมในเดือนมกราคม 2026 และคาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยเพียงครั้งเดียวที่ 25 bps ในปี 2026 หลังจากที่ลดไปแล้ว 3 ครั้งในปีนี้
ท่าทีที่แข็งกร้าวนี้สร้างแรงกดดันอย่างหนักต่อสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงราคา BTC ที่ร่วงลงมาแตะ 89,000 ดอลลาร์
ที่น่าสนใจคือ Fed ได้ประกาศว่าจะเข้าซื้อตั๋วเงินคลัง (T-bills) มูลค่าสูงถึง 40,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 30 วัน โดยเริ่มตั้งแต่วันศุกร์นี้
แม้ Fed จะยืนยันว่านี่ไม่ใช่มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) แต่นักวิเคราะห์อย่าง Mike Burry หรือ “The Big Short” มองว่านี่คือสัญญาณของความตึงเครียดในตลาดเงินและบ่งชี้ว่าธนาคารในสหรัฐฯ กำลังอ่อนแอลง ซึ่งอาจนำไปสู่วิกฤตการธนาคารอีกครั้ง สอดคล้องกับข้อมูลจาก Matrixport ที่วิเคราะห์ว่าตลาด BTC และคริปโตโดยรวมน่าจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ (range-bound) ต่อไปหลังการประชุม Fed
เปิดข้อมูล Derivatives ตลาด Options ส่งสัญญาณหมีชัดเจน
ข้อมูลจาก CoinGlass เผยให้เห็นภาพที่น่ากังวล โดยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีสถานะ Long ถูกล้างพอร์ตไปเกือบ 400 ล้านดอลลาร์ และยอดรวมการล้างพอร์ตในตลาดคริปโตทั้งหมดมีมูลค่ามากกว่า 520 ล้านดอลลาร์ โดยเหรียญที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดคือ BTC, ETH, SOL, XRP, DOGE และ ZEC ซึ่งสะท้อนถึงแรงเทขายที่รุนแรงในตลาด
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลจากตลาด Bitcoin Options ก็บ่งชี้ว่าเทรดเดอร์กำลังเพิ่มสถานะที่มองว่าเป็นขาลง (Bearish) มากขึ้น แม้ว่า Open Interest จะเพิ่มสูงขึ้น แต่สัดส่วน Put/Call Ratio กลับเอนเอียงไปทางฝั่ง Put อย่างชัดเจน ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์กำลังป้องกันความเสี่ยงหรือเดิมพันว่าราคาจะปรับตัวลงต่อ
สำหรับ Options ที่จะหมดอายุในวันศุกร์นี้มีมูลค่าตามสัญญา (Notional Value) อยู่ที่ 3.56 พันล้านดอลลาร์ โดยมี Put/Call Ratio ที่ 1.09 และมีราคา Max Pain อยู่ที่ 90,000 ดอลลาร์
จับตาสัญญาณ On-Chain: วาฬเริ่มเทขาย BTC?
เมื่อเจาะลึกข้อมูล On-Chain ตัวชี้วัดสำคัญอย่าง Bitcoin Bull Score Index ได้ส่งสัญญาณความเชื่อมั่นที่เป็นลบอย่างสุดขั้ว (Extreme Bearish) โดยดัชนีได้ร่วงกลับมาอยู่ที่ระดับ 0 หลังการประกาศลดดอกเบี้ยของ Fed
นอกจากนี้ ข้อมูล Bitcoin Days Bull On/Off จาก CryptoQuant ยังแสดงให้เห็นว่าฝั่งหมี (Bears) กำลังมีอิทธิพลเหนือกว่าฝั่งกระทิง (Bulls) อย่างชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูล Aggregated Liquidation Levels Heatmap ชี้ว่าหากราคา BTC พยายามฟื้นตัว จะต้องเผชิญกับความเสี่ยงในการถูกล้างพอร์ตที่สูงมาก ซึ่งตอกย้ำว่าแรงขายยังคงกดดันตลาดอย่างหนักนับตั้งแต่การร่วงลงของตลาดคริปโตเมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ชี้ Bitcoin ยังมีโอกาสปรับฐานลงอีก
Ali Martinez นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังได้ให้ความเห็นที่น่าสนใจ โดยชี้ว่าโอกาสที่ดีที่สุดในการ “ช้อนซื้อ” (Buy-the-dip) ในอดีตมักเกิดขึ้นเมื่อตัวชี้วัด Bitcoin on-chain trader realized loss (ผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจริงของเทรดเดอร์) ลดลงต่ำกว่า -37%
ปัจจุบัน ตัวชี้วัดดังกล่าวยังคงอยู่ที่ -18% ซึ่ง Ali Martinez มองว่านี่ยังมีช่องว่างให้ราคา BTC และตลาดคริปโตโดยรวมสามารถปรับฐานลงได้อีก ก่อนที่จะถึงจุดที่น่าสนใจสำหรับการเข้าซื้อเพื่อลงทุนในระยะยาว การวิเคราะห์นี้เป็นการเตือนให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังและไม่รีบเข้าซื้อจนกว่าจะเห็นสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจน
Best Wallet: กระเป๋าคริปโตมัลติเชนชนิด Non-Custodial ที่ควรมีติดเครื่อง
ในช่วงที่ตลาดเหวี่ยงแรง การมีกระเป๋าคริปโตที่ล้ำและใช้งานครอบคลุมกลายเป็นเรื่องจำเป็น Best Wallet จึงโดดเด่นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว และกวาดผู้ใช้งานทะลุ 250,000 รายต่อเดือน ด้วยฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ทั้งมือใหม่และนักเทรดจริงจัง
หนึ่งในไฮไลต์คือระบบเทรดข้ามเชนแบบอัตโนมัติที่พัฒนาร่วมกับ Rubic ซึ่งเชื่อมต่อกับ DEX มากกว่า 330 แห่ง และ cross-chain bridges อีกกว่า 30 รายการ ทำให้ผู้ใช้สามารถสว็อปโทเค็นในราคาที่คุ้มที่สุดได้ทันทีโดยไม่ต้องหาหลายแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ Best Wallet ยังรองรับการซื้อคริปโตผ่านระบบ On-ramp ที่ใช้เงิน Fiat ได้กว่า 100 สกุลเงิน ทำให้ผู้ลงทุนจากทั่วโลกเข้าถึงตลาดได้ง่ายกว่าที่เคย
ด้านความปลอดภัย Best Wallet ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะผ่านการตรวจสอบจาก CertiK แล้ว และยังเตรียมเปิดตัวระบบ Gas Token-Free ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ทำธุรกรรมบน Web3 ได้แบบไม่ต้องถือ ETH หรือ SOL สำหรับจ่ายค่าธรรมเนียม ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์ใช้งานให้เป็นมิตรและลื่นไหลกว่ากระเป๋าหลายเจ้าในปัจจุบัน
หากคุณกำลังพิจารณา Best Wallet แนะนำให้ลองอ่านรีวิวเชิงลึก เพื่อประเมินโอกาสและความเหมาะสมกับสไตล์การลงทุนของคุณ และอัปเดตความเห็นผู้ใช้งานผ่าน X และ Telegram
แอป Best Wallet
ข่าวเด่นห้ามพลาด
in numbers
