เลเวอเรจคืออะไร รู้จัก Leverage Ratio และเลเวอเรจควรเท่าไหร่สำหรับมือใหม่

ผู้เขียน
อัปเดตล่าสุด: 
ทำไมจึงไว้วางใจ Cryptonews
Cryptonews ได้รายงานข่าวในวงการคริปโตเคอเรนซีมานานกว่า 10 ปี ทีมงานที่เชี่ยวชาญของเรามุ่งเน้นการวิเคราะห์ตลาด เทคโนโลยีบล็อกเชน และการรายงานอย่างถูกต้องและสมดุล ครอบคลุมคริปโต บล็อกเชน และการพัฒนาในอุตสาหกรรม เรามุ่งมั่นในการให้ความโปร่งใสกับผู้อ่าน เนื้อหาบางส่วนอาจมี Affiliate Links ซึ่งเราอาจได้รับค่าคอมมิชชั่น หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มโปรดอ่านรายละเอียดในเพจ Affiliate Disclosure

เลเวอเรจคืออะไร รู้จัก Leverage Ratio และเลเวอเรจควรเท่าไหร่สำหรับมือใหม่

ในแวดวงของการเทรดอาจมีศัพท์เฉพาะทางเป็นจำนวนมาก หนึ่งในนั้นก็คือ เลเวอเรจ หรือ Leverage ซึ่งมีส่วนช่วยที่จะทำให้การเทรดของคุณมีโอกาสที่จะได้กำไรมากขึ้น ดังนั้นบทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักว่าเลเวอเรจ คืออะไร และสำคัญยังไงในวงการเทรด

เรามีข้อมูลที่คุณควรรู้อื่น ๆ ที่จะช่วยให้เข้าใจความหมายคำนี้ได้มากขึ้น อีกทั้งยังมีตัวอย่างของการเทรดเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายและเห็นภาพ รวมไปถึงคำถามที่พบบ่อยที่จะอาจจะตอบข้อสงสัยของคุณเกี่ยวกับซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ดีขึ้นอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยของการทำกำไรจากการเทรดนั้นมีหลายประการด้วยกัน รวมไปถึงสภาพตลอด ณ ขณะนั้น โดยจะต้องอาศัยการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดเพิ่มเติม

เลเวอเรจ คืออะไร? เปิดความหมายและกลไกสำคัญสำหรับมือใหม่ก่อนเริ่มเทรด


หากคุณเพิ่งเริ่มเข้าสู่โลกของการซื้อขายบนกระดานเทรดคริปโต หนึ่งในคำศัพท์ที่คุณจะต้องเจอแน่นอนก็คือ “เลเวอเรจ” แล้วเลเวอเรจ คืออะไร? ทำไมเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ถึงพูดถึงมันกันบ่อยนัก?

เครื่องมือทางการเงินที่ช่วยให้คุณสามารถเปิดออร์เดอร์ซื้อขายได้ในมูลค่าที่สูงกว่าทุนจริงที่คุณมีอยู่ในบัญชี หรือพูดง่าย ๆ ว่าเป็น พลังเสริม ที่ช่วยเพิ่ม “กำลังซื้อ” ของคุณในตลาด ยิ่งมีเลเวอเรจสูงเท่าไร คุณก็ยิ่งสามารถเทรดในปริมาณที่มากขึ้นได้ แม้จะใช้เงินเริ่มต้นเพียงเล็กน้อย

ตัวอย่างเช่น หากคุณมีเงินทุน 1,000 บาท และเลือกใช้เลเวอเรจ 1:10 นั่นหมายความว่าคุณสามารถเปิดออร์เดอร์ที่มีมูลค่าสูงถึง 10,000 บาทได้ กลไกนี้เป็นพื้นฐานของสิ่งที่เรียกว่า Margin Trading หรือการซื้อขายด้วยเงินประกัน (มาร์จิ้น) ที่โบรกเกอร์จะช่วย “ขยาย” ขนาดการลงทุนของคุณให้ใหญ่ขึ้นตามสัดส่วนที่ตกลงกันไว้

การใช้เลเวอเรจจึงเปรียบเสมือนการงัดไม้คานในทางกลศาสตร์ ซึ่งใช้แรงน้อยแต่ยกของหนักได้ แต่แน่นอนว่า ในโลกการเงิน ทุกพลังเสริมก็มาพร้อมความเสี่ยง เพราะถ้าตลาดเคลื่อนไหวผิดจากที่คุณคาด การขาดทุนก็จะถูกขยายในอัตราเดียวกับเลเวอเรจที่คุณเลือกใช้เช่นกัน

เลเวอเรจ คืออะไร

ด้วยเหตุนี้ เลเวอเรจจึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ทั้งมี พลัง และ ข้อจำกัด โดยเฉพาะสำหรับมือใหม่ การเข้าใจแนวคิดพื้นฐานนี้อย่างถ่องแท้จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ก่อนจะไปเรียนรู้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสัดส่วนของเลเวอเรจ (Leverage Ratio) และวิธีเลือกใช้อย่างมีประสิทธิภาพในการเทรดจริง

Leverage Ratio คืออะไร? ถอดรหัส เลเวอเรจ 1:100, 1:500, และ 1:1000 ว่ามีความหมายอย่างไร


Leverage Ratio คืออะไร? ถอดรหัส เลเวอเรจ 1:100, 1:500, และ 1:1000 ว่ามีความหมายอย่างไร

เมื่อเข้าใจแล้วว่า เลเวอเรจคืออะไร ขั้นตอนต่อไปที่เทรดเดอร์มือใหม่ทุกคนต้องทำความเข้าใจให้ดี คือ Leverage Ratio หรือ อัตราส่วนของเลเวอเรจ ซึ่งเป็นตัวกำหนดว่าเงินทุนของคุณจะถูกขยายได้มากแค่ไหน

Leverage Ratio คืออะไร?

Leverage Ratio คือ อัตราส่วนที่บ่งบอกว่าเงินทุนของคุณ (ทุนจริง) จะสามารถ “งัด” หรือ “ขยาย” ได้เป็นกี่เท่า ตัวเลขนี้มักจะปรากฏในรูปแบบ 1:x เช่น

  • เลเวอเรจ 1:100 คือ เทรดด้วยกำลังซื้อที่มากกว่าทุนจริง 100 เท่า
  • เลเวอเรจ 1:500 คือ เทรดได้มากกว่าทุน 500 เท่า
  • เลเวอเรจ 1:1000 คือ ขยายพลังการเทรดมากถึง 1,000 เท่า

สิ่งนี้มีผลโดยตรงต่อ Margin Requirement หรือเงินประกันที่คุณต้องวางไว้เพื่อเปิดสถานะ (Position) ในแต่ละครั้ง โดยคุณสามารถมองหาแพลตฟอร์มเทรดฟิวเจอร์คริปโตด้วยเลเวอเรจ 100 เท่าได้จากรีวิวผู้ใช้งานจริง หรือเทรดเดอร์ผู้เชี่ยวชาญ

ตัวอย่างง่าย ๆ: ถ้ามีเงิน $100 จะเปิดออเดอร์ได้เท่าไหร่?

Leverage Ratio ความหมาย เงินทุนจริง ($) กำลังซื้อสูงสุด (Position Size) Margin ที่ใช้ (โดยประมาณ)
1:100 เทรดได้ 100 เท่าของทุนจริง $100 $10,000 1%
1:500 ขยายพลังเทรดเป็น 500 เท่าของเงินทุน $100 $50,000 0.2%
1:1000 เทรดได้สูงสุดถึง 1,000 เท่าของทุนจริง $100 $100,000 0.1%

จุดสังเกต ยิ่งอัตราเลเวอเรจสูงก็จะยิ่งใช้ Margin น้อยลงในการเปิดออร์เดอร์ แต่ในขณะเดียวกันความเสี่ยงก็สูงขึ้นตามไปด้วย

กลไกของกำไรและขาดทุนภายใต้เลเวอเรจ

  • หากตลาดขยับ ในทางที่คุณคาดไว้ กำไรก็จะถูกขยายตามอัตราเลเวอเรจ เช่น ขยับ 1% ที่เลเวอเรจ 1:100 อาจให้กำไรเท่ากับ 100%
  • แต่หากตลาดขยับ ผิดทาง คุณอาจขาดทุนในอัตราเดียวกัน จนอาจโดน Margin Call (แจ้งให้เติมเงิน) หรือ Stop Out (ระบบปิดอัตโนมัติ) ได้เร็วมากขึ้น

ตัวอย่างการคำนวณ:

หากคุณมีเงิน $100 ต้องการเปิดออเดอร์มูลค่า $10,000

ต้องใช้เลเวอเรจ 1:100

Margin ที่ใช้ = 1% ของ $10,000 = $100 จะพอดีกับทุน

แต่ถ้าคุณใช้เลเวอเรจ 1:500 ดังนั้น Margin ที่ใช้ = 0.2% ของ $10,000 = $20 ซึ่งจะเหลือทุนอีก $80 ไว้รับแรงเหวี่ยงของตลาด หรือที่เรียกว่า Drawdown

แล้วควรเลือกเลเวอเรจเท่าไรดี?

ไม่มีคำตอบเดียวที่เหมาะกับทุกคน การเลือก เลเวอเรจ 1:100, 1:500, หรือ 1:1000 ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

  • ความเข้าใจกลยุทธ์เทรดของคุณ
  • ความสามารถในการบริหารความเสี่ยง
  • ขนาดของทุนเริ่มต้น
  • และที่สำคัญที่สุดคือ “สภาพจิตใจ” ว่ารับความผันผวนได้มากน้อยแค่ไหน

เทรดเดอร์ที่เน้นความปลอดภัยอาจเลือกใช้เลเวอเรจต่ำ เช่น 1:50 หรือ 1:100 แต่เทรดเดอร์ที่ชำนาญและมีระบบควบคุมความเสี่ยงอาจกล้าใช้เลเวอเรจ 1:500 หรือสูงกว่านั้นในสถานการณ์เฉพาะ

มือใหม่เลเวอเรจ ควรเท่าไหร่ ? พร้อมวิธีจัดการความเสี่ยงและข้อควรระวัง


เมื่อเข้าใจแล้วว่า Leverage คืออะไร และ เลเวอเรจ 1:100, 1:500, หรือ 1:1000 ทำงานอย่างไร คำถามต่อมาสำหรับมือใหม่คือ “เลเวอเรจ ควรเท่าไหร่ดี ?” เพราะแม้ว่าเลเวอเรจจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ถ้าใช้ไม่เหมาะสม ก็อาจกลายเป็นกับดักที่ทำให้พอร์ตพังได้อย่างรวดเร็ว

แล้วเลเวอเรจ สําหรับมือใหม่เท่าไหร่ถึงจะพอเหมาะ?

เลเวอเรจ สําหรับมือใหม่ควรอยู่ในระดับที่เหมาะสมกับความเข้าใจและประสบการณ์ของผู้ใช้งาน ซึ่งจริง ๆ แล้ว ไม่มีเลเวอเรจที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนถึงแม้จะใช้บอทเทรดคริปโตก็ตาม เพราะการเลือกเลเวอเรจที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สไตล์การเทรด ความสามารถในการบริหารความเสี่ยง และความมั่นคงทางอารมณ์

อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น แนะนำให้ใช้เลเวอเรจในช่วง 1:50 ถึง 1:200 เพราะยังให้กำลังซื้อที่เพียงพอสำหรับการเปิดสถานะ แต่ยังควบคุมความเสี่ยงได้ง่ายกว่าเลเวอเรจที่สูงมากอย่าง 1:500 หรือ 1:1000 ซึ่งอาจเพิ่มแรงเหวี่ยงของตลาดจนยากต่อการจัดการ หากยังไม่มีระบบป้องกันความเสี่ยงที่ชัดเจน

ข้อดีของการใช้เลเวอเรจ


การใช้เลเวอเรจ (Leverage) อย่างเหมาะสมสามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและเพิ่มประสิทธิภาพของเงินทุนที่มีอยู่

ใช้เงินทุนน้อยก็สามารถเปิด Position ใหญ่ได้เพิ่มโอกาสในการทำกำไรมีความยืดหยุ่นในการบริหารพอร์ตประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์หลากหลาย

ใช้เงินทุนน้อยก็สามารถเปิด Position ใหญ่ได้

เลเวอเรจเปรียบเสมือนเครื่องทวีคูณกำลังซื้อของนักเทรด ทำให้คุณสามารถควบคุมสัญญาซื้อขายขนาดใหญ่โดยใช้เงินทุนเพียงเล็กน้อย เช่น หากคุณมีทุนเพียง $100 และใช้เลเวอเรจ 1:100 คุณจะสามารถเปิดออร์เดอร์ที่มีมูลค่าถึง $10,000 ได้ ซึ่งช่วยให้ผู้เริ่มต้นสามารถเข้าสู่ตลาดฟอเร็กซ์ได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องรอสะสมทุนจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ยิ่งเลเวอเรจสูง ความเสี่ยงก็ยิ่งเพิ่มตาม จึงควรเลือกใช้อย่างเหมาะสมกับประสบการณ์และแผนการเทรดของตน

เพิ่มโอกาสในการทำกำไร

เลเวอเรจสามารถขยายผลตอบแทนจากการเทรดให้มากกว่าที่เงินทุนของคุณรองรับได้ หากคุณวางแผนการเทรดอย่างรัดกุม วิเคราะห์ทิศทางตลาดได้แม่นยำ และตั้งจุดตัดขาดทุนอย่างเหมาะสม การใช้เลเวอเรจจะช่วยให้ผลกำไรเติบโตเร็วกว่าการเทรดแบบไม่ใช้เลเวอเรจ โดยเฉพาะในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวชัดเจน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ต้องระวังคือ เมื่อผลกำไรขยาย ความเสียหายก็สามารถขยายตามเช่นกัน หากตลาดไม่เป็นไปตามคาด

มีความยืดหยุ่นในการบริหารพอร์ต

การมีเลเวอเรจอยู่ในมือทำให้คุณสามารถบริหารเงินทุนอย่างยืดหยุ่นมากขึ้น แทนที่จะนำเงินทั้งหมดไปผูกไว้กับออร์เดอร์เดียวกับเหรียญคริปโตที่น่าลงทุน คุณสามารถแบ่งทุนบางส่วนไว้ใช้สำหรับการตั้ง Stop Loss ที่กว้างขึ้น การเปิดหลายออร์เดอร์ในสินทรัพย์ที่หลากหลาย หรือแม้แต่รองรับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นในตลาดได้ การใช้เลเวอเรจจึงไม่ใช่แค่เรื่องการขยายออร์เดอร์ แต่ยังเป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงในภาพรวมของพอร์ตอีกด้วย

ประยุกต์ใช้กับกลยุทธ์หลากหลาย

กลยุทธ์การเทรดบางประเภทต้องอาศัยการเปิด–ปิดออร์เดอร์บ่อยครั้ง หรือทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เล็กมาก เช่น Scalping หรือ Intraday Trading การใช้เลเวอเรจจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้การเทรดเหล่านี้ “คุ้มค่า” ในเชิงผลตอบแทน เพราะหากไม่ใช้เลเวอเรจ กำไรจากการเคลื่อนไหวเพียงไม่กี่จุดอาจไม่ครอบคลุมค่าธรรมเนียมเลยด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม การใช้กลยุทธ์เหล่านี้ควรมาพร้อมแผนควบคุมความเสี่ยงที่ชัดเจน เช่น การตั้ง Stop Loss ที่แม่นยำ หรือใช้ปริมาณออร์เดอร์ที่เหมาะสมกับพอร์ตของตน

ข้อเสียของการใช้เลเวอเรจ


แม้เลเวอเรจจะให้พลังขยายผล แต่หากใช้โดยไม่ระวัง ก็อาจทำให้เกิดผลขาดทุนรุนแรงหรือ ล้างพอร์ต ได้เช่นกัน

ขาดทุนรุนแรงหากตลาดตีกลับความเสี่ยงจาก Over-leveragingความเครียดและการเทรดตามอารมณ์ต้องมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี

ขาดทุนรุนแรงหากตลาดตีกลับ

แม้เลเวอเรจจะช่วยให้คุณเปิดออเดอร์ขนาดใหญ่ได้จากเงินทุนน้อย แต่ต้องไม่ลืมว่า หากราคาขยับสวนทางกับที่คุณคาดการณ์ไว้ ผลกระทบต่อเงินทุนของคุณจะรุนแรงมากขึ้นตามไปด้วย ยิ่งใช้เลเวอเรจสูงเท่าไหร่ ราคาก็ยิ่งไม่ต้องขยับมาก คุณก็อาจขาดทุนจนพอร์ตพังได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะในช่วงตลาดผันผวนที่เกิดแรงเหวี่ยงหนัก การไม่มีแผนรับมือเมื่อกราฟวิ่งผิดทางคือจุดเริ่มต้นของการล้างพอร์ตที่แท้จริง

ความเสี่ยงจาก Over-leveraging

หนึ่งในข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อยสำหรับมือใหม่ คือการหลงใช้เลเวอเรจสูงเกินไป ด้วยความเข้าใจผิดว่ามันคือทางลัดสู่กำไรที่มากขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้ว เลเวอเรจสูงทำให้คุณเทรดด้วยเงินจำนวนมากกว่าที่ควรจะเป็น ส่งผลให้ควบคุมความเสี่ยงยากขึ้น และไม่มีช่องว่างพอให้พอร์ตทนทานต่อความผันผวนใด ๆ เมื่อขาดการวางแผนและควบคุมความเสี่ยง ผลลัพธ์สุดท้ายก็คือการสูญเสียเงินทุนทั้งหมดในเวลาอันสั้น

ความเครียดและการเทรดตามอารมณ์

การเทรดด้วยเลเวอเรจสูงเปรียบเหมือนการเล่นรถไฟเหาะทางอารมณ์ แค่ราคาขยับเพียงเล็กน้อย พอร์ตของคุณอาจบวกแรงหรือลบหนักได้ทันที ซึ่งส่งผลต่อจิตใจของเทรดเดอร์โดยตรง มือใหม่ที่ยังไม่ชินกับแรงเหวี่ยงของตลาด อาจเกิดอาการแพนิค กลัวขาดทุน หรือโลภเกินไปจนตัดสินใจผิดพลาด เช่น ปิดออเดอร์เร็วเกินไป หรือถัวเฉลี่ยขาลงโดยไม่รู้ตัว สิ่งเหล่านี้ทำให้แผนการเทรดพัง และกลายเป็นความเสี่ยงในระยะยาว

ต้องมีการจัดการความเสี่ยงที่ดี

เลเวอเรจไม่ใช่สิ่งที่อันตราย หากคุณรู้จักใช้มันอย่างมีวินัย การตั้ง Stop Loss อย่างชัดเจน การคำนวณขนาด Position ให้เหมาะกับขนาดพอร์ต และการกำหนดระดับความเสี่ยงต่อออเดอร์ล่วงหน้า ล้วนเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณรอดพ้นจากการล้างพอร์ต แม้ในวันที่ตลาดจะเคลื่อนไหวอย่างคาดไม่ถึง อย่ามองว่าเลเวอเรจเป็นเครื่องมือเร่งรวย แต่ให้มองว่ามันคือมีดคมที่คุณต้องฝึกใช้ให้คล่องมือก่อนที่จะหั่นอะไรใหญ่ ๆ

เลเวอเรจ ไม่จํากัดคืออะไร?


เลเวอเรจ ไม่จํากัด (Unlimited Leverage) คือเครื่องมือที่โบรกเกอร์บางเจ้ามอบให้กับเทรดเดอร์หรือแพลตฟอร์ม Bitcoin Wallet โดยอนุญาตให้เปิด Position ได้ใหญ่มาก แม้จะใช้ Margin เพียงเล็กน้อย เช่น มีเงินแค่ $1 ก็สามารถเทรดได้ในขนาดเท่ากับหลายพันดอลลาร์ ความได้เปรียบของระบบนี้คือช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องกลยุทธ์การเทรดระยะสั้น เข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาในแต่ละวินาที และสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ดีในระดับจิตวิทยาและระบบเทรดจริง

อย่างไรก็ตาม สำหรับมือใหม่ เลเวอเรจไม่จำกัดถือเป็นดาบสองคมที่อันตรายที่สุด เพราะแม้โอกาสจะเพิ่มขึ้น แต่ความเสี่ยงก็พุ่งขึ้นเท่าตัว หากราคาตลาดเคลื่อนไหวผิดทางเพียงเล็กน้อยก็อาจโดนล้างพอร์ตในพริบตา ที่สำคัญคือระบบนี้มักไม่เหมาะกับผู้ที่ยังไม่มีแผน Stop Loss ที่แม่นยำหรือยังไม่มีวินัยในการควบคุมอารมณ์การเทรด เพราะแม้การเปิดออเดอร์จะง่าย แต่การเอาตัวรอดให้พอร์ตอยู่รอดได้ต่างหากคือของจริงในโลกของ Unlimited Leverage

วิธีจัดการความเสี่ยงเมื่อใช้เลเวอเรจ

ไม่ว่าคุณจะใช้เลเวอเรจระดับไหนก็ตามหรือเป็นเลเวอเรจ สําหรับมือใหม่ สิ่งสำคัญที่สุดคือ การจัดการความเสี่ยง (Risk Management) ซึ่งควรครอบคลุมประเด็นต่อไปนี้

  • ตั้ง Stop Loss ทุกครั้ง: อย่าเปิดออเดอร์โดยไม่มีจุดตัดขาดทุน เพราะนั่นคือสูตรลัดสู่การล้างพอร์ต
  • ใช้ Risk-to-Reward Ratio ที่สมดุล: โดยทั่วไปควรอยู่ที่ 1:2 หรือมากกว่า เพื่อให้ความเสี่ยงที่เสียไปคุ้มค่ากับผลตอบแทนที่ได้
  • คำนวณขนาด Position อย่างเหมาะสม: ใช้ Position Sizing Strategy เพื่อให้ความเสี่ยงต่อออเดอร์แต่ละรายการไม่เกิน 1–2% ของพอร์ตทั้งหมด
  • หลีกเลี่ยงการ Over-trade: อย่าหลงกลความสามารถของเลเวอเรจ จนเปิดออเดอร์มากเกินไปในเวลาเดียวกัน

เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับมือใหม่

เริ่มจากบัญชีทดลองก่อนเสมอ อย่าพึ่งใช้เงินจริงทันที ลองฝึกกลยุทธ์และการบริหารเลเวอเรจ สําหรับมือใหม่ในบัญชีเดโมก่อน เพื่อดูว่าคุณสามารถจัดการกับความผันผวนได้แค่ไหนโดยไม่เสียเงินจริง

  • อย่าหมดหน้าตักในออร์เดอร์เดียว: แบ่งพอร์ตไว้ให้มีเงินเหลือสำรอง เลือกเลเวอเรจ ควรเท่าไหร่ ป้องกันการล้างพอร์ตจากความผันผวนระยะสั้น
  • ติดตามข่าวและปฏิทินเศรษฐกิจ: ข่าวใหญ่สามารถทำให้ตลาดเหวี่ยงแรง ยิ่งถ้าใช้เลเวอเรจสูงยิ่งต้องระวัง เช่น ตัวเลขดอกเบี้ย NFP หรือ GDP
  • เทรดให้น้อยแต่เน้นคุณภาพ: ไม่จำเป็นต้องเข้าเทรดทุกวัน มือใหม่มักจะ “เทรดเยอะเกิน” จนลืมควบคุมความเสี่ยง เลือกจังหวะที่มั่นใจและมี R:R ที่คุ้มเท่านั้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Leverage


Leverage กับ Margin แตกต่างกันอย่างไร?

เลเวอเรจสูงหมายถึงความเสี่ยงสูงเสมอไปหรือไม่?

ถ้าไม่ใช้เลเวอเรจจะเทรดในตลาด Forex หรือ CFD ได้ไหม?

การล้างพอร์ต (Margin Call) เกิดขึ้นได้อย่างไรเมื่อใช้ Leverage?

ควรปรับลดเลเวอเรจเมื่อไหร่ และทำได้อย่างไร?

ตลาดไหนบ้างที่นิยมใช้ Leverage ในการเทรด?

2M+

มีผู้ใช้งานรายเดือนทั่วโลกมากกว่า

250+

มีบทความรีวิวและคู่มือมากกว่า

8 ปี

อยู่ในตลาดมาแล้ว

70 คน

มีทีมงานนักเขียนนานาชาติกว่า

ICO ของ Crypto ที่ดีที่สุด

ค้นพบโทเค็นที่กำลังได้รับความนิยมซึ่งยังอยู่ในช่วงพรีเซลล์ — การเลือกในช่วงเริ่มต้นที่มีศักยภาพ

ภาพรวมตลาด

  • 7 วัน
  • 1 เดือน
  • 1 ปี
มูลค่าตลาดรวม
$3,118,880,358,890
-1.16
เหรียญยอดนิยม
Crypto News in numbers
editors
Authors List เพิ่มอีก 66+
2M+
มีผู้ใช้งานรายเดือนทั่วโลกมากกว่า
250+
มีบทความรีวิวและคู่มือมากกว่า
8 ปี
อยู่ในตลาดมาแล้ว
70 คน
มีทีมงานนักเขียนนานาชาติกว่า