คู่มือวิธีสร้างกระเป๋าเงินคริปโตและสร้างกระเป๋า Bitcoin แบบเข้าใจง่าย
ในปี 2025 ตลาดคริปโตมีการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งโดนัลด์ ทรัมป์ได้ผลักดันกฎหมายและกรอบนโยบายใหม่ซึ่งเอื้อต่อการเติบโตของคริปโตตามความต้องการที่จะทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำด้านสินทรัพย์ดิจิทัล และจากผลการสำรวจพบว่ากว่า 20% ของประชากรวัยผู้ใหญ่ในสหรัฐอเมริกามีคริปโตเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตการลงทุน
ในประเทศไทยเองก็มีแนวโน้มการลงทุนในคริปโตที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2025 ประเทศไทยมีอัตราการใช้งานคริปโตเคอร์เรนซีอยู่ที่ประมาณ 18% ของประชากรทั้งหมด และถือว่าอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกอย่างมีนัยสำคัญ
หากคุณเป็นผู้เริ่มต้นและสนใจที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโต บทความนี้จะนำพาคุณได้เรียนรู้วิธีสร้างกระเป๋าเงินคริปโตอย่างละเอียด และแนะนำวิธีการรักษาความปลอดภัยหลังสร้างกระเป๋าเงินคริปโต
- ผู้ถือโทเค็น $BEST จะได้สิทธิพิเศษในการเข้าถึงรอบพรีเซลของโทเค็นฮอตฮิตในตลาดก่อนใคร
- เพิ่ม APY จากการ Staking บน Best Wallet ด้วยการถือโทเค็น $BEST
- ผู้ถือโทเค็น $BEST สามารถจ่ายค่าธรรมเนียมธุรกรรมได้ถูกลงในระบบนิเวศของ Best Wallet
BNB- USDT
- Ethereum
ทำไมนักลงทุนจำเป็นต้องสร้างกระเป๋าเงินคริปโต
การมีกระเป๋าเงินคริปโตถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักลงทุนทุกคน เพราะกระเป๋าเงินคริปโต (Crypto Wallet) คือเครื่องมือดิจิทัลที่ช่วยเก็บรักษา Private Key ซึ่งจำเป็นต่อการเข้าถึงสินทรัพย์ภายในกระเป๋า เช่น Bitcoin ที่อยู่บนบล็อกเชน (Blockchain)
กระเป๋าเงินคริปโตไม่ได้เก็บเหรียญจริง ๆ แต่เป็นเหมือนกุญแจที่พิสูจน์ความเป็นเจ้าของและให้สิทธิ์ทำธุรกรรมบนบล็อกเชน ช่วยให้ผู้ใช้มีความปลอดภัยในการจัดการสินทรัพย์ดิจิทัลของตนเอง สามารถส่ง รับ และเก็บรักษาคริปโตได้อย่างเป็นอิสระและปลอดภัยโดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง
วิธีสร้างกระเป๋าเงินคริปโตนั้นสิ่งสำคัญอีกหนึ่งสิ่งคือ Seed Phrase หรือ Recovery Phrase ซึ่งเป็นเครื่องมือสำหรับการ “กู้คืน” กระเป๋าเงินคริปโตซึ่งรวมถึง Private Key และที่อยู่กระเป๋าเงินคริปโตทั้งหลายที่เชื่อมโยงกัน มาในรูปแบบชุดคำ 12, 18 หรือ 24 คำ ต้องเก็บรักษาไว้เป็นความลับสูงสุด
Public Key คือกุญแจสาธารณะ ทำหน้าที่คล้ายกับ “ที่อยู่ปลายทาง” หรือ “หมายเลขบัญชีธนาคาร” สำหรับการรับคริปโต
|
รายการ |
หน้าที่ | เปิดเผยได้ไหม | ใช้ทำอะไร |
|
Seed Phrase |
แม่รหัสของกระเป๋าทั้งหมด |
❌ ห้ามเปิดเผย |
กู้คืนกระเป๋าเงินคริปโตทั้งหมด |
|
Private Key |
ลงนามธุรกรรม |
❌ ห้ามเปิดเผย |
พิสูจน์การเป็นเจ้าของ |
| Public Key | เป็นที่อยู่ปลายทาง | ✅ เปิดเผยได้ |
รับเหรียญจากผู้อื่น |
กระเป๋าเงินคริปโตมี 2 ประเภท ได้แก่
1. Hot Wallet: กระเป๋าเงินที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เช่น กระเป๋าเงินบนเว็บไซต์ แอปพลิเคชันกระเป๋าเงิน และส่วนขยายเว็บเบราว์เซอร์
เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น การซื้อขายหรือการโอนเหรียญ ข้อดีคือความสะดวก แต่ก็มีความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์
ตัวอย่าง: Best Wallet, MetaMask และ Trust Wallet
2. Cold Wallet: กระเป๋าเงินที่ไม่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เช่น Hardware Wallet, กระเป๋าเงินกระดาษ และ Air-gapped Computer (คอมพิวเตอร์ที่แยกจากอินเทอร์เน็ต)
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บเหรียญระยะยาว เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์
ตัวอย่าง: การจด Private Key และ Public Key ไว้บนกระดาษ, Ledger Nano S Plus และ USB Drive
นักลงทุนสามารถจัดเก็บคริปโตไว้บนกระดานเทรดได้ เช่น Binance แต่มีความเสี่ยงมากกว่า เพราะกระดานเทรดจะเป็นผู้ควบคุม Private Key หากเกิดเหตุการณ์บางอย่าง เช่น กระดานเทรดล่มสลาย บัญชีผู้ใช้ถูกโจมตี หรือการถูกปิดบัญชีผู้ใช้ ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนสูญเสียการเข้าถึงคริปโตของตนทั้งหมด
สรุปความแตกต่างระหว่างกระเป๋าเงินคริปโต
| คุณสมบัติ | กระเป๋าเงินคริปโต | บัญชีบนกระดานเทรด |
| ความเป็นเจ้าของ Private Key | คุณเป็นเจ้าของและควบคุม Private Key | กระดานเทรดเป็นเจ้าของ Private Key |
| ความสะดวกในการใช้ | ต้องมีการตั้งค่าก่อนใช้งาน | ใช้งานง่ายและสะดวกในการซื้อขาย |
| การควบคุม | คุณควบคุมการจัดการเหรียญทั้งหมด | กระดานเทรดควบคุมการจัดการเหรียญ |
| ความเสี่ยง | ความเสี่ยงจากการสูญเสีย Private Key | ความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์หรือกระดานเทรดปิดตัว |
| การใช้งาน | เหมาะสำหรับการเก็บระยะยาว | เหมาะสำหรับการซื้อขายหรือเทรด |
แนะนำขั้นตอนวิธีสร้างกระเป๋าเงินคริปโตสำหรับผู้เริ่มต้น
หากคุณเป็นผู้ใช้มือใหม่ เราขอแนะนำให้คุณเลือกใช้ Best Wallet เพราะมาในรูปแบบแอปพลิเคชันและมีฟังก์ชันมากมาย เช่น ซื้อ ขาย และแลกเปลี่ยนภายในตัว อีกทั้งยังมีฟีเจอร์พิเศษอย่าง “Upcoming Tokens” ที่รวมรายชื่อเหรียญ Presale มาใหม่ที่เป็นเหรียญต้นน้ำและเตรียมกำลังจะเปิดตัว
แม้ว่า Best Wallet เป็น Hot Wallet แต่ผู้ให้บริการรายนี้เป็นกระเป๋าคริปโตแบบ Non-custodial ที่ผู้ใช้เป็นเจ้าของและควบคุม Private Key ด้วยตนเอง 100% หมายความว่า Best Wallet เองจะไม่สามารถควบคุมหรือเข้าถึงสินทรัพย์ของคุณได้
สำหรับวิธีสร้างกระเป๋าเงินคริปโตกับ Best Wallet นั้น คุณจะได้รับชุดคำที่เรียกว่า Seed Phrase หรือ Recovery Phrase เพื่อใช้ในการกู้คืนกระเป๋าเงินคริปโตในกรณีที่อุปกรณ์หรือ Private Key สูญหาย
โดยขั้นตอนในการสร้างมีดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: ติดตั้ง Best Wallet
วิธีการติดตั้ง Best Wallet นั้นเรียบง่ายและเร็ว คุณสามารถดาวน์โหลดแอปได้โดยตรงจาก Google Play Store หรือ Apple App Store เพียงค้นหาชื่อ “Best Wallet” จากนั้นกดเลือกแอปแล้วแตะที่ปุ่ม ติดตั้ง (Install) เมื่อดาวน์โหลดเสร็จ แอปจะพร้อมใช้งานบนอุปกรณ์ของคุณทันที
ขั้นตอนที่ 2: เปิดบัญชี
เมื่อคุณติดตั้ง Best Wallet ลงบนอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว สามารถเปิดแอปเพื่อเริ่มใช้งานได้ทันที ระบบจะให้คุณกรอกที่อยู่อีเมลที่ใช้งานได้จริง ซึ่งเป็นข้อมูลส่วนบุคคลเพียงอย่างเดียวที่จำเป็นสำหรับการเข้าถึงฟังก์ชันทั้งหมดของแอป
หลังจากกรอกอีเมลเสร็จ ระบบจะส่งอีเมลยืนยันไปยังที่อยู่นั้น โดยภายในจะมีลิงก์สำหรับยืนยันตัวตนของคุณ ให้ทำการคลิกที่ลิงก์ดังกล่าวเพื่อยืนยัน
เมื่อกระบวนการนี้เสร็จสิ้น คุณก็จะสามารถใช้งานฟีเจอร์ทั้งหมดของ Best Wallet ได้อย่างสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นการจัดการสินทรัพย์หรือดูพอร์ตการลงทุนของคุณได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
ขั้นตอนที่ 3: เปิดใช้งานฟังก์ชันความปลอดภัย
หลังจากที่คุณสามารถเข้าใช้งาน Best Wallet ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว สิ่งแรกที่ควรทำคือการตั้งค่าระบบรักษาความปลอดภัยให้ครอบคลุมมากที่สุด เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
หนึ่งในขั้นตอนสำคัญคือการเก็บรักษา Seed Phrase จำนวน 12 คำ เพราะสามารถใช้กู้คืนบัญชี Best Wallet ของคุณได้ในกรณีที่สูญเสียการเข้าถึงแอป
Best Wallet มีระบบป้องกันหลายชั้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ ซึ่งประกอบด้วย:
- การกำหนดรหัส PIN 4 หลัก
- การยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (2-Factor Authentication หรือ 2FA)
- การยืนยันตัวตนด้วยข้อมูลชีวภาพ เช่น ลายนิ้วมือหรือการสแกนใบหน้า
เพื่อให้บัญชีและสินทรัพย์ของคุณได้รับการปกป้องอย่างดีที่สุด แนะนำให้เปิดใช้งานฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยทั้งหมด
ขั้นตอนที่ 4: เริ่มต้นโอนหรือซื้อคริปโต
หากคุณมีคริปโตอยู่แล้ว คุณสามารถโอนเหรียญเข้าสู่ Best Wallet ได้อย่างสะดวก เพียงเลือกสกุลเงินดิจิทัลที่ต้องการ จากนั้นแตะที่ปุ่ม “รับ” (Receive) ระบบจะแสดงรหัส QR และ Public Key ของคุณ เพียงคัดลอกข้อมูลนี้หรือสแกนรหัส QR ก็สามารถเริ่มต้นการโอนได้ทันที
สำหรับผู้ที่ยังไม่มีคริปโตก็สามารถซื้อเหรียญได้บน Best Wallet ซึ่งรองรับการชำระเงินหลายรูปแบบ เช่น บัตรเครดิต การโอนเงินผ่านธนาคาร, หรือช่องทางการชำระเงินออนไลน์อื่น ๆ เมื่อทำรายการเสร็จ เหรียญจะถูกโอนเข้าบัญชีของคุณโดยอัตโนมัติ
ทั้งนี้ ความเร็วในการดำเนินการขึ้นอยู่กับวิธีการชำระเงินที่เลือกใช้
ผู้ที่สนใจสามารถศึกษาวิธีซื้อเหรียญคริปโตบน Best Wallet เพิ่มเติมได้ที่นี่
5 วิธีการรักษาความปลอดภัยหลังสร้างกระเป๋า Bitcoin: เคล็ดลับสำคัญที่ต้องรู้
เมื่อคุณได้ทำการสร้างกระเป๋า Bitcoin เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปที่สำคัญไม่แพ้กันคือการรักษาความปลอดภัยของกระเป๋าเงินคริปโตเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์หรือการสูญเสียข้อมูลสำคัญ
ต่อไปนี้คือแนวทางปฏิบัติที่ควรยึดถือเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของสินทรัพย์ของคุณ
1. ระมัดระวังการโจมตีแบบ Phishing และ Malware
การโจมตีรูปแบบ Phishing มักมาในลักษณะของเว็บไซต์หรืออีเมลปลอมที่เลียนแบบบริการกระเป๋าเงินคริปโตหรือกระดานเทรดคริปโตเพื่อหลอกให้ผู้ใช้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือ Seed Phrase
ดังนั้น ควรตรวจสอบที่อยู่เว็บไซต์ให้แน่ชัดก่อนเข้าสู่ระบบ และหลีกเลี่ยงการดาวน์โหลดไฟล์จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ รวมถึงติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสและอัปเดตให้ทันสมัยอยู่เสมอ
2. เปิดใช้งานระบบยืนยันตัวตนสองขั้นตอน Two-Factor Authentication (2FA)
การเปิดใช้งาน 2FA เป็นวิธีเพิ่มความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ แม้บุคคลอื่นจะทราบรหัสผ่านของคุณ ก็จะไม่สามารถเข้าถึงบัญชีได้หากไม่มีรหัสยืนยันจากแอปพลิเคชัน เช่น Google Authenticator หรือ Authy
3. ใช้ VPN เมื่อต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
การเข้าถึงกระเป๋าเงินคริปโตผ่านเครือข่ายสาธารณะอาจเปิดช่องให้แฮ็กเกอร์ดักจับข้อมูลได้ การใช้ VPN จะช่วยเข้ารหัสข้อมูลและปกปิดตำแหน่งทางอินเทอร์เน็ต ทำให้การใช้งานปลอดภัยยิ่งขึ้น
4. จัดการรหัสผ่านด้วย Password Manager
ใช้โปรแกรม Password Manager เพื่อสร้างและจัดเก็บรหัสผ่านที่มีความซับซ้อน ป้องกันการใช้รหัสซ้ำ และช่วยให้การจัดการรหัสผ่านหลายบัญชีทำได้อย่างเป็นระบบและปลอดภัย
5. เก็บรักษา Seed Phrase อย่างปลอดภัยและอัปเดตซอฟต์แวร์สม่ำเสมอ
Seed Phrase คือหัวใจสำคัญของการเข้าถึงกระเป๋าเงินคริปโต หากสูญหายหรือผู้อื่นล่วงรู้ คุณอาจสูญเสียคริปโตทั้งหมด ควรบันทึก Seed Phrase ลงบนกระดาษและเก็บไว้ในสถานที่ปลอดภัย เช่น ตู้เซฟ ห้ามถ่ายรูปหรือบันทึกเก็บไว้ในอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
นอกจากนี้ ควรอัปเดตแอปพลิเคชันและระบบปฏิบัติการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อปิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
การปฏิบัติตามแนวทางทั้ง 5 ข้อนี้จะช่วยให้กระเป๋า Bitcoin ของคุณมีความปลอดภัยสูงสุด และลดความเสี่ยงจากการถูกโจมตีหรือสูญเสียทรัพย์สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีสร้างกระเป๋าเงินคริปโต
กระเป๋าเงินคริปโตมีกี่ประเภทและแต่ละประเภทเหมาะกับใคร?
Seed Phrase คืออะไรและสำคัญอย่างไร?
ถ้าลืมรหัสผ่านกระเป๋าเงินคริปโตจะทำอย่างไร?
กระเป๋าเงินคริปโตปลอดภัยแค่ไหนและมีวิธีป้องกันการถูกแฮกอย่างไร?
การเก็บคริปโตไว้บนกระดานเทรดปลอดภัยหรือไม่?
มีค่าธรรมเนียมในการสร้างและใช้กระเป๋าเงินคริปโตหรือไม่?
in numbers
